‘ฟอร์ด’ ประกาศปลดพนักงานทั่วโลก 7,000 คน

‘ฟอร์ด’ ประกาศปลดพนักงานทั่วโลก 7,000 คน


ฟอร์ดประกาศปลดพนักงาน 7,000 คนทั่วโลก หวังปรับโครงสร้างลดค่าใช้จ่ายลงปีละ 600 ล้านดอลล่าห์ฯ พร้อมหันไปพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารถยนต์ไร้คนขับมากขึ้น

รายงานข่าวต่างประเทศเปิดเผยว่า บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ บริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เตรียมปลดพนักงาน 7,000 ตำแหน่ง หรือประมาณ 10% ของพนักงานที่มีอยู่ทั่วโลก เป็นการปรับโครงสร้างเพื่อลดรายจ่ายครั้งใหญ่

การลดขนาดองค์กรซึ่งรวมถึงการเลิกจ้างและเปลี่ยนแปลงตำแหน่งพนักงาน มีดป้าหมายให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ส.ค. นี้ ที่ผ่านมาฟอร์ดได้เลิกผลิตรถยนต์ซีดานหลายรุ่นในสหรัฐฯ เนื่องจากผู้บริโภคหันไปนิยมใช้รถกระบะหรือรถเอสยูวีกันมากขึ้น

มาริสา แบรดลีย์ โฆษกหญิงของฟอร์ด เปิดเผยว่า บริษัทจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงาน 800 ตำแหน่งในอเมริกาเหนือ โดยจะเริ่มปลดคนออก 500 ตำแหน่งในสัปดาห์นี้ ส่วนภูมิภาคอื่นๆ ยังไม่ได้กำหนดตัวเลขที่แน่นอน

สำหรับแผนปรับโครงสร้างครั้งนี้คาดว่าจะช่วยลดรายจ่ายบริษัทได้ถึง 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดย ฟอร์ด เริ่มหันไปลงทุนพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับ และคาดหวังการเติบโตจากธุรกิจดังกล่าวในอนาคต แม้ผลกำไรส่วนใหญ่จะยังมาจากยอดขายยานพาหนะแบบดั้งเดิมในภูมิภาคอเมริกาเหนือ โดยเฉพาะรถกระบะรุ่นขายดีที่สุดอย่าง F-150

ทั้งนี้ ฟอร์ดมีการว่าจ้างพนักงานทั่วโลกราว 199,000 คนเมื่อปลายปี 2018 ลดลงจาก 202,000 คนในช่วง 1 ปีก่อนหน้า เมื่อเดือน มี.ค. ฟอร์ดประกาศว่าจะปลดพนักงานในเยอรมนีกว่า 5,000 ตำแหน่ง ซึ่ง แบรดลีย์ ยืนยันว่า ตัวเลขล่าสุดที่แถลงวานนี้ (20 พ.ค. 62) ครอบคลุมพนักงานในส่วนนี้ด้วย

นอกจากนี้ ฟอร์ด ยังเตรียมที่จะถอนตัวจากธุรกิจรถบรรทุกขนาดใหญ่ (heavy truck) ในบราซิล ปรับโครงสร้างธุรกิจในรัสเซีย และยุติการผลิตที่โรงงาน 2 แห่งใน รัสเซีย เช่นเดียวกับโรงงานในฝรั่งเศสด้วย

 ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

มหาเศรษฐีพันล้าน ชาวอเมริกันใจบุญประกาศจะจ่ายหนี้การศึกษาให้นักศึกษาที่เรียนจบในปีการศึกษา 2019 ของวิทยาลัย Morehouse ในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอมเริกา เกือบ 400 คน