เลื่อมสลับลายในดงขมิ้น

เลื่อมสลับลายในดงขมิ้น


ปรากฏการณ์ฉาวโฉ่สารพัดที่สื่อสะท้อนพฤติกรรมแห่ง “เลื่อมสลับลาย” ออกมาจากดงขมิ้นระลอกแล้วระลอกเล่า อาจบีบคั้นกดดันสาธุชนทั้งหลายให้ต้องฉีด “วัคซีน”ป้องกันการติดเชื้อพร้อมกับต้องถือคบไฟ ยามที่กุศลจิตบันดาลใจให้ต้องเข้าไปบำเพ็ญกุศลกรรมในวัดวาอารามทั้งหลาย โดยไม่มีเว้นวรรคแม้กระทั่งพระอารามหลวง ข้อยกเว้นในการ “ปลดล็อค”เครื่องป้องกันการติดเชื้อเลื่อมสลับลายจะมีอยู่เฉพาะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชเจ้าเท่านั้นกับพระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่ได้รับยกย่องบูชาอย่างสนิทใจจากพุทธศาสนิกชนอีกจำนวนหนึ่ง เหตุปัจจัยที่ทำให้แวดวงดงขมิ้นเป็นดินแดนที่พึงระแวดระวังให้จงหนัก ในการเข้าไปข้องแวะ เป็นเพราะว่านานาหลายหลากเรื่องราวอื้อฉาว พรั่งพรูออกมาจากแวดวงนี้อย่างต่อเนื่อง ราวกับสายน้ำ ไม่ต้องเสียเวลาคิดซับซ้อนให้มากเรื่องเสียเวลา เอากันสั้น ๆง่าย ๆแค่ไม่กี่เดือน..ไม่กี่วันที่ผ่านมานี่ก็เหลือเฟือแล้ว ถอยเวลาย้อนกลับไปไม่กี่เดือนก่อน ต่อเนื่องมาถึงทุกวันนี้พระสงฆ์ผู้มีสมณศักดิ์สูงส่งในพระอารามหลวงหลายรูป “มอมแมม”อยู่กับปลักน้ำคลำเรื่อง “เงินทอน” พระสงฆ์บางรูปซึ่งแก่กล้าทั้งพรรษาการบวช และสูงส่งด้วยสมณศักดิ์ แทนที่จะมีดวงตาเห็นธรรม รู้ผิดชอบชั่วดีตามหลักพระธรรมแห่งองค์พระบรมศาสดา แล้วออกแรงช่วยกันกำจัด “เหลือบผ้าเหลือง” ขัดสนิมที่กัดกร่อนพระพุทธศาสนาให้สิ้นซาก กลับกลายเป็นแสดงปฏิกิริยาท่าทีเห็นดีเห็นงามไปกับขบวนการเหลือบผ้าเหลืองที่ทำตัวเยี่ยง “เปรตวัดสุทัศน์” เออออไปกับ “เงินทอน” ซ้ำร้ายไปกว่านั้นยังมีทีท่าสามานย์เกินเปรตซะอีก โดยพยายามยุยงปลุกปั่นสาธุชนทั้งหลายให้ตั้งแง่รังเกียจเดียดฉันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติคนปัจจุบันเพื่อหวังจะให้เปลี่ยนตัวผู้อำนวยการคนปัจจุบัน ไปเป็นบุคคลอื่นที่ไปด้วยกันได้ดีกับ “เงินทอน” โดยเร็วที่สุดก่อนที่ขยะเงินทอนหลายต่อหลายกองจะถูกกวาดล้างไม่เหลือหรอ ความพยายามของบรรดาอลัชชีในหมู่สงฆ์ที่ต้องการกำจัด “พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติคนปัจจุบัน” ให้พ้นทางดูจะไม่ต่างอะไรกับเสียงนกเสียงกาคอแห้ง จึงไม่มีใครเสนอหน้าออกมาร่วมด้วยช่วยกัน พูดถึงพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ แม้ท่านจะไม่ได้โกนหัวห่มผ้ากาสาวพัสตร์และถือศีล 227 ข้อตามแบบอย่างพระสงฆ์ แต่ท่านเป็นฆราวาสที่ถืออุโบสถศีลอยู่เป็นนิจ และดำรงชีพอยู่ด้วยอาหารวันละ 2 มื้อเช่นเดียวกับพระสงฆ์ อีกทั้งมีความเป็นอยู่อย่างสมถะเรียบง่าย วัตรปฏิบัติของพ.ต.ท.พงศ์พรเผลอ ๆ จะสะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่องกว่าคนโกนหัวห่มผ้าเหลืองในคราบพระสงฆ์ จำนวนมากมายก่ายกอง ที่ปล่อยตัวปล่อยใจให้ลื่นไหลในบ่วงกิเลส กระชับเวลาใกล้เข้ามาอีกนิด เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมาที่ประชุมมหาเถระสมาคม มีมติเห็นดีเห็นงามกับการแต่งตั้งพระสงฆ์บางรูปให้มีตำแหน่งใหญ่โตโอฬารขึ้น ทั้งที่พระสงฆ์รูปนั้นเข้าข่าย “ล้มละลาย”ทั้งทางธรรมและทางโลก พระเดชพระคุณพระเถรานุเถระทั้งหลายที่ร่วมให้การรับรองสงฆ์ ซึ่งล้มละลายทั้งทางธรรมและทางโลกอาจหลงและอาจลืมไปอย่างสนิทใจว่า พระคุณเจ้าทั้งหลายได้กระทำการในลักษณะ “ถ่มน้ำลายรดฟ้า”และ “เขียนด้วยมือ-ลบด้วยเท้า” ด้วยเหตุที่สงฆ์รูปดังกล่าว เคยต้องคำวินิจฉัยจากท่านทั้งหลาย ให้ “ต้องอธิกรณ์”เมื่อหลายปีก่อน “มติอัปยศ”ข้างต้นเป็นมติที่พระเดชพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเป็นองค์ประธานมิได้ทรงร่วมประชุมอยู่ด้วยเนื่องจากทรงประชวร ขณะเดียวกันพ.ต.ท.พงศ์พรในฐานะเลขานุการมหาเถระสมาคม ก็ลาประชุมในวันนั้น เนื่องจากติดราชการสำคัญ อย่างไรก็ตามพ.ต.ท.พงศ์พรได้นำเอากรณีนี้กราบทูลสมเด็จพระสังฆราช ให้ทรงมีพระวินิจฉัยสั่งการ แวดวงดงขมิ้นมันชุกชุมไปด้วยความปลิ้นปล้อนซะขนาดนี้ เห็นทีพุทธศาสนิกชนทั้งหลายต้องร่วมด้วยช่วยกัน “คุมกำเนิด” แล้วพัฒนาไปสู่การ “กำจัด”สายพันธุ์เหลืองเลื่อมสลับลายให้สูญพันธุ์ไปโดยไว้ ………………………………………………………