จากพระเอกสู่ผู้ร้าย ทำไม”กูเกิล” ถูกตราหน้า “ทรยศชาติ”

จากพระเอกสู่ผู้ร้าย ทำไม”กูเกิล” ถูกตราหน้า “ทรยศชาติ”


ระเบิดลูกโตที่ถูกโยนเข้าใส่เสิร์ชเอนจิ้นระดับโลกอย่าง Google โดยต้นทางมาจาก “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา พร้อมกับปมสงสัยว่า Google ไปมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน คู่แข่งของการแย่งชิงความเป็นมหาอำนาจของโลกใบนี้ต่อสหรัฐฯ

ข้อสงสัยของทรัมป์ ถูกส่งตรงไปถึงรัฐมนตรียุติธรรมของพญาอินทรี เพื่อให้เซ็ททีมขึ้นมาสอบ Google โดยเฉพาะ

ข่าวร้อนที่ดูเหมือนว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะ “ล่อ” ยักษ์ใหญ่ของประเทศตัวเองด้วยข้อกล่าวหาที่ค่อนข้างรุนแรงพอสมควรนี้ มันทำให้โลกต้องจับตามองอย่างกระชั้นชิดว่าเกิดความขัดแย้งอันใดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ก็ดูเหมือนว่า Google จะเป็น “เพื่อนที่ดี” ของนโยบายทรัมป์ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบใดก็ตาม เพราะ Google ก็พร้อมจะเอื้อและปรับแนวทางนโยบายให้สอดรับกับทำเนียบขาว แม้ว่าจะมีผลกระทบต่อองค์กรตัวเองจากผลพวงความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีนด้วยก็ตาม

 

 

เพราะตั้งแต่นโยบายของทรัมป์ที่เปิดศึกสงครามการค้ากับจีน และออกข้อห้าม ความร่วมมือ ไปจนถึงข้อบังคับตามกฎหมายให้กับเอกชนของสหรัฐฯ ยุติการทำธุรกรรมร่วมกับทางการจีน Google ก็เป็นเจ้าแรกๆ ที่ออกมาประกาศยุติการค้ากับบริษัทสัญชาติจีน

แถมให้ด้วยกับการประกาศยุติความสัมพันธ์กับ Huawei ตามที่ทรัมป์ปราถนา จนนำไปสู่การขอถอยความสัมพันธ์กับเอกชนสหรัฐฯ ในการร่วมงานกับ Huawei ตามๆ กันไป เพราะบิ๊กเนมอย่าง Google ทำให้เจ้าอื่นเห็นเป็นรายแรกๆ

ทุกอย่างที่ Google ประเคนให้กับทรัมป์ก็ดูเหมือนว่าจะทำให้โลกเห็นว่าพวกเขาเป็นทีมเดียวกัน แต่เหตุใดจึงทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย กลับกลายมาเป็นคำสั่งให้ถูกสอบสวน

 

 

คำตอบมาจาก Facebook อีกยักษ์ใหญ่ที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของโลกใบนี้ และเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่เป็นหน้าเป็นตาของสหรัฐฯ มาปูดว่า Google “ทรยศชาติ” ด้วยการปฏิเสธที่จะทำงานร่วมกันกับกองทัพของสหรัฐฯ เพราะการแฉครั้งนี้ถูกสะท้อนว่า facebook อาจจะเล่นเกมอันใดบางอย่างอยู่กับ Google ด้วยข้อมูลที่หลุดออกมาว่า Google ไม่ต่อสัญญาการร่วมพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI กับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ

Google ต้องออกโรงทันทีว่าสาเหตุที่ไม่ต่อสัญญากับกองทัพที่ทรงอำนาจแห่งหนึ่งของโลก ก็เพราะหวั่นเกรง และไม่ต้องการให้ AI จากมันสมองขององค์กรตัวเอง ถูกแปรเปลี่ยนเป็นอาวุธ

แต่สื่อบางกระแสก็ตีข่าวขึ้นมาจากข้อมูลลับๆ และอ้างว่า Google ไม่ทำงานกับคนในชาติตัวเองในการพัฒนาอาวุธ แต่กลับเลือกไปคุยกับ “จีน” คู่แข่งตัวฉกาจของบ้านเกิด และนั่นเองที่นำไปสู่ข้อกล่าวหาที่รุนแรงอย่างมากคือ “ทรยศ”

สิ่งที่สำทับว่าและเพิ่มน้ำหนักในข้อกล่าวหาของ Google ให้มากขึ้น และยังเป็นกระจกสะท้อนความขัดแย้งระหว่างทรัมป์และเสิร์ชเอนจิ้นเบอร์หนึ่งของโลก คือคำพูดจาก Peter Thiel มหาเศรษฐีด้านเทคโนโลยีและผู้สนับสนุนคนสำคัญของทรัมป์ ที่ออกมาระบุว่า Google ไปทำงานกับจีน แทนที่จะหันมาทำงานร่วมกันกับกองทัพสหรัฐฯ และสิ่งที่ Google ทำลงไปก็ควรจะถูกสอบสวนในฐานะที่เป็นผู้ทรยศต่อแผ่นดินสหรัฐฯ

สิ่งที่ Peter Thiel ออกมาพูด ก็ช่างถูกอกถูกใจประธานาธิบดีทรัมป์อย่างมาก ถึงกับขนาดที่ชูและยกย่อง Peter Thiel ว่าคือคนที่กล้าหาญ เก่ง ฉลาด และรู้เรื่องเทคโนโลยีดีกว่าใครในประเทศนี้ อีกทั้งงานบริหารยังเป็นเลิศ

“ฝ่ายบริหารของประเทศนี้ควรดู Peter Thiel ไว้เป็นตัวอย่าง” คำพูดที่สแตป์ และเพิ่มเครดิตให้กับมหาเศรษฐีคนนี้ที่สนับสนุนทรัมป์ จากปากของตัวทรัมป์เอง

 

 

แต่กระนั้นก็ตาม ดูเหมือนว่า Google เองก็ไม่ปล่อยให้ถูกกระทำแต่เพียงฝ่ายเดียว เพราะ Riva Sciuto โฆษกของ Google ออกมาชี้แจงว่า ไม่เคยทำงานร่วมกับกองทัพจีน แต่ขณะเดียวกันก็ยังร่วมงานกับรัฐบาลสหรัฐฯ กองทัพสหรัฐฯ ในหลายๆ ด้าน รวมถึงการร่วมกันสร้างระบบความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ และไม่เข้าใจว่าการปล่อยข่าวเช่นนี้ออกมาเพื่อประโยชน์ใด หรืออาจมีอะไรที่แอบแฝงกันหรือไม่

ถือเป็นโจทย์หนักของ Google ที่มาเจอกับศึกในประเทศของตัวเอง แถมคู่ต่อกรยังเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจมากที่สุดในโลก เพราะคือประธานาธิบดีของสหรัฐฯ จากผลพวงของการเปิดศึกให้โดย facebook และนำไปสู่การโยนฟืนเติมไฟให้ร้อนแรงขึ้นจากคนใกล้ตัวทรัมป์ น่าติดตามว่า Google จะแก้ข้อกล่าวหาที่รุนแรงนี้อย่างไร