แชร์แม่มณี อย่ามองในมิติขาวดำ

แชร์แม่มณี อย่ามองในมิติขาวดำ


วันนี้ นายไพศาล มังกรไชยา ผู้สื่อข่าวอาวุโส ได้ ไลฟ์สด ผ่านเฟซบุ๊ก Thaiquote  กรณีข่าวดัง แชร์แม่มณี ที่มีจำนวนผู้เสียหาย และ วงเงินความเสียหายจำนวนมาก โดยชี้ประเด็น โครงสร้างของระบบการชักชวนการลงทุนที่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน ไม่ใช่มีแค่เพียง แม่มณีกับผู้เสียหาย หรือ มองในแง่ ขาวดำ เท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นบทเรียนในอนาคต โดยมีรายละเอียดดังนี้ (สามารถติดตามการไลฟ์สด มุมมองประเด็นดังของ คุณไพศาล มังกรไชยา ได้เป็นประจำที่ Thaiquote )

วันนี้จะขอคุยเรื่องแชร์ลูกโซ่แม่มณี ขณะนี้ลูกข่ายที่เอาเงินมาลงทุนไม่ใช่แค่ที่จังหวัดอุดรฯหรือราชบุรีตามที่เป็นข่าว แต่ครอบคลุมหลายพื้นที่ทั่วประเทศ น่าจะยืนยันได้อย่างหนึ่งว่าระดับความเสียหายคงจะสูง แต่วันนี้อยากมาให้มุมมองเรื่องแชร์แม่มณี หรือในอนาคตอาจมีการฉ้อโกงในรูปแบบแชร์อื่นๆ เราไม่ควรมองในมิติที่เป็นขาวกับดำ คือมองในมิติผู้เสียหายกับผู้หลองลวงประชาชน ตัวอย่างตอนนี้ที่เป็นท้าวแชร์อยู่ คือ แม่มณีซึ่งตามข่าวว่าเป็นเน็ตไอดอล ซึ่งอายุราว 28-30 ปี แฟนเขาก็อายุน้อยอยู่ ที่ติดตามโซเชียลเขาก็มีผู้ติดตามมาก มีจุดเด่นจุดขายที่คนสนใจ

หลังจากนั้นก็มาประกอบธุรกิจให้คนมาลงทุน ซึ่งคนก็ตอบรับกันมากลงทุน 100 บาทได้ผลตอบแทนถึง 93 % ต่อเดือน ถ้าคนที่มีความเข้าใจเรื่องการลงทุนก็รู้ว่าไม่มีทางเป็นจริงได้ การลงทุนที่สั้นและผลตอบแทนสูงเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ แต่ก็สามารถที่เอาชนะความโลภของผู้คนได้อีกครั้งหนึ่ง คนก็แห่มาลงทุน ทำให้ตอนนี้มีผู้เสียหายทยอยมาแจ้งความ จนในขณะนี้แม่มณีมีหมายจับแล้วแต่จับกุมยังไม่ได้ ถ้าไม่หลบหนีออกไปนอกประเทศเสียก่อน ก็คาดว่าจะสามารถจับกุมได้

ทีนี้ที่บอกว่าอย่ามองให้เป็นขาวกับดำ เพราะขณะนี้ผู้เสียหายต่างๆ ก็เดินทางไปแจ้งความเสียหายตามสถานีตำรวจต่างๆ หรือมาร้องที่กองปราบส่วนกลางและดีเอสไอ เขาก็จะประมวลดูว่าคดีเข้าข่ายที่เป็นคดีพิเศษ ดีเอสไอก็จะรับไปดำเนินการ คาดว่าคดีนี้ดีเอสไอน่าจะรับไป แต่ที่บอกว่าอย่ามองขาวกับดำ เพราะคดีนี้มีพื้นที่ที่เป็นเทาๆ อยู่ เนื่องจากคดีนี้ แต่ระบบแชร์ลูกโซ่ไม่ใช่ศูนย์กลางแล้วแชร์ออกไป แต่มีแม่เบอร์ที่ 2 เบอร์ที่ 3 แชร์ลงไปเป็นโครงสร้าง ศูนย์กลางควบคุมอยู่ไม่มาก อาจจะแค่หลักร้อย แล้วหลักร้อยจะไปแตกอีก เพราะฉะนั้นจะมีหัวหน้ากลุ่มย่อยซอยๆ ต่อไป ในจำนวนหัวหน้ากลุ่มย่อยก็มีที่หลงเชื่อจริงๆ ว่าผลตอบแทนสูงจริงๆ และมีกลุ่มที่เชื่อว่าอันนี้โกงแน่ๆ แต่จะเข้ามาหาประโยชน์ เพราะคิดว่าจังหวะของการโกงต้องทิ้งระยะ หลอกให้วงมันกว้าง ให้เงินเยอะก่อนถึงค่อยกระตุกวูบขึ้นมา

อันนี้เป็นระบบการหากินปกติ รวบรวมกันแล้วหนี เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุล คนที่รู้อยู่ว่าโกงจะไปหาประโยชน์โดยการรวบรวมนักลงทุนมา ชักหัวคิวไว้ส่วนหนึ่ง มีส่วนหนึ่งไม่ส่งขึ้นไป และอีกส่วนหนึ่งส่งขึ้นไป พอให้เห็นเป็นสายของแม่มณี แต่พอใกล้จังหวะท้ายๆ ก็จะล็อคเงิน และจังหวะนั้นศูนย์กลางหมุนเงินไม่ทัน จำเป็นต้องหนี เพราะว่ามันเริ่มบานและหนีไปแล้ว และกลุ่มบุคคลเหล่านี้ก็จะไปแจ้งความ แล้วโยนเรื่องทั้งหมดไปที่ตัวศูนย์กลาง ซึ่งตามข่าวก็เป็นเช่นนี้ แต่เราต้องดูว่าแต่ละคนรับเงินจากใครมาเท่าไหร่ แล้วส่งไปเท่าไหร่ การนำสืบต้องพยายามหาให้ได้ ซึ่งก็ไม่ง่ายเพราะปกติคนที่หนีก็พยายามปกปิด คนที่หากินร่วมขบวนการอยู่ก็ต้องโบ้ยไปหมด

คดีเช่นนี้มีความละเอียดอ่อนมาก ไม่ว่าจะอยู่ในมือของกรมสอบสวนหรือดีเอสไอก็ตาม เรื่องนี้ต้องสอบกันอย่างละเอียด ดูเส้นทางการเงินการทะลุปรุโปร่ง จึงให้ความเป็นธรรมแก่คนที่ตกเป็นเหยื่อได้อย่างแท้จริง เพราะไม่เช่นนั้นตัวศูนย์กลางไปจับอายัดยึดแล้วไม่ได้เงินมาก เพราะเงินไปกระจายอยู่ที่มือรองๆ ลงมา เป็นหัวหน้ากลุ่มเล็กๆ ย่อยลงมา มันไปกั๊กเงินไว้ตรงนี้ แล้วขณะเดียวกันเขาเหล่านั้นไปทำหน้าที่เป็นโจทย์ ทำให้ความเสียหายทั้งหมดก็จะไปเรียกร้องกับส่วนยอดก็คือแม่มณี แต่ส่วนย่อยลงมาก็จะลอยนวล เผลอๆ เขาก็จะได้ส่วนแบ่งด้วย ถ้ามีการยึดทรัพย์และจัดสรรแบ่งกัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นบทเรียนหลายครั้งหลายหน ซึ่งตอนหลังๆ คนจะระมัดระวังกันประเภทที่มาแจ้งๆ กันนี้ต้องสอบละเอียดเลยว่าคุณมีบทบาทอะไร คุณไปรวบรวมเงินหรือเป็นคนมาลงทุนอย่างเดียว บทบาทเหล่านี้ต้องสอบให้ละเอียด จึงเชื่อว่ามีคนไม่น้อยยังไม่แสดงตน ยังรอทิศทางอยู่ แต่แน่นอนที่สุดนอกเหนือจากตัวศูนย์กลางของแชร์ คนที่อาจจะได้ประโยชน์คงกระจายไปพอสมควร แน่นอนที่สุด คนที่อยู่ฐานรากที่สุดแล้วเอาเงินมาลงทุนแล้วไม่ได้สักบาท จะเป็นผู้เสียหาย ยอดเงินเสียหายทั้งหมดจริงๆ เท่าไหร่ หาจากคนส่วนล่างทั้งหมดก็พอจะรู้ว่าเท่าไหร่ แต่เงินจะไปกระจุกตรงจุดไหนของโครงสร้างต้องไปสืบดู เรื่องนี้ไม่ควรมองในมิติขาวดำ แต่ต้องมองว่ามันเทา ในผู้เสียหายมีคนที่ได้ประโยชน์อาจเป็นคนเดียวกันอยู่ในนั้น ได้ประโยชน์เท่าไหร่ สูญเสียเท่าไหร่ อันนี้ต้องจำแนกออกมาให้ชัดเจน คดีนี้ต้องจำแนกว่าใครต้องรับผิดชอบ ตัวศูนย์กลางผิดแน่นอน แต่การที่จะกระจายมาถึงใครบ้าง ถ้าสาวได้ก็จะทำให้คนเหล่านี้ไม่ไปสร้างบาปสร้างกรรมให้กับวงต่อๆ ไป เพราะว่ามีวงในมาบอกว่า มีคนเหล่านี้ที่ผ่านวงแชร์ต่างๆ มามากมาย ทำให้เขารู้วิธีที่จะหาผลประโยชน์จากการสร้างและทลายลงของวงแชร์ต่างๆ จนกระทั่งเป็นช่องทางทำมาหากินของคนหลายคน อยู่รอดปลอดภัยมาทุกวงแชร์ แล้วก็ได้ประโยชน์มาจากทุกวงแชร์ ลอยตัวกันแบบนิ่มๆ แต่ว่าตัวหัวโจกพังกันไประเนระนาด แล้วคนที่สูญเสียคือตาสีตาสาชาวบ้านทั่วๆ ไป