เปิดปูม ‘พิสิฐชัย’ กล้าโพสต์จับ ‘สมเด็จช่วง’

เปิดปูม ‘พิสิฐชัย’ กล้าโพสต์จับ ‘สมเด็จช่วง’


กลายเป็นกระแสที่สะเทือนวงการสงฆ์และรัฐบาล จากการโพสต์ข้อความของ พิสิฐชัย สว่างวัฒนากร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 8 มิ.ย. โดยระบุว่า

“ข่าวเตรียมจับ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ วัดพิชัยญาตฯ อีกวัดคาดว่าวัดบวรฯครับ” จากนั้นถัดมาไม่กี่ชั่วโมง นายพิสิฐชัย ก็ได้โพสต์อีกครั้งโดยระบุว่า “ข่าวทำคดีเงินทอน เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ วัดพิชัยญาตฯ อีกวัดราชสิทธิครับ”

ทั้งที่ หน่วยงานที่่รับผิดชอบคดีเงินทอนวัด คือ กองปราบปราบ ไม่ใช่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ต้นสังกัด ของนายพิสิฐชัย แต่ทำไมนายพิสิฐชัย ถึงรู้ข้อมูล โดยที่กองปราบปรามก็ยังไม่ได้สรุปแน่ชัดว่าจะดำเนินคดีกับใครบ้าง ในคดีเงินทอนวัดล็อตที่ 4

นายพิสัฐชัย รับรู้ข้อมูลมาได้อย่างไร และโพสต์ด้วยเจตนาอะไร

หลังการโพสต์ กองปราบปราม ได้เชิญตัวนายพิสิฐชัยไปสอบปากคำ ถึงต้นสายปลายเหตุของการโพสต์ แต่ไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก ก่อนที่นายพิสิฐชัย จะโพสต์ขอโทษ ในเวลาต่อมา

  

นายพิสิฐชัย นับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูวของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เคยเป็นคณะอนุกรรมการรวบรวมข้อมูลข่าวสาร ของคณะกรรมการติดตามข้อมูลข่าวสารมหาเถรสมาคม หรือ มส.ด้วย ด้วยเหตุนี้หรือไม่ เขาจึงมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกรรมการมส.

จากตรวจสอบข้อมูลยังพบว่า ในช่วงการแต่งตั้ง ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาคนใหม่ (ผอ.พศ.) แทน พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ที่ตอนนั้น ถูกย้ายออกจากตำแหน่งนั้น นายพิสิฐชัย มีชื่อ เป็นแคนดิเดตด้วย ก่อนที่จะมีการแต่งตั้ง  พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ กลับเข้ามาอีกครั้ง

นายพิสิฐชัย ยังเคยร่วมทำคดีการทุจริตเงินของสหกรณ์คลองจั่น  ที่เกี่ยวโยงกับวัดพระธรรมกาย และกรณีการเข้าไปจับกุมเจ้า พระธรรมชโย นายพิสิฐชัย ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้เข้าไปเจรจาแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ

ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เคยได้มอบหมายให้นายพิสิฐชัย เข้าพบนายพนม ศรศิลป์ ผอ.พศ. เพื่อหารือกับสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดพิชยญาติการามด้วย

จากข้อมูลสะท้อนให้เห็นว่า พิสิฐชัย สว่างวัฒนากร เป้นคนวงใน ทั้งมหาเถระ และวงในในการดำเนินคดีกับพระบางกลุ่ม

ต้องติดตามว่า ข้อมูลของเขาจะเป็นจริงแค่ไหน และจะส่งผลรุนแรงต่อวงการสงฆ์อย่างไรบ้าง