แรงงาน ยัน เลิกจ้างปี 62ไม่น่าห่วงยอด 79,000 คน

แรงงาน ยัน เลิกจ้างปี 62ไม่น่าห่วงยอด 79,000 คน


ก.แรงงาน ยัน สถานการณ์เลิกจ้างยังไม่น่าเป็นห่วง ปี 62 มียอด 79,000 คน 60 % เป็นการเลิกจ้าง 40 % ลาออกเอง เพิ่มจากปี 61 เล็กน้อยที่มียอดเลิกจ้าง 72,000 คน ส่วนเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างยังมีเงินหมุนเวียนกว่า 400 ล้านบาท เพียงพอจ่ายชดเชยแน่นอน

นายวิวัฒน์ ตังหงส์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การเลิกจ้าง ว่า ยังไม่น่าเป็นห่วงอย่างที่มีกระแสข่าวออกไปว่า เงินกองทุนอาจไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลือลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างมากขึ้น ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า กองทุนมีสภาพคล่อง และพร้อมช่วยเหลือลูกจ้าง โดยมีเงินหมุนเวียนกว่า 400 ล้านบาท

ส่วนการถูกเลิกจ้างอาจเป็นผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ รวมไปถึงความผันผวนของเศรษฐกิจโลก สถานประกอบกิจการจึงมีการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อความอยู่รอด จากข้อมูลการขึ้นทะเบียนการว่างงานของผู้ประกันตนประกันสังคม ในช่วงเดือน ม.ค.-ธ.ค. 2561 มีขึ้นทะเบียนว่างงานเฉลี่ยเดือนละประมาณ 72,000 คน ส่วนปี 2562 ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือน ส.ค. มีขึ้นทะเบียนว่างงานเดือนละประมาณ 79,000 คน 60 % เป็นการเลิกจ้าง 40 % ลาออกเอง

ทั้งนี้ ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง จะได้รับค่าชดเชยจากนายจ้างตามอายุงาน และเงินทดแทนกรณีว่างงานจากกองทุนประกันสังคม ซึ่งนายจ้างส่วนใหญ่จ่ายชดเชยถูกต้องตามกฎหมายหรือจ่ายให้สูงกว่ากฎหมายกำหนด นอกจากนี้ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ ได้มีการปรับค่าชดเชยสำหรับลูกจ้างที่ทำงานเกิน 20 ปี ยังได้ปรับเพิ่มเงินชดเชยจากเดิม 300 วัน เป็น 400 วัน เพื่อให้ลูกจ้างสามารถดำรงชีพได้

สำหรับลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างและนายจ้างยังค้างจ่ายค่าชดเชยและเงินอื่น ๆ สามารถยื่นขอรับเงินช่วยเหลือจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนชั่วคราว โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือตามอายุงาน เช่น ทำงานเกิน 120 วันแต่ไม่ครบ 3 ปี จะได้รับเงินช่วยเหลือ 30 เท่าของค่าจ้างรายวัน, ทำงานเกิน 3 ปี แต่ไม่เกิน 10 ปี ได้รับเงิน 50 เท่า เมื่อกองทุนฯ จ่ายเงินช่วยเหลือให้กับลูกจ้างแล้ว จะไปเรียกเก็บเงินส่วนนี้คืนจากนายจ้าง

“กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ปัจจุบันมีเงินหมุนเวียน 400 ล้านบาท โดยในปี 2561 มีลูกจ้างขอรับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 652 คน เป็นเงินประมาณ 12 ล้านบาท ส่วนปี 2562 ขณะนี้มี 845 คน เป็นเงินประมาณ 14 ล้านบาท ขอยืนยันว่ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างมีเงินเพียงพอสำหรับช่วยเหลือลูกจ้างอย่างแน่นอน หรือหากไม่เพียงพอ เชื่อว่ารัฐบาลก็พร้อมที่จะให้เงินอุดหนุนเพิ่มเติม” นายวิวัฒน์ กล่าว