หนุ่มลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น ป่วยเป็นลูคีเมีย แม่พาลูกชายไปรักษา โรงพยาบาลเอกชนดัง ให้เลือดติดเชื้อ HIV ทำค่ารักษา 7 ล้าน สูญเปล่า
เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ นาง รัตตินันท์ จิน แม่ พร้อม ลูกชาย ลูกครึ่งญี่ปุ่น วัย 24 ปี และครอบครัว เปิดใจเหตุการณ์พลิกชีวิตครอบครัว โดยแม่ เผยว่า ลูกชายป่วย โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือ ลูคีเมีย ตั้งแต่ 9 ขวบ พาไปรักษาที่รพ. หมดค่ารักษาไปเกือบ 7 ล้านแล้ว หมอ ทำคีโม ปกติ แต่ลูก เม็ดเลือดขาวต่ำ ต้องให้เกล็ดเลือด เพิ่มเลือด
“โดยจะทำ 14 ครั้ง ครบคอร์ส จนให้เลือด ถุงที่ 12 ลูกมีอาการทรุด ไข้ขึ้น ยิ่งทรุดลง ผอม พาไปรพ. ต้องอยู่ห้องปลอดเชื้อ หมอบอกลูกมีวัณโรคแทรก รักษาวัณโรค 6 เดือน จนหาย หมอที่รักษาประจำ ก็มาถามว่า พ่อแม่มีเชื้อ HIV ไหม แม่ตกใจ เราไม่มีเชื้อ อยู่แล้ว รพ.ก็เรียกประชุม เรียกทนายมา เราไม่อยากเอาความ แต่อยากให้ดูแลลูกให้ดี” นาง รัตตินันท์ กล่าว
ด้าน พี่ชาย กล่าวว่า รู้สึกแย่ ไม่อยากฟ้องรพ. หรือ เอาเงิน เรายอมปิดเรื่องนี้ โดยตอนคุยกัน มีคนของสภากาชาด รพ. มาคุย บอกจะรักษาน้องตลอดชีวิต รับผิดชอบทุกอย่าง เราก็ยอม ไม่ติดใจอะไรต่อ เพียงแต่ไม่ให้น้องรู้เรื่อง ก็ไม่ได้ทำสัญญาเป็นเอกสารอะไรกับรพ. ก็ตกลงกันเท่านั้น
ทั้งนี้ แม่ และ พี่ชาย ปิดเรื่องเป็นความลับมานาน เพิ่งบอกน้องเมื่อก่อนเข้ารายการ ซึ่ง แม่ ร่ำไห้ เผย ไม่กล้าบอกลูก กลัวลูกคิดสั้น ฆ่าตัวตาย หรือ ทรุด ขณะ ลูกชาย ร่ำไห้ บอกว่า ผมรู้ว่า ผมต้องมีอะไรผิดปกติ เพราะพฤติกรรมครอบครัวผมเปลี่ยนไปหมด คิดว่า เขารังเกียจผม เคยคิดจะฆ่าตัวตาย รู้มาตลอด เอะใจมาตลอด ไม่กล้าถาม จะหนีด้วยการเล่นเกม ฟังเพลง ดูหนัง คุยกับเพื่อน
แม่ บอกว่า หลังพบว่าติดเชื้อ รพ.ก็รักษาตามอาการ และลูกก็ใช้ประกันทางญี่ปุ่น ปีละ 7 แสน เนื่องจากพ่อของน้อง ทำงานบริษัทญี่ปุ่น มีประกันให้ครอบครัว
ชีวิตพลิก เมื่อบริษัทประกันรู้ ก็ไม่รับประกันให้อีก จากที่ครอบครัวเคยมี ตอนนี้เกิดปัญหา พ่อเขาไปทำงานที่เวียดนาม 3 ปี ขาดการติดต่อไปเลย จากที่ก่อนหน้านี้แต่งงานมา 22 ปี อยู่ที่ญี่ปุ่นกัน
พี่ชาย เล่าว่า มีช่วงที่ไม่ได้ไปรักษา ที่รพ. พอตอนนี้ ไป รพ. ทาง รพ. กลับบอกว่า ต้องไปหาประวัติมา เพราะเปลี่ยน ผอ. แล้ว ไม่มีประวัติคนไข้ ขาดการรักษาต่อเนื่อง ซึ่งที่หายไป รักษาสมุนไพร 2-3 ปี เพราะทานยา รพ. แล้ว มีผลข้างเคียงมาก
รพ. บอกให้ไปเอาเอกสารมา ซึ่งเราไม่มี เพราะเรายอมตามที่ รพ. บอกว่าจะรับผิดชอบ ก็ไม่ได้ทำสัญญาตกลงอะไรกัน ตอนนี้ รพ. กลับบอกให้ไปรักษา 30 บาท ถ้าไม่ไหว ยังไง ค่อยมาที่รพ.
อยากให้ รพ. กลับมารักษา เพราะน้องควรได้เรียนสูงกว่านี้ ครอบครัวเคยยื่นข้อเสนอ ให้รักษา HIV เพราะหากครอบครัวเราไม่อยู่ น้องจะอยู่ยังไงต่อ อยากให้เขามีเงินช่วยดำรงชีพต่อเดือน เขามีความสามารถพูดภาษาญี่ปุ่น มีงานให้เขาทำที่รพ. ได้
หนุ่ม รายนี้ วอนขอว่า อยากให้รพ. รับผิดชอบ มากกว่านี้ ส่วน แม่ ฝากว่า ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้ ไปเกิดกับลูกของคนอื่นอีก
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
น้ำแข็งละลาย! พบศพแช่แข็งเป็นร้อย บน “เอเวอเรสต์” คาดยังมีอีกเพียบ