อ.เจษฎา สุดเดือด!จวกครู หลังโพสต์ภาพ ไถผมนักเรียนชายไม่เป็นทรง แถมบอก “ครูจัดการลงของให้เรียบร้อย” จนชาวเน็ตแห่วิจารณ์ยับ!
จากกรณีโลกออนไลน์เกิดกระแสการแชร์ภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊กหนุ่มรายหนึ่ง ซึ่งเป็นอาจารย์อยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครสวรรค์ ที่ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุ “ไอ้พวกอยากลองของ ครูจัดการลงของให้เรียบร้อย” พร้อมภาพที่มีการตัดไถศีรษะของนักเรียนชาย จนทำให้ภาพดังกล่าวเกิดกระแสการแชร์ต่อในโลกออนไลน์ พร้อมวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของครูหนุ่มที่มีการโพสต์ภาพเพื่อความสะใจ แต่ทำให้เด็กๆต้องอับอายนั้น
ล่าสุดเมื่อวันนี้ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กตั้งคำถามและอธิบายถึงระเบียบกระทรวงศึกษาฯ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา หลังแชร์ภาพจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ “Lahud In Black” ซึ่งเป็นรูปเด็กนักเรียนชาย 2 คน ถูกปัตตาเลี่ยนไถผมครึ่งหัว ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าวว่า
“ปรกติไม่โพสต์หรือแชร์เรื่องพวกนี้นะ แต่เห็นแล้วมันขึ้น”
โดยระบุอีกว่า ถึงคุณจะมีอาชีพเป็นครู คุณมีสิทธิอะไรมาลงโทษเด็กด้วยวิธีการแบบนี้ครับ แถมภาษาที่คุณเขียน “ไอ้พวกอยากลองของ ครูจัดการลงของให้เรียบร้อย” มันชัดเจนว่า ทำไปด้วยอารมณ์
ซึ่งตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548 นั้นได้มีการ ได้กำหนดวิธีการลงโทษไว้ ซึ่งจะนำมากล่าวถึงในประเด็นที่เป็นสาระสำคัญดังนี้
ข้อ 4. “การลงโทษ” หมายความว่า การลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำความผิด โดยมีความมุ่งหมายเพื่อการอบรมสั่งสอน
ข้อ 5 โทษที่จะลงโทษแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำความผิดมี 4 สถานดังนี้
1.ว่ากล่าวตักเตือน
2.ทำทัณฑ์บน
3.ตัดคะแนนความประพฤติ
4.ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ข้อ 6 ห้ามลงโทษนักเรียนและนักศึกษาด้วยวิธีรุนแรง หรือแบบกลั่นแกล้ง หรือลงโทษด้วยความโกรธ หรือด้วยความพยาบาท โดยให้คำนึงถึงอายุของนักเรียนหรือนักศึกษา และความร้ายแรงของพฤติการณ์ประกอบการลงโทษด้วย
นอกจากนี้ กฎระเบียบการไว้ทรงผมของกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2556 ยังมีข้อกำหนดให้สถานศึกษาปฏิบัติเกี่ยวกับทรงผมของนักเรียนชาย ว่าให้ไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้ หากไว้ยาวด้านข้างและด้านหลังต้องยาวไม่เลยตีนผม เช่น แบบทรงผมรองทรงได้อีกด้วย
แต่กับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ครูหนุ่มคนดังล่าว ซึ่งเป็นครูประจำวิชาคณิตศาสตร์ ได้รับมอบหมายหรือไม่ และการที่เด็กไม่ตัดผมมาให้เรียบร้อย จึงน่าจะเป็นความผิดไม่ร้ายแรง ให้ทำได้แค่ว่ากล่าวตักเตือน หรือถ้าเคยเป็นคนที่ถูกตักเตือนแล้ว แต่ไม่เข็ดหลาบ ก็ให้ลงโทษโดยการทำทัณฑ์บน “บางทีก็คิดนะว่าเราถูกกระแสสังคมทำให้เฉยเมยกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กๆ หรือไม่ … แต่ถึงวันนี้แล้ว มันน่าจะเปลี่ยนแปลงไปได้บ้างแล้ว”