กราบหัวใจ! หนุ่ม 18 ปี แอบบริจาคร่างกาย ช่วยต่อลมหายใจ 6 ชีวิต

กราบหัวใจ! หนุ่ม 18 ปี แอบบริจาคร่างกาย ช่วยต่อลมหายใจ 6 ชีวิต


ชาวโซเชียลแห่ชื่นชม นายพงศธร อัมพุธ หนุ่มพะเยา วัย 18 ปี แอบบริจาคร่างกายตั้งแต่ ม.6 แต่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกะทันหัน ทำให้อวัยวะสามารถนำไปช่วยอีก 6 ชีวิต โดยทีมหมอโรงพยาบาลเชียงราย แถลงขอบคุณครอบครัวอย่างเป็นทางการ ระบุมีผู้ป่วยกว่า 6,000 คนรอบริจาคอวัยวะ

วันนี้ (31 พ.ค.2562) เพจสำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 จ.เชียงใหม่ เผยแพร่เรื่องราวสุดประทับใจของครอบครัวนายพงศธร อัมพุธ อายุ 18 ปี ที่แอบบริจาคร่างกายตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กระทั่งประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต โดยร่างกายของนายพงศธร สามารถใช้อวัยวะช่วยเหลือกับผู้ป่วยได้ถึง 6 คน

 

 

 

โดยเรื่องราวนี้ได้รับการเปิดเผยจาก นพ.สำเริง สีแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นพ.พงศกร พงศาพาส ศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง ผู้รับผิดชอบศูนย์รับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ พร้อมคณะพยาบาลและญาติผู้เสียชีวิตที่แจ้งความจำนงขอบริจาคอวัยวะผ่านศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย

โดยระบุว่า นายพงศธร อัมพุธ อายุ 18 ปี เสียชีวิตกระทันหันจากอุบัติเหตุ หลังจากเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมาได้นาน 3 วัน และพบว่าผู้เสียชีวิตได้ทำเรื่องขอบริจาคอวัยวะตัวเองผ่านศูนย์รับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยทางโรงพยาบาลได้แจ้งให้ญาติรับทราบเพื่อขออนุญาตและขอบคุณอย่างเป็นทางการ

 

 

นายวัชระ อัมพุธ ผู้เป็นพ่อของนายพงศธร กล่าวว่า บุตรชายจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนดอกคำใต้วิทยาคม และได้สอบติดเพื่อเตรียมเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยนเรศวรในภาคเรียนหน้านี้ แต่ได้ประสบอุบัติเหตุขับรถจักรยานยนต์เสียหลักพุ่งลงข้างทาง ทำให้ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน และไม่รู้สึกตัว กระทั่งเสียชีวิตในที่สุด จากนั้นได้ทราบจากแพทย์ว่าบุตรชายได้ทำเรื่องขอขอบริจาคอวัยวะผ่านศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทยแล้ว 

“ยอมรับว่าทำให้พวกเรารู้สึกแปลกใจ และยังรับไม่ได้ในช่วงแรก แต่เมื่อเห็นว่าเป็นเจตจำนงของลูกที่เขาได้ตั้งใจเอาไว้ จึงได้ร่วมอนุโมทนาบุญ และคิดเสียว่าแม้เราจะเสียใจมาก แต่ลูกของเราก็ได้ไปช่วยเหลือคนได้ถึง 6 คน จึงอนุญาตให้แพทย์ได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป” ผู้เป็นแม่ กล่าว

นางเสาร์คำ อัมพุธ แม่ของนายพงศธร กล่าวอีกว่า ปกติลูกชายเป็นคนดี ชอบทำบุญ และนิสัยเรียบร้อย ดูเงียบๆ ไม่ค่อยพูดจา เมื่อ2 ปีก่อน ตอนที่ลูกชายยังเรียนหนังสืออยู่ในชั้นมัธยมศึกษาได้แอบไปทำเรื่องขอบริจาคอวัยวะ โดยที่ครอบครัวหรือแม้แต่ตนไม่เคยรับรู้มาก่อน

 

 

กระทั่งได้มีจดหมายแจ้งตอบรับจากศูนย์รับบริจาคไปถึงบ้านทำให้ครอบครัวได้รับทราบ ครั้งแรกก็รู้สึกน้อยใจ และไม่เห็นด้วยกับลูก เพราะเกรงจะเป็นลางร้าย แต่เมื่อทราบถึงความต้องการของเขาที่จะทำบุญ และยังได้รับทราบจากแพทย์ด้วยว่าปัจจุบันมีผู้ที่ขาดแคลนอวัยวะเป็นจำนวนมาก ทำให้ได้ปรึกษาหารือกัน และอนุญาตเพื่อร่วมทำบุญกับเขาแล้ว

ด้าน นพ.สำเริง กล่าวขอบคุณครอบครัวอัมพุธ ที่อนุญาตให้นายพงศธร ได้บริจาคอวัยวะ เพราะถือว่าได้ประโยชน์ในช่วยเหลือผู้ป่วยให้รอดชีวิตได้อีกหลายคน สำหรับโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์สามารถช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยได้ 100 กว่าคน ส่วนใหญ่เป็นการปลูกถ่ายกระจกตา 26 คนที่เหลือเป็นอวัยวะอื่นๆ

“กรณีของนายพงศธร สามารถนำอวัยวะไปปลูกถ่ายได้ถึง 6 อย่างคือหัวใจ ตับ ไต ทั้ง 2 ข้าง กระจกตา ทั้ง 2 ข้าง” นพ.สำเริง กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับกรณีของนายพงศธร ทางแพทย์ได้นำอวัยวะไปปลูกถ่ายเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่รอการช่วยเหลือประกอบด้วยผู้ป่วยหัวใจวาย 1 คน ผู้ป่วยไตวาย 2 คน ผู้ป่วยตับวาย 1 คน และผู้ป่วยตาบอด 2 คน รวมทั้งหมดจำนวน 6 คน

ทั้งนี้ภาพรวมสถานการณ์ผู้ป่วยทั้งประเทศในปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยกว่า 6,241 คนที่จำเป็นต้องได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะโดยส่วนใหญ่เป็นไต6,000 กว่าคน รองลงมาคือตับ 247 คน หัวใจ และปอดอย่างละ 23 คน

อย่างไรก็ตาม ในปี 2562 มีผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะเพียง 255 คน ถือว่ายังไม่เพียงพอ

 

 

ปัจจุบันทางศูนย์รับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะได้พยายามประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้เปลี่ยนความเชื่อเรื่องการบริจาคอวัยวะว่าเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่โดยเฉพาะไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดขึ้นใหม่ในชาติถัดไปที่จะต้องสูญเสียอวัยวะไปแต่อย่างใด โดยสอดแทรกคำสอนของพระสงฆ์ในเอกสารประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องด้วย
เพื่อให้คนในสังคมได้เห็นถึงความสำคัญอย่างต่อเนื่องแล้ว