รอดตาย!จนท.ช่วยผู้ป่วยวิกฤตส่งรพ.

รอดตาย!จนท.ช่วยผู้ป่วยวิกฤตส่งรพ.


ซาบซึ้ง!จนท.นำผู้ป่วยชาวกระเหรี่ยงขึ้นฮ.ส่งรพ. ยกมือไหว้ขอบคุณที่ช่วยชีวิต

เรื่องราวดีๆเกิดขึ้นนได้ทุกที่ อย่างการช่วยชีวิตชาวกระเหรี่ยงที่กลางป่าทุ่งใหญ่นเรศวร นพ.กฤษดา วุธยากร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสังขละบุรี และเจ้าหน้าที่ของร.พ.สังขละบุรี ปฏิบัติภารกิจเตรียมการรับเสด็จฯสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนธิราเทพยวดี ในพื้นที่บ้านสาละวะ หมู่ที่ 4 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

ได้รับแจ้งจากนายคมสันต์ พิทักษ์ชาติคีรี ผู้ใหญ่บ้านว่ามีชาวบ้านป่วย มีอาการถ่ายท้องเสียขั้นรุนแรง จึงได้เดินทางตรวจดูอาการผู้ป่วยทันที ทราบชื่อว่า นายหม่องอุย อายุ 43 ปี มีอาการอยู่ในขั้นวิกฤต ชีพจรเต้นช้ากว่าปกติ เพราะสูญเสียน้ำในร่างกาย จำเป็นต้องนำส่งโรงพยาบาลจึงประสาน พ.ต.ท วรากร วิทยาบำรุง ผบ.ร้อย ตชด.134 ขอเฮลิคอปเตอร์สนับสนุนเพื่อลำเลียงผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลสังขละบุรีโดยด่วน
จากนั้น หน่วยบินตำรวจจังหวัดกาญจนบุรี พ.ต.อ.ศุภกฤต พุ่มกำพล นักบิน 1 ร.ต.อ.ดุสิต ชูชวะลิต นักบิน 2 ร.ต.อ.วีรวัฒน์ จิรธนานุวัฒน์ ช่างเครื่อง น.ส.หวานเพ็ญ สาลี พยาบาลวิชาชีพ รพ.สังขละบุรี และน.ส.พรพนา โดะโอย พยาบาลวิชาชีพ รพ.สังขละบุรี ได้เดินทางเข้ามารับตัวและให้ผู้ป่วยนอนหนุนตักมา จนถึงลานจอดเฮลิคอปเตอร์ กองร้อย ตชด.134
ทันทีที่เจ้าหน้าที่ เข้าไปเปิดประตู เพื่อลำเลียงนายหม่องอุยลงจากเฮลิคอปเตอร์ นายหม่องอุย ได้ยกมือไหว้เจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลาสร้างความตื้นตันใจให้กับทีมเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้เข้าไปช่วยเหลือ

ทั้งนี้หากไม่มีภารกิจการเตรียมพื้นรับเสด็จฯสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ การลำเลียงผู้ป่วยออกจากพื้นที่ต้องใช้การลำเลียงทางรถยนต์ ซึ่งเส้นทางมีความยากลำบากต้องขึ้นเขาลงห้วย ประกอบกับมีฝนเริ่มตก ทำให้ถนนลื่น ต้องใช้เวลา 2-3 ชม.อาจส่งผลต่อการช่วยเหลือผู้ป่วยได้

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
รพ.เอกชนฮ่องกงพลาด ผ่าตัด”ไต”แต่กลับเอา”ม้าม” คนไข้ออก