ไม่มีน้ำผึ้งพระจันทร์สำหรับทรัมป์  – 3 เมษายน 2017

ไม่มีน้ำผึ้งพระจันทร์สำหรับทรัมป์  – 3 เมษายน 2017


โดนัล ทรัมป์ นั่งอยู่บนเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐมา 73 วันแล้ว  ถือว่าน่าจะยังอยู่ในช่วงดื่มน้ำผึ้ง พระจันทร์ หรือ Honey Moon period ซึ่งอเมริกันชนตั้งไว้ที่ 100 วัน ก่อนจะถึงเวลาที่สื่อมวลชน พรรคฝ่ายค้าน และกลุ่มคนเกลียดทรัมป์ จะลุยถล่มได้ตามอัธยาศัย แต่ในการทำโพล (Gallop Poll)  สัปดาห์ที่แล้ว คะแนนความนิยมทรัมป์ตกลงมาถึงขีดต่ำสุดโดยได้รับความยอมรับเพียง 35%1  นับเป็นการร่วงแบบแรงและเร็วที่สุดเมื่อเทียบกับประธานาธิบดีอเมริกันทุกคนที่ผ่านมา

ทรัมป์ไต่เต้าขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ด้วยลมปาก ด้วยบุคลิกเฉพาะตัว และด้วยคำมั่นสัญญาที่โดนใจอเมริกันชน 26% ของผู้มีสิทธิออกเสียง2 แต่เขาจะอยู่รอดจนครบวาระสี่ปีหรือไม่ ? ความเป็นตัวตนของเขา ฐานเสียงของเขา และการบริหารงานในทำเนียบขาวของเขา จะเป็นตัวตัดสิน

อดีตของทรัมป์คือเซลล์แมนตัวฉกาจที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จนร่ำรวย และเขามักหยิบยกมาเป็นจุดขายอยู่เสมอว่าเขาคือเจ้าพ่อแห่งการทำดีล3,4 บุคคลิกของผู้นำที่ใช้ความเด็ดขาดเป็นอาวุธของทรัมป์ได้รับการหนุนนำด้วยการเป็นดาราทีวีในซี่รี่ย์เกมส์โชว์อันโด่งดังของอเมริกาชื่อ “The Celebrity Apprentice”5 เป็นเวลาถึง 11 ปีก่อนเขากระโดดเข้าสังเวียนการเมือง ชาวบ้านร้านตลาดในอเมริกาจำนวนมาก จึงจดจำและชื่นชอบทรัมป์ที่สวมบทบาทผู้ตัดสินคนเข้าแข่งขันว่าจะแพ้หรือชนะ ด้วยท่าเด็ดของเขาคือการชี้นิ้วไปที่ผู้แพ้ แล้วพูดอย่างดุดันว่า “คุณถูกไล่ออก” (You’re fired) 

แต่อดีตของเขาก็มีจุดด่างพร้อยไม่น้อยไปกว่าจุดเด่น  การทำธุรกิจของทรัมป์สร้างความเดือดร้อนให้คนที่เข้าไปเกี่ยวข้องจำนวนไม่น้อย เดอะ วอชิงตัน โพสต์6 รายงานว่าทรัมป์ยื่นขอล้มละลายบริษัทตัวเอง 6 ครั้งเพื่อหนีความรับผิดชอบด้านหนี้สินที่เขาไปลงทุนไว้ในธุรกิจคาสิโนและโรงแรม 

และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คดีฟ้องร้องมหาวิทยาลัยทรัมป์ที่ยืดเยื้อมานานหลายปีก็เพิ่งจะยุติลงด้วยการที่ศาลอนุญาติยอมความกันในคดีฟ้องหมู่ (class action)7 ที่นักศึกษา 3730 คนฟ้องเรียกค่าเสียหายว่าถูกหลอกด้วยการโฆษณาชวนเชื่อเกินจริง งานนี้ผู้เสียหายได้เงิน 25 ล้านเหรียญไปถัวเฉลี่ยกัน แต่ทรัมป์ก็ไม่ยอมกล่าวคำขอโทษอยู่ดี

ฐานเสียงของทรัมป์ไม่สนใจในมาตรฐานทางจริยธรรมของเขา  คลิปฉาวที่เขาคุยโวว่าเขาชอบ “จับจิ๋ม” (grab them by the pussy) สาวที่เขาถูกใจ8 ที่ถูกปล่อยออกมาตอนทรัมป์หาเสียงเลือกตั้งก็ยังเอาเขาลงไม่ได้  เบื้องหลังสีเทาเหล่านี้ของทรัมป์ไม่อาจทำให้ฐานเสียงของเขาเปลี่ยนความเชื่อว่า เขาคือหนึ่งเดียวคนนั้นที่จะมากวาดล้างกำจัดการคอรัปชั่นในรัฐบาล ตามที่เขาหาเสียงมาตลอดและกล่าวย้ำในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง9

ฐานเสียงผู้จงรักภักดีของทรัมป์คือใคร? ฐานเสียงจำนวนมากของทรัมป์คือผู้ที่ปรับตัวไม่ทันโลกยุคใหม่  เมื่อทุนของอเมริกาไหลออกไปสู่ที่ ๆต้นทุนถูกกว่าในโลกอันไร้พรมแดนยุคใหม่  เมื่อโรงงานในอเมริกาปิดลงหรือปลดคนงาน คนเหล่านี้ก็ไม่มีพื้นความรู้ที่จะหางานใหม่ในภาคอุตสาหกรรมใหม่ๆได้ ผู้พ่ายแพ้เหล่านี้มองดูผู้อพยพ ไม่ว่าจะเป็นชาวเอเชีย ชาวลาตินอเมริกา และตอนหลังคือชาวตะวันออกกลางที่เข้ามาในประเทศได้รับสวัสดิการเหมือนอเมริกันชน และทำงานหนักในงานที่ชาวอเมริกันไม่ต้องการทำ จนฐานะดีขึ้นเรื่อย ๆ   ย่อมไม่แปลกที่ผู้อยู่มาก่อนเหล่านี้จะไม่พอใจ

เมื่อทรัมป์หาเสียงด้วยคำมั่นสัญญาว่า10จะกีดกันพวกมุสลิมที่มาก่อการร้ายในสหรัฐ จะไล่ผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย จะสร้างกำแพงกั้นแมกซิโกเพื่อกันพวกหลบหนีเข้ามาทำงานและพวกค้ายาเสพติด จะเปิดให้มีการทำเหมืองถ่านหินได้อีก  จะตั้งกำแพงภาษีเพื่อลงโทษบริษัทอเมริกาที่ไปลงทุนต่างประเทศ จะเล่นงานประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าอเมริกา จะทบทวนข้อตกลงการค้าเสรี NAFTA จะยกเลิกข้อตกลงการค้าเสรี TPP  นโยบายเหล่านี้ที่เล่นงานผู้อพยพและผู้ก่อการร้าย หันหลังให้พลังงานสะอาด และกีดกันทางการค้า มีจุดมุ่งหมายสำคัญที่สุดคือสร้างงานให้ชาวอเมริกา เพื่อทำให้อเมริกากลายเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง (Make America Great Again)11 คำพูดของทรัมป์จึงโดนใจอเมริกันชนจำนวนมากพอที่จะส่งเขาติดลมบนจนกลายเป็นประธานาธิบดีอเมริกาคนที่ 45

การเอาใจฐานเสียงของทรัมป์คือสิ่งที่น่ากลัวสำหรับคนอเมริกาจำนวนมาก แต่จนถึงวันเลือกตั้งโพลแทบทุกโพลก็ยังชี้ว่าทรัมป์แพ้แน่  นักวิจารณ์การเมืองแนวคิดเสรีนิยมหลายคนหัวเราะเยาะทรัมป์ และวิจารณ์ว่าความคิดของเขาเหยียดผิว โดดเดี่ยวประเทศ ฟั่นเฟือน บ้าระห่ำ และเป็นไปไม่ได้12,13,14

เมื่อทรัมป์เริ่มทำตามคำสัญญาเหล่านั้นหลังสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ความโกลาหลจึงเกิดขึ้นไม่เฉพาะในอเมริกาแต่กำลังจะแผ่ขยายไปทั่วโลก ตั้งแต่คำสั่งในสัปดาห์แรกที่ห้ามคนจากชาติมุสลิม 7 ประเทศเข้าสหรัฐ15 ซึ่งถูกต่อต้านจนยังคาราคาซังอยู่ในหลายศาล คำสั่งทบทวนกฎหมายพลังงานสะอาด เมื่อสัปดาห์ก่อน16 ซึ่งจะส่งผลต่อความพยายามของนานาชาติที่ต้องการชะลอภาวะโลกร้อน 

ดุลอำนาจของโลกที่อเมริกาเป็นผู้นำของโลกเสรีประชาธิปไตยตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองก็กำลังถูกสั่นคลอน คำขู่ของทรัมป์เมื่อตอนหาเสียงว่าอาจเลิกการสนับสนุนนาโต้ได้รับการตอกย้ำอีกครั้งเมื่อทรัมป์ให้สัมภาษณ์นักข่าวจากเยอรมันและอังกฤษอย่างดูแคลนนาโต้ว่า “ล้าสมัย” และขายไอเดียว่าเขาอาจยกเลิกการลงโทษรัสเซียที่ไปบุกยูเครนแลกกับการลดอาวุธนิวเคลีย17

ขณะที่ทรัมป์หันไปเอาใจรัสเซียจนออกนอกหน้า เขาก็แสดงท่าทีเหมือนจะประกาศสงครามการค้ากับทั่วโลกโดยเฉพาะกับจีน ด้วยการออกคำสั่งประธานาธิบดีให้ทำการศึกษา 16 ประเทศที่เอาเปรียบอเมริกาทางการค้าเพื่อหามาตรการตอบโต้ภายใน 90 วัน  ทรัมป์ไม่สนว่าประธานาธิบดีสีจิ้นผิงกำลังจะมาเยือนสหรัฐในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้แล้ว18 ประเทศไทยเองก็ติดร่างแหไปด้วย พร้อมกับญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส และแม้แต่เพื่อนบ้านใกล้ชิดอย่างแคนาดา19

ภายในประเทศ ทรัมป์เพิ่งจะประสบความพ่ายแพ้ทางการเมืองครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อแผนการยกเลิกโอบาม่าแคร์ ที่พรรครีพับบลิกันวางแผนไว้ถึงเจ็ดปี ต้องล้มเหลวแบบหน้าแตกไม่รับเย็บ เพราะสส.พรรครีพับบลิกันด้วยกันไม่เอาด้วย จนทรัมป์และประธานสภา “นายพอล ไรอัน” ผู้เสนอร่างใหม่เข้ารัฐสภาต้องดึงร่างกฎหมายนี้ออกมาแทบไม่ทัน


ไม่น่าแปลกใจที่ร่างนี้จะแท้งตั้งแต่ยังไม่ออกเสียง หรือ death on arrival เพราะบรรดาส.ส.พรรครีพับบลิกันถูกประชาชนในเขตเลือกตั้งของตัวเองประท้วงตามที่ทำการเทศบาล หรือ town hall แบบถล่มทลายหลายต่อหลายแห่ง ทรัมป์ใช้วิธีข่มขู่ให้ส.ส.เหล่านี้ลงคะแนนเสียงให้ร่างกฎหมายนี้ผ่าน ไม่งั้นจะโดนเล่นงาน แต่สส.เหล่านี้ก็คงประเมินแล้วว่ายกมือให้ก็ไม่คุ้มที่จะสอบตกในการเลือกตั้งสมัยหน้า ก็จะให้ยกมือได้อย่างไรในเมื่อร่างกฎหมายฉบับใหม่จะทำให้อเมริกันชน 24 ล้านคนไร้ซึ่งความคุ้มครองจากประกันสุขภาพ
20

แต่หลังการพ่ายแพ้ทรัมป์กลับออกมากล่าวโทษว่า เป็นความผิดของพรรคแดโมแครทที่ไม่ยอมยกมือให้เลยแม้แต่คนเดียว21 ซึ่งมันก็แน่นอนอยู่แล้วเพราะ Obamacare เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของประธานาธิบดีโอบาม่า และถึงแม้มันจะไม่สมบูรณ์แบบแต่ทรัมป์ก็ไม่มีมารยาทพอจะเข้าหาพรรคเดโมแครทเพื่อต่อรองนอกรอบหรือขอความสนับสนุนแม้แต่ครั้งเดียว

ทรัมป์ยังมีอีกหลายนโยบายที่ขาดการไตร่ตรอง ซึ่งก็กำลังถูกชงให้เข้าไปโหวตกันอีกในอนาคตอันใกล้ แต่ถึงนโยบายเหล่านี้จะเข้าท่าหรือไม่เข้าท่า ไม่ว่าอเมริกันชนจะเดือดร้อนแค่ไหน  ประชาธิปไตยในสายเลือดก็จะทำให้ทุกคนต้องจำทนไปจนครบสี่ปี ทรัมป์คงจะปลอดภัยจากการผลักดันนโยบายที่ไม่เข้าตากรรมการไปจนครบสี่ปี


แต่สิ่งที่น่าจะมีผลต่อการอยู่หรือการไปของทรัมป์มากที่สุดในขณะนี้ คือความเกี่ยวโยงกับอดีตศัตรูตัวฉกาจคือรัสเซีย เรื่องนี้กำลังร้อนระอุและเป็นเผือกร้อนที่ทรัมป์สลัดไม่หลุดมาเป็นสัปดาห์ที่สี่แล้ว ตั้งแต่เขาพยายามกลบข่าวฉาวโฉ่เรื่องที่ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของเขาคือนายพลไมเคิล ฟลิน ลาออกเพราะพูดบิดเบือนเรื่องการพบปะพูดคุยกับเอกอัคราชทูตรัสเซีย
22

ทรัมป์พยายามกลบข่าวฉาวเรื่องรัสเซียด้วยการทวีทว่าประธานาธิบดีโอบาม่าแอบดักฟังโทรศัพท์ของเขาที่อาคาร ทรัมป์ทาวเวอร์23 เรื่องนี้แหละที่อาจจะทำให้ปลาหมอทรัมป์ตายเพราะปาก  โปรดติดตามตอนต่อไป “ศึกไซเบอร์คู่จิ้น ปูตินปั่นหัวทรัมป์?” ความมันส์ระดับ Game of Throne บวก Bourne Identity คอหนังและคอข่าวทรัมป์ ห้ามพลาด


XXXXX

  1. Steven Shepard, “Trump suffers month of rough polling”, www.politico.com, 31 Mar 2017
  2. Ryan McMaken, “26 Percent of Eligible Voters Voted for Trump”, Mises Wire, 11 Sept 2017
  3. Biography – Donald Trump – Master of the Deal, (DVD),www.amazon.com
  4. Donald Trump Biography, http://www.biography.com/people/donald-trump-9511238
  5. The Apprentice (U.S. TV Series, Wikipedia)
  6. Michelle Lee, “Fact Check: Has Trump declared bankruptcy four or six times?”, The Washington Post, 27 Sept 2016
  7. Steve Eder and Jennifer Medina, “Trump University Suit Settlement Approved by Judge”, The New York Time, 31 Mar 2017
  8. Ben Mathis-Lilley, “Trump was recorded in 2005 Bragging about grabbing women “by the pussy”, www.slate.com, 7 Oct 2016,
  9. Ashley Parker, “Democrats laugh at Trump’s claim he is “draining the swamp”, The Washington Post, 1 Mar 2017
  10. Gregory Krieg, Will Mullery, Tal Yellin, “Trump’s Promises”, CNN Politics, 28 Mar 2017
  11. Trump: Make America Great Again, www.donaldjtrump.com
  12. Real Time with Bill Maher, www.hbo.com
  13. The Late Show with Stephen Colbert, www.cbs.com
  14. The Daily Show with Trevor Noah, www.cc.com
  15. “Executive Order: Protecting the Nation from Foreign Terrorist Entry into the United States”, The White House, Office of the Press Secretary, 27 Jan 2017
  16. Mythili Sampathkumar, “Donald Trump signs executive order overhauling Barack Obama’s attempts to slow climate change”, The Independent, 29 Mar 2017
  17. Rainer Buergin and Toluse Olorunnipa, “Trump Slams NATO, Floats Russia Nuke  Deal in European interview”, Bloomberg, 16 Jan 2016,
  18. Jeremy Diamond, “Trump tackles trade abuses ahead of meeting with Chinese president”, CNN Politics, 31 Mar 2017
  19. Mike Blanchfield, “Trump to order probe into how 16 countries are abusing trade with the U.S., including Canada”, The Canadian Press, 31 Mar 2017
  20. Donald M. Berwick, “Obamacare Can Survive Trump”, The New York Time, 1 April 2017
  21. Robert Pear, Thomas Kaplan and Maggie Haberman, “In Major Defeat for Trump, Push to Repeal Health Law Fails”, The New York Times, 24 Mar 2017
  22. Maggie Haberman, Matthew Rosenberg, Matt Apuzzo and Glenn Thrush, “Michael Flynn Resigns as National Security Adviser”, The New York Times,  13 Feb 2017
  23. Zack Beauchamp, “The Devin Nunes/Trump/wiretapping controversy, explained”,  www.vox.com, Mar 23, 2017

    โดย สุนีย์ สถาพร