แว้นเมืองนนท์ นัดรวมพลผ่านเฟซบุ๊ก เกมยกทีม

แว้นเมืองนนท์ นัดรวมพลผ่านเฟซบุ๊ก เกมยกทีม


ตำรวจเมืองนนท์จับโจ๋รวมตัวจะแว้นป่วนเมือง หลังโพสต์เฟซบุ๊คบอกที่นัดหมายชัดเจน

พ.ต.อ.ถาวร ดุลยวิทย์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและชุดปราบปรามกว่า 40 นาย นำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมกลุ่มเด็กเเว้นซึ่งกำลังจับกลุ่มรวมตัวกันอยู่ภายในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าเเห่งหนึ่ง บริเวณปากทางเข้าไทรน้อย หมู่ที่3 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี สามารถจับกุมเด็กเเว้นได้ทั้งหมด 21 คน เป็นเยาวชนชายอายุตั้งแต่15-18 ปี จำนวน 18 คน หญิงอายุ 19 ปี 1 คน ชายอายุ 21 ปี 1 คน ชายอายุ 30 ปี 1 คน และยึดรถจักรยานยนต์ได้ทั้งหมด 15 คัน

 

 

พ.ต.อ.ถาวร เปิดเผยว่า ได้รับการร้องทุกข์จากประชาชนในพื้นที่ว่า มีกลุ่มรถจักรยานยนต์ รวมตัวกันเพื่อแข่งความเร็วตามสถานที่ต่างๆ สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้เส้นทางและชาวบ้านเป็นอย่างมาก จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางบัวทอง ได้สืบทราบว่า เด็กแว้นกลุ่มนี้ได้นัดแนะและชักชวนให้ออกมารวมตัวแข่งรถจักรยานยนต์บนถนนสาธารณะผ่านทางเฟซบุ๊กชื่อ “สจ.บางบัวทอง” โดยมีนายวรัญญู ภูกัน อายุ 20 ปี หรือโช่ เจ้าของเฟซบุ๊ก เป็นผู้โพสต์ชักชวนเพื่อนในกลุ่มให้มารวมตัวกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปแอบซุ่มดูอยู่ตามจุดต่างๆ

 

 

จากนั้น เวลาประมาณ 19.30 น. ได้มีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาภายในบริเวณลานจอดรถ และรวมตัวกันอยู่ด้านหลังทางออกด้านถนนบางกรวย-ไทรน้อย จำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำรถยนต์ออกมาปิดทางเข้าและปิดเส้นทางออกของห้าง ทำให้กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว เร่งเครื่องยนต์ขับขี่หลบหนีไปได้บางส่วน และสามารถควบคุมรถจักรยานยนต์ได้ จำนวน 15 คัน ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรวม 21 คน

 

 

เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา นายวรัญญ ภูกัน ซึ่งเป็นผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก สจ.บางบัวทอง ข้อหาชักชวนให้มารวมกลุ่มกันเพื่อแข่งรถในครั้งนี้ ในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิดขับรถจักรยานยนต์โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเองหรือผู้อื่นในทางสาธารณะ ชักชวนบุคคลและกลุ่มวัยรุ่นออกมาขับรถจักรยานยนต์ ก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน ส่วนอีก 20 คน แจ้งข้อกล่าวหาเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิดขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเองหรือผู้อื่นในทางสาธารณะฯ จากนั้นจะติดตามผู้ปกครองมาทำการสอบสวน หากพบว่ามีส่วนสนับสนุนให้บุตรออกมาขับขี่รถจักรยานยนต์จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย