แค่โยกงบลงทุน “บิทคอยน์” ปิดตัวเพราะเหตุผลทางภาษี?

แค่โยกงบลงทุน “บิทคอยน์” ปิดตัวเพราะเหตุผลทางภาษี?


โอละพ่อ บิทคอยน์ ประกาศปิดตัว คนวงในต่างรู้ คาดปิดเพราะเหตุผลทางภาษี พร้อมเปิดแยกอีก 3 บริษัท

กรณีบริษัท บิทคอยน์ จำกัด ผู้ดำเนินการตลาดแลกเปลี่ยนเงินคริปโต BX.in.th ประกาศปิดบริการในวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยจะรับฝากเงินวันสุดท้ายในวันที่ 6 กันยายน และหลังจากนั้นจะเปิดให้ถอนเงินภายในวันที่ 1 พฤศจิกายนเท่านั้น

ทำให้นักลงทุนที่ถือเงินของบิทคอยน์นั้นเกิดความกังวลเรื่องของเทรดบิทคอยน์ กับเงินบาทอย่างไร ซึ่ง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รับลูก สั่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักลงทุน เพื่อช่วยเหลือและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการถอน การรับโอนคืน หรือโอนย้ายสินทรัพย์ดิจิทัลไปแล้ว ล่าสุดอาจจะไม่จำเป็นจะต้องตั้งศูนย์ที่ว่าแต่อย่างใด เนื่องเพราะเหตุการณ์นี้นักลงทุนวงในต่างรู้ดีถึงการประกาศยุติการให้บริการดังกล่าวอยู่ก่อนแล้วล่วงหน้า

ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่ Bx.in.th ประกาศยุติการให้บริการ คือ ไม่อยากขอต่อใบอนุญาตสินทรัพย์ดิจิทัลจาก ก.ล.ต. ในปี 2563 และ เหตุผลง่ายๆว่าต้องการไปหาโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ ทำให้ขณะนี้เหลือผู้ให้บริการเงินคริปโตในประเทศไทยได้รับอนุญาตเป็นทางการเพียง 3 รายเท่านั้น คือ bitkub.com, satang.pro, และ coins.co.th

ขณะที่แหล่งข่าวในแวดวงการลงทุนได้เปิดเผยผ่าน Thaiquote ว่า เหตุผลจริงเรื่องใหญ่สุดของบริษัทคือ การที่จะต้องจ่ายภาษีซึ่งคาดว่าปีนี้จะถูกเรียกเก็บหนักไม่น้อยกว่า 112 ล้านบาท ทำให้บริษัทจำเป็นที่จะต้องประกาศยุติบทบาทก่อนที่จะถึงเวลายื่นบัญชีงบดุลต่อกรมสรรพากร เพื่อเสียภาษีประจำปี 2562 โดยวิธีการแยกหุ้นส่วนของผู้ถือหุ้นออกไปตั้งเป็นบริษัทของตนเองประมาณ 3-4 บริษัท

“ เรื่องดังกล่าวคนที่อยู่ในวงการนี้ ไม่ได้ตกใจอะไร เพราะเป็นเรื่องปกติของบริษัทต่างๆ ซึ่งพยายามเลี่ยงการเสียภาษีจำนวนมาก โดยปีที่แล้วบริษัทต้องเสียภาษีกว่า 56 ล้านบาท ขณะที่ในปีนี้คาดว่าจะต้องเสียภาษีไม่น้อยกว่า 112 ล้านบาทเลยทีเดียว”

สำหรับรายได้ของบริษัท บิทคอยน์ จำกัด มีรายได้หลักในปี 60 ประมาณ 285 ล้านบาท และในปี 61 ประมาณ 372 ล้านบาท โดยจ่ายภาษีเงินได้ในปี 60 ประมาณ 52 ล้านบาท และในปี 61 ประมาณ 56 ล้านบาท โดยบริษัทมีกำไรสุทธิในปี 60 กว่า 212 ล้านบาท และในปี 61 กว่า 224 ล้านบาท

บิทคอยน์ จำกัด นับเป็นบริษัทแรกๆ ที่มาเปิดตลาดแลกเปลี่ยนบิตคอยน์ในประเทศไทย จนกระทั่งธนาคารแห่งประเทศไทยสั่งระงับบริการเมื่อปี 2013

ทุกวันนี้มีผู้ให้บริการเงินคริปโตในประเทศไทยได้รับอนุญาตเป็นทางการเพียง 4 รายเท่านั้น หลังจาก BX.in.th ปิดบริการไปก็จะเหลือเพียง 3 ราย คือ bitkub.com, satang.pro, และ coins.co.th

 

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

ก.ล.ต. สั่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักลงทุน หลัง “บ.บิทคอยน์” ประกาศปิด