รวบแล้ว 2 วินเถื่อนตีกัน ทำคนตาย 2 ราย เจ็บอีกเพียบ ตร.วอนเห็นใจ กำลังไม่พอระงับเหตุ

รวบแล้ว 2 วินเถื่อนตีกัน ทำคนตาย 2 ราย เจ็บอีกเพียบ ตร.วอนเห็นใจ กำลังไม่พอระงับเหตุ


จากกรณีก่อเหตุอุกอาจของกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ ถูกกลุ่มคู่อริประกอบอาชีพเดียวกันตั้งอยู่ซอยสุขุมวิท 103/1-2 แขวงและเขตบางนา กทม.ก่อเหตุใช้อาวุธปืนกราดยิง เหตุไม่พอใจเรื่องแย้งลูกค้า จนสถานการณ์บานปลายหนัก จนกระสุนพุ่งใส่ศีรษะของหนุ่มพนักงานเคอรี่ผู้บริสุทธิ์จนถึงแก่ชีวิต ซึ่งมีภรรยากำลังท้อง 4 เดือน รวมทั้งมีผู้เจ็บอีก 3 ราย ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

• วินเถื่อนทั้งคู่

พล.ต.ต.มงคล เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบว่าวินจยย.ทั้ง 2 กลุ่ม ไม่รับอนุญาตให้วิ่ง เป็นวินผิดกฎหมาย สำหรับผู้ก่อเหตุตำรวจมีข้อมูลทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผย หลังจากนี้จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดและจะเรียกหัวหน้าวินจักรยานยนต์ทั้ง 2 กลุ่มมาให้ปากคำ
พร้อมทั้งจะดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

ขณะเดียวกันมีรายงานข้อมูลเพิ่มเติมว่า หนึ่งในกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ เผยว่า วินทั้ง 2 ฝ่ายมีปัญหาขัดแย้งกันมากว่า 2 ปีแล้ว โดยวินคู่กรณีมีการเก็บค่าวิน เดือนละ 3,500 บาท ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าจะเอาเงินไปส่งให้ใคร พอคนในวินไม่มีเงินส่งให้ ก็ย้ายมาอยู่ฝั่งวินของตน เมื่อไม่มีใครส่งเงินให้อีก ทำให้กลุ่มวินจยย.เจ้าถิ่น ไม่พอใจวินจยย.รับจ้างที่มาตั้งใหม่ของตนที่อยู่ใกล้เคียงกัน ว่ามาแย่งลูกค้า ทำให้เกิดการเขม่นกันขึ้น ก่อนวินจยย.ฝ่ายเจ้าถิ่น จะยกพวกไปไล่ทำร้ายพวกตนจนโดยใช้ปืนไล่ยิงกันจนมีผู้ถูกลูกหลงเสียชีวิต 1 ราย คือนายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ อายุ 20 ปี พนักงานขนส่งเคอรี่ ถูกกระสุนเจาะเข้าที่หัวคิ้วซ้าย นอนจมกองเลือด

นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บจากคมกระสุนอีก 1 ราย ถูกส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลแล้ว ขณะเดียวกันยังพบผู้บาดเจ็บอีกรายถูกมีดฟันศีรษะอาการสาหัส ทราบชื่อคือ นายทวีเกียรติ สุทธิสนอง อายุ 20 ปี กู้ภัยปฐมพยาบาลเบื้องตันก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า

• แม่-เมียท้องอ่อน ปล่อยโฮ กอดศพ หนุ่มเคอรี่แค่พักกินข้าว โดนลูกหลงดับ

ด้าน ภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ขณะนั้น ผู้เสียชีวิตอยู่ในช่วงพักเที่ยง จึงกลับมากินข้าวที่บ้าน เมื่อพบเห็นกลุ่มวินจยย. กำลังยกพวกตะลุมบอนกัน ผู้เสียชีวิตจึงออกไปขยับรถจยย.ของตัวเองออก แต่กลุ่มวินจยย.ที่ก่อเหตุเข้าใจผิดคิดว่าเป็นวินคู่อริ เนื่องจากใส่เสื้อสีส้มเหมือนกัน จึงยิงใส่ ขณะนั้นภรรยาผู้เสียชีวิตซึ่งกำลังตั้งครรภ์วิ่งเข้ามาช่วยเหลือแต่ไม่ทัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนรายละเอียด ซึ่งพบว่า กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้ โดยพบว่า นายวีรวัฒน์ โดนกระสุนแทนแม่ของเขา

ส่วน นางแดง จิตกระแส มารดาของนายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ อายุ 20 ปี หนุ่มเคอรี่ที่ถูกกระสุนลูกหลงยิงเสียชีวิต เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ลูกชายกลับมาจากส่งของ ขณะนั้นอยู่ด้วยกันในบ้าน จู่ๆ ได้ยินเสียงคนไล่ตีกัน วิ่งกรูกันมา 50-60 คน ระหว่างนั้นลูกชายวิ่งมาและตัวบังตนเองพอดีจึงถูกลูกหลงกระสุนยิงเข้าศีรษะล้มลงกับพื้น หากไม่เช่นนั้นตนก็คงเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งกลุ่มวินคู่อริทั้ง 2 กลุ่ม ที่มีเรื่องในซอย มีความขัดแย้งกันมานาน ก่อนเกิดเหตุมีเรื่องกันตั้งแต่หน้าวิน จนยกพวกนับกรูเข้ามาในซอย ส่วนลูกสะใภ้ตนเพิ่งตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน ลูกชายเป็นคนขยันทำมาหากิน ทำงานเคอรี่มาได้ปีกว่า ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุกับลูกของตน

• ตายเพิ่มอีก 1 เหตุตะลุมบอนกัน พบปืน คมแฝก กระบองเพียบ ตร.แจง! กำลังไม่พอระงับเหตุ

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. ที่สน.บางนา พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดี โดยใช้เวลานานกว่า 2 ช.ม. ก่อนออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ อายุ 20 ปี เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ และนายวัชรรินทร์ งาเฉลา อายุ 33 ปี เสียชีวิตที่โรงพยาบาลไทยนครินทร์

สำหรับนายวัชรินทร์ งาเฉลา อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุและได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไทยนครินทร์ เพื่อรักษาอาการอย่างเร่งด่วนเนื่องจากถูกอาวุธไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่บริเวณศรีษะ 1 นัด และลำตัว 2 นัด โดยไม่ทราบว่าถูกลูกหลงจากกลุ่มเดียวกันหรือกลุ่มคู่อริ ก่อนทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

โดยหลังจากนี้จะขออำนาจศาลออกหมายจับตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่ายซึ่งมีมากกว่า 10 ราย รวมทั้งหมด 4 ข้อหา ประกอบด้วย “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น” “ทำร้ายร่างกาย” “พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” และมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป” นอกจากนี้อาจจะแจ้งเพิ่มเติมในข้อหาทำให้เสียทรัพย์

พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ในจุดเกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนถึง 2 ชนิด ทั้งขนาด 9 มม. และ 11 มม. โดยเชื่อว่ามีผู้ใช้อาวุธปืนอย่างน้อย 2 กระบอก ซึ่งหลังจากนี้จะต้องสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมกรณีที่ปรากฏภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในจุดเกิดเหตุอีกด้วย

ทั้งนี้ ขอชี้แจงว่าจากการพิจารณาแล้วเล็งเห็นว่าขณะเกิดเหตุนั้นกำลังตำรวจไม่เพียงพอต่อการระงับเหตุ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีจำนวนมากจึงไม่สามารถระงับเหตุเบื้องต้นได้ โดยหลังจากนี้จะสั่งการให้เพิ่มกำลังลงพื้นที่ไปเฝ้าระวังจุดเกิดเหตุเพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อน
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีกลุ่มผู้มีอิทธิในพื้นที่อยู่เบื้องหลังคอยสั่งการหรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเป็นบุคคลจริงหรือเพียงแค่กล่าวอ้าง แต่ปกติทุกวินจะมีหัวหน้าคอยดูแล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเพื่อตรวจสอบว่าหัวหน้าวินทั้ง 2 ฝ่าย มีส่วนร่วมหรือเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้หรือไม่

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้ก่อเหตุ รวมทั้งพิจารณาเรื่องดำเนินการถึงการจัดตั้งวินของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ยังไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายแม้แต่อย่างใด
รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานพบไม้กระบอง และไม้คมแฝก มากกว่า 30 อัน ซึ่งถูกทิ้งไว้ตามข้างทางบริเวณจุดเกิดเหตุ รวมทั้งยังเชิญตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ฝ่าย มากกว่า 10 คน มาสอบสวนเพิ่มเติม รวมทั้งประสานให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือแฝงเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

วินจยย.อุดมสุข ปิดถนน! ยกพวกตีกันเอง ตาย 1 เจ็บ 3