นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา แนะ ชาวมุสลิมปฏิบัติตนช่วงเดือนรอมฏอน หลีกเลี่ยง หวาน มัน เค็ม โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวาน และอย่านอนทันทีหลังรับประทานอาหาร เสี่ยงเป็นกรดไหลย้อน
นายแพทย์ชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน สาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่เข้าสู่ช่วงเดือนรอมฏอนของพี่น้องมุสลิม ซึ่งเป็นศาสนบัญญัติ
สำหรับการปฏิบัติตัวในกลุ่มที่มีมีโรคประจำตัว ในเรื่องการทานยา ต้องมีการปรับเวลา ช่วงแรกก็อาจจะปรับยากหน่อย เพราะไม่ได้เตรียมความพร้อมไว้ร่างกายปรับไม่ได้ จะมีเรื่องของการรับประทานอาหารในช่วงแรกก่อน เมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนรอมฏอน แนะนำว่าอย่ากินเค็มมาก เนื่องจากระหว่างวันก็จะกระหายน้ำจะพบความลำบาก อย่ารับประทานเร็ว เพราะเปิดปอซอใหม่รับประทานเร็ว จะทำให้การย่อย ปรับตัวไม่ทันก็จะเป็นปัญหาได้ และหลังรับประทานเสร็จก็อย่านอนทันที ถ้านอนทันทีก็มีเรื่องของกรดไหลย้อน การย่อยที่เป็นปัญหาที่มีส่วนทั่วไป
ทั้งนี้ผู้ที่มีโรคประจำตัว ก็จะต้องปรึกษาแพทย์เป็นประการแรกในเรื่องการทานยา ถ้าเป็นยาประเภทเช้า-เย็น จะง่ายหน่อย สามารถปรับเป็นช่วงก่อนพระอาทิตย์ขึ้นกับหลังพระอาทิตย์ตก แต่ถ้าเป็นช่วงที่ต้องทาน เช้า เที่ยง เย็น ช่วงกลางวันก็ต้องปรึกษาแพทย์ว่ายากลุ่มนี้ เป็นยาที่ต้องทานตามอาการหรือไม่ ถ้าทานตามอาการอาจจะต้องงดเว้นได้ จะต้องปรึกษาแพทย์ว่าจำเป็นแค่ไหน ที่จะต้องปรับสูตรของการทานยาจะช่วยค่อนข้างมาก ถ้าเป็นยาก่อนอาหารช่วงที่จะเข้าเปิดบวชโดยการรับประทานอินทผาลัม ก็สามารถทานยาตัวนั้นตามแล้วละหมาดสักครึ่งชั่วโมง ให้เวลายาดูดซึมของยาครึ่งชั่วโมงเป็นยาก่อนอาหารเพื่อเป็นการปรับสูตรให้เหมาะสมของการดูแลเรื่องของสุขภาพของพี่น้องมุสลิมที่อยู่ในช่วงเดือนถือศีลอด ส่วนผู้ที่มีโรคเบาหวาน ควรหลีกเลี่ยงอาหาร หวาน มัน เค็ม อยู่ในช่วงไหนก็ตาม ทานอาหารที่เหมาะสม อาหาร 5 หมู่ ส่วนอาการกรดไหลย้อนถ้ารับประทานมากเกินไป ทานแล้วนอนทันที ทานที่ย่อยยากก็จะมีปัญหาในการที่จะนำไปสู่กรดไหลย้อน เช่น เนื้อสัตว์ประเภทเนื้อวัวเป็นหลักก็จะย่อยยากมาก
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ