เป็นกระแสที่กำลังฮิตอย่างมาก ของชาวโซเชียล โพสต์รูปภาพใบหน้าของตัวเองตอนแก่
ล่าสุด สว. สหรัฐ จี้เอฟบีไอ สอบ FaceApp ทำหน้าแก่ เหตุ บ.รัสเซียอยู่เบื้องหลัง หวั่นล้วงข้อมูล
ชี้! ผู้สร้างแอพฯ เข้าถึงข้อมูลและรูปภาพส่วนตัวได้ทั้งอัลบั้ม
มีรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ ว่า นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยวุฒิสภาสหรัฐ ส่งหนังสือลงวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เรียกร้องให้สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ของสหรัฐ รวมถึง คณะกรรมาธิการการค้าแห่งชาติ (เอฟซีที) ของสหรัฐ เปิดให้มีการสืบสวนด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของ “เฟซแอพพ์” (FaceApp) แอพพลิเคชั่นที่เปลี่ยนภาพใบหน้าให้มีอายุมากขึ้น ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลกในเวลานี้ เนื่องจากแอพพ์ดังกล่าวสร้างขึ้นโดยบริษัทในรัสเซีย และห่วงกังวลว่าผู้ใช้งานอาจถูกรัสเซียล้วงข้อมูลความเป็นส่วนตัว
ทั้งนี้ จดหมายของชูเมอร์ที่ส่งให้คริสโตเฟอร์ เวรย์ ผอ.เอฟบีไอ และโจ ซิมอนส์ ประธานเอฟทีซี ระบุว่า แอพพ์ดังกล่าวต้องมีการ “เข้าถึงรูปภาพและข้อมูลส่วนตัวที่ไม่สามารถย้อนกลับได้” ซึ่งมีความเสี่ยงกับความมั่นคงของชาติและความเป็นส่วนตัวของชาวอเมริกันหลายล้านคน

นอกจากนี้ชูเมอร์ ยังแสดงความกังวลด้วยว่าเวลานี้ยังไม่ชัดเจนด้วยว่าแอพพลิเคชั่นดังกล่าวเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานอย่างไร และผู้ใช้งานจะมั่นใจได้อย่างไรว่าข้อมูลจะถูกลบออกไปหลังจากใช้งาน
ทั้งนี้ รายงานระบุว่าคณะกรรมาธิการแห่งชาติพรรคเดโมแครต ได้ส่งหนังสือเตือนไปถึงผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2020 ด้วยว่าหากกำลังใช้งาน หรือมีทีมงานที่ใช้งานแอพพ์ดังกล่าวอยู่ ให้ลบแอพพ์ดังกล่าวออกในทันที เนื่องจากแอพพ์มีต้นกำเนิดในรัสเซีย สะท้อนความห่วงกังวลว่ารัสเซียอาจใช้ช่องทางโจมตีไซเบอร์เพื่อแทรกแซงการเลือกตั้ง ข้อกล่าวหาซึ่งรัสเซียปฏิเสธมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม ด้าน FaceApp ออกแถลงการณ์ ปฏิเสธข้อกล่าวหา ว่ามีการขายหรือแบ่งปันข้อมูลผู้ใช้งานกับบุคคลที่ 3 โดยยืนยันว่า ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องล็อกอินดังนั้นแอพพ์จึงไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่จะสามารถระบุถึงตัวบุคคลได้

ทั้งนี้ FaceApp พัฒนาขึ้นโดยบริษัทไวร์เลสแลป (Wireless Lab) ที่มีที่ตั้งอยู่ในเมืองเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ระบุผ่านเว็บไซต์ว่า เวลานี้แอพพ์ดังกล่าวมีผู้ใช้งานมากกว่า 80 ล้านคนแล้ว
ขณะที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทดังกล่าวคือยาโรสลาฟ กอนชารอฟ บุคคลที่เคยเป็นผู้บริหาร “ยานเด็กซ์” (Yandex) หรือเว็บไซต์ที่เรียกกันว่า “กูเกิลแห่งรัสเซีย”
