หลังจาก การออกมาชิงประกาศ รวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ และแกนนำพรรคเพื่อไทย โดยอ้างว่าได้รับฉันทามติจากประชาชนได้รับเลือกจำนวน ส.ส. มาเป็นอันดับหนึ่ง ประมาณ 137 ที่นั่ง ถือเป็นความชอบธรรมตามวิถีระบอบประชาธิปไตย
ถือเป็นการกลับลำตั้งหลักสู้ ไม่ยอมสูญเสีย หาทางหาพื้นที่ยืนในเวทีการเมืองให้ได้ ของบรรดาพลพรรคแกนนำพรรคเพื่อไทย เพราะ จากผลการเลือกตั้งที่ออกมา บรรดาแกนนำหลักของพรรคที่ส่วนใหญ่อยู่ในบัญชีรายชื่อทั้งสิ้น นับเป็นการปรับวิธีการต่อสู้ทางการเมืองอีกครั้ง ก่อนหน้า ทางเพื่อไทยและ พรรคตระกูลเพื่อค่อนข้างมั่นใจกับยุทธวิธีแตกแบงก์พัน คาดหวังจะกอบโกยคะแนนรวมของพรรคเพื่อโกย ส.ส. บัญชีรายชื่อให้เป็นกอบเป็นกำ แต่เมื่อมีอุบัติพรรคสาขาที่หวังโกยคะแนน อย่าง ไทยรักษาชาติถูกยุบพรรคก่อนการเลือกตั้งทำให้ ผลการเลือกตั้งออกมาอย่างที่เห็น แม้คะแนนส่วนหนึ่งจะถูกเทมาเพื่อไทย จนได้จำนวนส.ส. มากสุด แต่ คะแนนรวมกลับแพ้ต่อพรรคคู่แข่ง ไปเกือบ 5 แสน คะแนน
ดังนั้น จึงเป็นเหตุให้ พรรคเพื่อไทย ยกเหตุผลให้น้ำหนักกับจำนวน ส.ส. ขึ้นมาต่อสู้เพื่อช่วงชิงอำนาจ ขอความชอบธรรมในการตั้งรัฐบาลโดยให้ยึดฉันทามติจาก จำนวนส.ส.ที่ได้รับเลือกมาเป็นอันดับ 1
สำหรับคะแนนรวมของพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจของแต่ละพรรคการเมือง เมื่อ นับคะแนนไปได้ประมาณ 94 % ซึ่งยังไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2562 มีดังนี้
ไม่เป็นทางการ (ณ. เวลา 11.00 น. 25 มี.ค. 61 )