โดย…กองบรรณาธิการ ThaiQuote
ผลการเลือกตั้ง (ซ่อม) เขต 5 นครปฐม ที่เสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา เพราะเหตุที่ว่า “จุมพิตา จันทรขจร” ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ เขต 5 นครปฐม ซึ่งมีปัญหาสุขภาพจากการประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยเจ้าตัวเองยังไม่เคยปฏิญาณตนเองเข้ารับหน้าที่และได้เข้าร่วมประชุมสภา และยังไม่ได้รับเงินเดือน ส.ส.เลย
ผลพลิกผันทันที เพราะสังคมคาดหมายว่า “อนาคตใหม่” ในฐานะผู้ชนะเดิมจะสามารถช่วงชิงเก้าอี้ส.ส.ที่แห่งนี้เอาไว้ได้ แต่ท้ายสุดแล้ว “เจ้าของบ้านตัวจริง” อย่างตระกูล “สะสมทรัพย์” ที่ส่ง เผดิมชัย สะสมทรัพย์ ลงชิงในนามพรรค “ชาติไทยพัฒนา” ก็ไม่พลาดซ้ำสองให้พรรคเกิดใหม่ ด้วยการคว้าเก้าอี้ตัวนี้ไปครอง ด้วยคะแนน 37,675 เฉือนอนาคตใหม่ที่ได้ไป 28,216 คะแนน และทิ้งประชาธิปัตย์ พรรคเก่าแก่พรรคดังไปเกือบ 2 หมื่นเสียงที่คะแนน 18,425 คะแนน
มันจึงทำให้มองเห็นภาพรวมของสนามการเลือกตั้งการเมืองของไทยได้อย่างชัดเจน และไม่อาจปฏิเสธได้ว่า “พรรคอนาคตใหม่” อาจจะถึงเวลาสิ้นมนต์ขลังความนิยมไปแล้วหรือยัง?
…..
ย้อนกลับไปเมื่อวันเลือกตั้งครั้งใหญ่หลังจากที่ประเทศไทยรอคอยมากว่า 5 ปี เขต 5 สามพราน นครปฐม ถือเป็นพื้นที่ของ “บ้านใหญ่” จากตระกูลสะสมทรัพย์ ผู้มากบารมีบนเส้นทางการเมือง ที่ถึงอย่างไรไม่ว่าจะสวมเสื้อพรรคไหน ก็น่าจะ “กวาดเรียบ” ได้ไม่ยาก แต่กระแสการเกิดใหม่ของพรรคสีส้ม ที่ดึงเอาความสนใจของคนรุ่นใหม่ และมวลชนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนหน้านักการเมืองเก่าๆ ไปสู่ความสดใหม่บ้าง กำลังขึ้นหม้อและมาแรงอย่างมาก
ผลปรากฏว่า “อนาคตใหม่” ยึดเอาเก้าอี้เขต 5 นครปฐมไปได้ และครั้งนั้นเอง ทำให้ตระกูลสะสมทรัพย์ต้องเสียหายและเสียหน้าไปพอสมควรทีเดียว
เพราะ “กระแส” ของอนาคตใหม่ที่ต้องยอมรับกันว่าแม้พวกเขาจะไม่มีประสบการณ์บนถนนการเมืองไทย เพราะเป็นพรรคที่เกิดขึ้นมาใหม่ แต่พวกเขา “มาแรง” พอสมควร และกระแสที่ว่าก็พาให้โค่นยักษ์ใหญ่ภูธรในหลายพื้นที่ลงไปได้อย่างราบคาบ และนครปฐมของ “บ้านใหญ่” สะสมทรัพย์ ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ต้องศิโรราบให้กับ “พรรคสีส้ม”
แต่แล้วเหมือนกับได้โอกาส “แก้ตัว” อีกครั้ง และแน่นอนว่า “สะสมทรัพย์” ต้องไม่พลาดเป็นครั้งที่ 2 และต้องทำทุกวิถีทางเพื่อชนะใจคนบ้านเดียวกันให้ได้ เพราะไม่เช่นนั้น หากเกิดการแพ้ซ้ำสองขึ้นมา จะยิ่งทำให้บทบาททางการเมืองของบ้านใหญ่หลังนี้้ต้องเจออุปสรรคไม่ราบรื่น และเกิดการไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกันอีกต่อไปบนเส้นทางการเมือง
และแน่นอนว่าเมื่อมีบทเรียนในข้อผิดพลาด คนที่เชี่ยวกรากก็ย่อมไม่ผิดพลาดซ้ำสอง จากผลการเลือกตั้งซ่อมทำให้เห็นแล้วว่า “สะสมทรัพย์” ยังผงาดขึ้นมาได้ เหมือนเดิม
แต่กระนั้นก็ตาม แม้มองอีกมุมถึงความพ่ายแพ้ของ “อนาคตใหม่” แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะเสียรังวัดใดๆ ไป เพราะอย่างน้อยที่สุดก็ยังได้เสียงมหาชนคนนครปฐมมากว่า 2 หมื่นเสียง แม้จะน้อยกว่ารอบก่อนที่เก็บไปได้กว่า 3 หมื่นเสียงก็ตาม สิ่งนี้สะท้อนได้ว่า แม้อนาคตใหม่จะแพ้การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ แต่ความนิยมของพวกเขาไม่ได้แพ้ไปด้วย แม้ว่าคะแนนจะไม่สูงเหมือนครั้งก่อน แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของความแรงแฝงเอาไว้อยู่
อีกทั้ง มันยังมองไปได้ถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไป หรือแม้แต่การเลือกตั้้งท้องถิ่นเองก็ตาม หากอนาคตใหม่จะสู้ต่อหรือลุยด้วย ก็ย่อมเป็นอีก “หนาม” ที่ยอกอกยอกใจของพรรคการเมืองพรรคใหญ่ต่างๆ หรือนักการเมืองดังๆ ให้หวาดหวั่นได้เหมือนกัน
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
“เผดิมชัย” คว้าชัยชนะเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 นครปฐม
