รุ่นพี่ สายโหด! กระทืบรุ่นน้อง จนหัวใจหยุดเต้น 3 รอบ ปอดช้ำ-สมองบวม

รุ่นพี่ สายโหด! กระทืบรุ่นน้อง จนหัวใจหยุดเต้น 3 รอบ ปอดช้ำ-สมองบวม


รุ่นพี่ม.6 สายโหด กระทืบรุ่นน้องในโรงเรียนปางตาย ขณะรับ “เลสข้อมือรุ่น” จนหัวใจหยุดเต้น 3 รอบ อาการปางสมองบวมและปอดช้ำ

วันนี้ (7 ก.ค. 62) มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก ในสังคมโซเชียล ในเรื่องความปลอดภัยของเด็กในโรงเรียนมัธยม หลังเกิดเหตุรุ่นพี่ ม.6 รุมทำร้ายรุ่นน้องจนปอดช้ำและสมองบวม ขณะรุ่นน้องเข้ารับเลสข้อมือรุ่น จากรุ่นพี่

 

 

ทั้งนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “เหน่อ หนองกระโดน” ผู้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า

 

 

 

“น้องเข้าไปรับเลสข้อมือรุ่น จากรุ่นพี่ม.6 ไปประมาณ10 คน โดนทำร้ายประมาณสามคน น้องคนนี้โดนเตะหน้าอก จนหายใจไม่ออก ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมองไม่ทัน ทำให้นอกจากปอดช้ำแล้วสมองบวมไปด้วย ได้รับแจ้งว่าน้องหัวใจหยุดเต้นไปแล้วสามรอบ ซึ่งพฤติการณ์แบบนี้ไม่เคยปรากฎพบที่โรงเรียนมาก่อน เป็นการคิดอยากทำและสืบทอดกันเอง รับแจ้งว่าตอนนี้รุ่นพี่ที่ทำร้ายร่างกายไม่ได้อยู่ออกมารับผิดชอบ แล้วหนีไปกลบดานทางภาคตะวันออก”

ด้าน พี่สาวผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ตอนแรกที่ทราบเรื่อง กลุ่มรุ่นพี่โกหกทางญาติว่า ชวนน้องไปซื้อน้ำแข็ง ระหว่างทางถูกกลุ่มชายใส่หมวกกันน็อก 4 คนรุมกระทืบ แต่ตนแปลกใจหลังเห็นว่าน้องไม่มีบาดแผลที่ใบหน้ามีแต่ตามร่างกาย จึงสอบถามเพื่อนน้องกันต์ จึงทราบว่ารุ่นพี่เป็นคนทำร้าย และตนไม่เชื่อว่าน้องจะถูกเตะแค่ 3 ครั้ง เพราะรุ่นพี่ที่เตะน้องกันต์ตัวเล็กกว่าน้องกันต์ และเพื่อนคนอื่นที่ถูกเตะก็ไม่บาดเจ็บเหมือนน้อง ตนจึงคิดว่าน้องอาจถูกรุมทำร้ายมากกว่า

 

 

พี่สาวผู้บาดเจ็บ ยังเล่าอีกว่า “ก่อนหน้านี้ รุ่นพี่ก็ได้เข้ามาขอขมา แต่ตนและครอบครัวไม่สนใจ ยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด เพราะตอนนี้อาการของน้องชายตนสาหัส สมองตาย ปอดฉีก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเท่านั้น พี่สาวผู้บาดเจ็บกล่าว”

“รู้สึกเสียใจมาก เพราะรุ่นพี่ที่เป็นเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ ก็เป็นเพื่อนกับน้องชายตนมาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่ช่วยน้องตน และไม่พูดความจริง ทั้งนี้เลสข้อมือดังกล่าวก็เป็นเลสที่รุ่นพี่จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรงเรียนแต่อย่างใด” พี่สาวผู้บาดเจ็บ กล่าวทิ้งท้าย

อย่างไรก็ตาม ได้มีการตามหารุ่นพี่ ที่ทำร้ายร่างกายเพื่อให้ได้รับความยุติธรรมกับทุกฝ่าย

ล่าสุดได้รับแจ้งว่าพรุ่งนี้วันจันทร์ที่ 8 ก.ค. ผู้กระทำความผิดจะเข้ามามอบตัวที่สภานีตำรวจนครปฐม โดยผู้กระทำความผิดไม่ได้หลบหนีไปไหนแต่อย่างใด ยังคงหลบอยู่ในบ้านที่จ.นครปฐม เนื่องจากกลัวว่าจะมีคนมารุมทำร้าย จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น