ความพิเศษที่ทำให้วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม 2560 เป็นวันศุกร์ที่ไม่ธรรมดา มีอยู่แค่เป็นวันที่ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดชี้ชะตา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและน้องสาวอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร กรณีปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำทุจริตโครงการจำนำข้าว วันศุกร์เดียวกันนี้ ยังตรงกับวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดชี้ชะตา นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ,นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพวกรวม 28 คนกรณีร่วมกันกระทำการทุจริตโครงการจำนำข้าว หมอดูหมอเดาพากันสวมบทตุลาการไร้บัลลังก์ ทำนายทายทักล่วงหน้ากันไปต่าง ๆนานาสารพัด แต่บรรดาหมอทั้งหลายล้วนเป็น “นกรู้” ไม่มีใครกล้าหาญชาญชัยฟันธงแบบโปะเชะด้วยเกรงจะตกเป็นจำเลยฐานละเมิดอำนาจศาล ข้างฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบรักษาความสงบเรียบร้อย ดูจะให้ความสำคัญกับวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคมอย่างยิ่งยวด ด้วยการระดมกำลังพลตรึงพื้นที่ 15,000 ตารางเมตร โดยรอบบริเวณศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พร้อมด้วยเครื่องไม้เครื่องและยุทโธปกรณ์เต็มพิกัด กำลังพลของตำรวจที่ถูกระดมมาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในวันศุกร์พิเศษที่ว่า มีจำนวน 24 กองร้อย หรือ 3,600 คน โดยระดมมาจาก 4 กองบัญชาการ คือกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ยิ่งกว่านั้นยังมีอุปกรณ์สนับสนุนการรักษาความสงบเรียบร้อยอีกเพียบ ทั้งกล้องวงจรปิดที่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานจำนวน 120 ตัว วิทยุพกพาแบบไฮเทค 4 จีพร้อมกล้องเคลื่อนที่กว่า 100 ตัว และเฮลิคอปเตอร์ อีก 3 ลำ นอกจากนี้ยังมีการสนธิกำลังทหาร-ตำรวจ ตั้งด่านตรวจกระจายไปทั่วครอบคลุมทุกกองบัญชาการ เพื่อสแกนการเคลื่อนที่ของมวลชนแบบเข้มข้น “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”นับเป็นผู้หญิงธรรมดาที่ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง ตั้งแต่การก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย โดยใช้เวลาเพียง 44 วัน และกำลังเป็นชนวนบันดาลให้เกิดปรากฏการณ์ไม่ธรรมดา ที่ทำให้วันศุกร์ธรรมดา ไม่ธรรมดา สุดท้ายแล้วเธอจะเติมความเข้มข้นให้กับความไม่ธรรมดา ด้วยการเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อจาก”น.ส.” ไปเป็น “น.ญ.”หรือไม่……ทั้งหมดสุดแท้แต่บุญกรรม!!! . …………………………………………………….
