ตำรวจนำตัวหนุ่มหัวร้อนเปรียบเทียบปรับเช้านี้ ท่ามกลางประชาชนมุงดูกว่า 500 คน จนตำรวจต้องป้องกันการปะทะ ด้านหนุ่มหัวร้อนและแม่ออกมาขอโทษคนไทย อ้างไม่เข้าใจวัฒนธรรม เป็นโรคซึมเศร้า ขาดยา และรักรถจนเครียด
จากเหตุการณ์ที่หนุ่มหัวร้อน ขับรถเก๋งประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถกระบะคู่กรณี จนเกิดทะเลาะกันและลามไปถึงการด่าทอคนไทย จนเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาหมิ่นประมาทซึ่งหน้า แล้วพาไปสอบปากคำที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ท่ามกลางชาวบ้านที่มาปักหลักอยู่หน้า สภ.พุทธมณฑล กว่า 500 คน ตำรวจจึงจำเป็นต้องป้องกันผู้ต้องหาให้เลี่ยงจากการปะทะ
พ.ต.อ.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผู้กำกับการตำรวจภูธรพุทธมณฑล เปิดเผยหลังสอบปากคำว่า ได้สอบปากคำ รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตามข้อกล่าวหาครบแล้ว คาดว่า 1-2 วันนี้จะนำตัวส่งให้พนักงานอัยการนำไปดำเนินคดีตามกฎหมายได้ พร้อมกับเปิดโอกาสให้มารดา และนายรชฏ ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
เริ่มต้นจากมารดาได้ออกมาชี้แจงว่าต้องขอโทษสังคม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากบุตรชายของตนเองไปศึกษาต่างประเทศตั้งแต่เด็ก ไม่เข้าใจวัฒนธรรมที่ดีงามของคนไทย ซึ่งก็เคยได้สอนกันไว้แล้วแต่ก็ไม่เข้าใจกัน เรื่องที่เกิดเป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นอกจากนี้ลูกชายของตนเองก็ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า อยู่ระหว่างการรักษา เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เครียดจึงเกิดพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้น
แม่หนุ่มหัวร้อนเล่าต่อว่าในวันที่เกิดเหตุเป็นวันที่ทางครอบครัวจะไปทำบุญกัน จึงต้องมีการจัดเตรียมของ ทำให้ลูกไม่ได้กินยา พักผ่อนน้อย จึงเกิดความเครียดสะสม และขอกราบขอโทษสังคมอีกครั้งที่ดูแลบุตรไม่ดี
ทางด้านหนุ่มหัวร้อนกล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากตัวเองเป็นคนรักรถ เมื่อเกิดเหตุการณ์จึงทำให้เครียด ประกอบกับป่วยทำให้ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ จนเกิดเรื่องราวขึ้น พร้อมกันนี้ก็ได้กราบขอโทษสังคมที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อนด้วย
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวในเช้าวันนี้ตำรวจจะควบคุมตัว หนุ่มหัวร้อน ไปส่งศาลเปรียบเทียบปรับ
ข่าวอื่นที่น่าสนในจ
หนุ่มแว่นหัวร้อน “ขอโทษ” ลั่นไม่เหลืออะไรแล้ว วอนอย่าดึงครอบครัวมาเกี่ยวข้อง
