พบจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยแท้ใกล้สูญพันธุ์ ทำรังวางไข่ อช.แก่งกระจาน

พบจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยแท้ใกล้สูญพันธุ์ ทำรังวางไข่ อช.แก่งกระจาน


หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานรายงาน พบการวางไข่ของจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยแท้ใกล้สูญพันธุ์ จำนวน 1 รัง ไข่ 16 ฟอง มีสภาพสมบรูณ์ 1ฟอง

เพชรบุรี – 17 ก.ค.62 เพชรบุรีโพสต์รายงานข่าวว่า นายมานะ เพิ่มพูน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้นายยุทธนา ล่ำคำ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และ ชุดปฏิบัติการพิเศษกู้ภัยมวลชนสัมพันธ์และช่วยเหลือชีวิตสัตว์ป่า นำนายสัตว์แพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง และเจ้าหน้าที่จากสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า(wcs) ลงตรวจสอบพื้นที่ริมแม่น้ำเพชรบุรีบริเวณวังข่า ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

 

 

เพื่อสำรวจติดตามการวางไข่ของจระเข้สายพันธุ์ไทย หลังจากได้รับรายจากหัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กจ.10 ห้วยแม่สะเรียง และได้สั่งการให้นำกล้องดักถ่ายสัตว์ป่าไปติดตั้งโดยรอบบริเวณนี้แล้ว เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบการวางไข่ของจระเข้สายพันธุ์ไทย (CROCODYLUS SIAMENSIS) ซึ่งเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์แท้ จำนวน 1 รัง มีไข่จำนวน 16 ฟอง อยู่ในลักษณะกระจัดกระจายใกล้รังไข่ มีสภาพสมบรูณ์ 1ฟอง

ส่วนที่เหลือแตกเสียหาย รังมีลักษณะถูกรื้อทำลาย สาเหตุเนื่องจากสัตว์เลื้อยคลานเข้ารื้อค้นหาไข่จระเข้กินเป็นอาหาร หลังจากนั้นจึงได้กระจายกำลังตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียงโดยละเอียดอีกครั้ง และสำรวจบริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำเพชรบุรีโดยใช้เรือเครื่องและแพยาง ผลปรากฏว่าไม่พบร่องรอยการวางไข่และรังไข่จระเข้เพิ่มเติม ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้พบรังวางไข่ ของจระเข้น้ำจืด ว่ายังคงมีอยู่ในป่าแก่งกระจาน

หลังจากที่เคยพบมีการขึ้นมาวางไข่เช่นเดียวกันมาก่อนหน้านี้มาแล้ว 3 ครั้ง และจากการสำรวจที่ผ่านมาพบว่า ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานมีจระเข้สายพันธุ์ไทยแท้เพียง 5 -7 ตัวเท่านั้น แต่เป็นที่น่าเสียดาย เนื่องจากไข่ที่พบสมบูรณ์ 1 ฟองนำมาส่องแล้วไม่พบเชื้อตัวผู้ผสม

 

 

และเพื่อเป็นการคุ้มครองถิ่นที่อยู่อาศัยของจระเข้สายพันธุ์ไทย ซึ่งเป็นสัตว์เฉพาะถิ่นมีสถานะภาพใกล้สูญพันธุ์ในธรรมชาติ จึงได้กำหนดมาตรการเบื้องต้น โดยกำหนดให้พื้นที่ริมแม่น้ำเพชรบุรีบริเวณวังข่า เป็นพื้นที่คุ้มครองถิ่นที่อยู่อาศัยและการวางไข่ของจระเข้สายพันธุ์ไทย และประกาศแจ้งหน่วยงานต่างๆรวมถึงราษฎรให้ทราบ พร้อมจัดชุดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและป้องกันภัยคุกคามรังไข่ เมื่อพบว่ามีการวางไข่ของจระเข้

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ยังมีความหวังในการได้พบจระเข้สายพันธุ์ไทยแท้ เนื่องจากมีการลาดตระเวนเชิงคุณภาพครอบคลุมพื้นที่ ซึ่งพบพื้นที่ห่างไกลจากชุมชนมีร่องรอยของจระเข้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยต่อการจัดทำข้อมูลทางวิชาการ ซึ่งพบร่องรอยใหม่ที่รอยต่อระหว่างอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชีและอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน3 จากกิจกรรมการลาดตระเวนร่วมกันโครงการการเพิ่มประสิทธิภาพการลาดตระเวน อย่างมีส่วนร่วมที่จะรับสนับสนุนจากมูลนิธิสืบนาคะเสถียร

 

 

ทั้งนี้ จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย มีถิ่นกำเนิดในบริเวณเวียดนาม, กัมพูชา, ลาว ไทย, กาลีมันตัน, ชวา และสุมาตรา จัดเป็นจระเข้ขนาดปานกลางค่อนมาทางใหญ่ (3 – 4 เมตร) มีเกล็ดท้ายทอด มีช่วงวัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 10-12 ปี จระเข้ชนิดนี้วางไข่ครั้งละ 20-48 ฟอง โดยมีระยะเวลาฟักไข่นาน 68-85 วัน เริ่มวางไข่ในช่วงต้นฤดูฝนประมาณเดือนพฤษภาคม โดยขุดหลุมในหาดทรายริมแม่น้ำ ใช้เวลาเฉลี่ยราว 80 วัน ชอบอยู่และหากินเดี่ยว

ในอดีตในประเทศไทยเคยพบชุกชุมในแหล่งน้ำทั่วทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะในแถบที่ราบลุ่มภาคกลาง เช่น ที่บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ แต่ปัจจุบันได้สูญหายไปจนหมดแล้ว แต่ในต่างประเทศยังคงพบอยู่เช่นที่ทะเลสาบเขมร ประเทศกัมพูชา

 

 

ปัจจุบันประเทศไทย เชื่อว่าจระเข้ที่ยังคงสถานะในธรรมชาติหลงเหลืออยู่ที่คลองระบม-สียัด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน จังหวัดฉะเชิงเทรา แต่คาดว่าเหลือไม่เกิน 5 ตัว

ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี มีอยู่ประมาณ 5 ตัว เชื่อกันว่าเป็นเพศเมียทั้งหมด

 

 

ในบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ มีจระเข้ราว 50 ตัว ปัจจุบันสามารถเห็นได้ชัด 1 ตัว บริเวณที่ทำการบึงบอระเพ็ดมักขึ้นมาแสดงตัวกับนักท่องเที่ยว

ในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง มีจระเข้อย่างน้อย 3 ตัว ที่บ้านคลองชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นประชากรจระเข้กลุ่มเดียวในไทยที่ยังมีการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติอยู่ และไม่มีประวัติการทำร้ายผู้คน

ในอุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว มีจระเข้อยู่ประมาณ 10 ตัว ทั้งเพศผู้และเพศเมีย ซึ่งเป็นการทดลองปล่อยจระเข้น้ำจืดไทยจากแหล่งเพาะเลี้ยงไปสู่ธรรมชาติ

โดยรวมจระเข้ในไทยในปัจจุบันคาดว่าในแต่ละแหล่งคงมีจระเข้หลงเหลือไม่เกิน 1-5ตัว และไม่น่ามีการผสมพันธุ์กัน จระเข้ตามธรรมชาติของไทยจึงสุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
ประทับใจ! ฝูงโลมากระโดดเล่นน้ำโชว์ที่หมู่เกาะสิมิลัน (ชมคลิป)