เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง เพราะเป็นช่องทางการค้าขายที่ถูกมองเป็นแนว “อินดี้” เป็นธุรกิจที่น่าสนใจในแบบคนรุ่นใหม่ แต่ก็เป็นช่องทางทำเงินล้านได้ง่าย ๆ (ถ้ามาถูกทาง) ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับธุรกิจค้าขายแบบธรรมดาทั่ว ๆไปและเป็นจุด “START” สำคัญในการปั้น SMEs ในอนาคต กับ “ฟู้ดทรัค” ที่วันนี้ THAIQUOTE จะมาแนะนำให้รู้จักกัน
ญาณเดช ศิรินุกูลชร ผู้ร่วมก่อตั้งฟู้ดทรัคคลับ (ประเทศไทย) เผยว่าปัจจุบันฟู้ดทรัคมีกระจายทั่วประเทศอยู่ที่หลักพัน ส่วนในกรุงเทพและปริมณฑลมีไม่ต่ำกว่า 1,000 คัน โดยผู้ประกอบการได้รับแรงจูงใจในธุรกิจฟู้ดทรัคไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ได้รับอิทธิพลมาจากอเมริกา ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของฟู้ดทรัคซึ่งในอเมริกาเติบโตมากว่า 10 ปีแล้ว จากนั้นก็ค่อย ๆเข้ามามีอิทธิพลในบ้านเรา
เป็นธุรกิจที่ลดความเสี่ยงและเพิ่มความคุ้มค่าในเงินทุน เพราะบางคนอยากมีธุรกิจร้านอาหารซักร้านเป็นเรื่องยาก อาจเจอทำเลไม่ดีหรือได้ทำเลดีก็มีค่าเช่าแพงทำให้เกิดความเสี่ยงสูง ซึ่งฟู้ดทรัคสามารถตอบโจทย์ Startup ได้ทั้งในเรื่องค่าเช่าและการตกแต่งพื้นที่ หากเช่าที่เปิดร้านก็อาจมีค่าประกันล่วงหน้าบวกค่าตกแต่งอีกหลายบาท แต่ถ้าทำเลไม่ดี ค่าเช่าค่าตกแต่งก็อาจต้องยกให้เจ้าของที่ไป แต่สำหรับฟู้ดทรัคงบการตกแต่งรถมีต้นทุนถูกกว่าและเมื่อเจอทำเลไม่ดีก็สามารถย้ายไปขายที่อื่นได้ สามารถหาลูกได้ได้ตามกลุ่มหรือตามช่วงเวลาที่ต้องการอยู่ที่การบริหารจัดการธุรกิจ ซึ่งฟู้ดทรัคมีโอกาสมากมายที่เพิ่มเข้ามา ลงทุนเบ็ดเสร็จ 5 แสนแต่ได้สินทรัพย์คือรถกลับมา
ประเภทอาหารที่เลือกขายอยู่ที่กลุ่มอายุของคนทำธุรกิจ ถ้าเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลมาจากอเมริกามักนิยมขายฟาสต์ฟู้ด ถัดมาก็จะเป็นกลุ่มคนวัยทำงานที่มีความรู้ในการประกอบอาหารที่โดดเด่นก็จะนิยมขายอาหารไทย เช่นก๋วยเตี๋ยวที่มีราคาต่อชามไม่แพง เน้นปริมาณในการขายซึ่งในขณะที่เบอร์เกอร์ จำนวนการขายอาจไม่เยอะแต่มีราคาสูง
ปัจจุบันสัดส่วนการลงทุนประเภทอาหารของฟู้ดทรัค เฉลี่ยเป็นอาหารคาว 70 % อาหารหวานและเครื่องดื่ม 30 % ทำเลที่ได้รับความนิยมคือที่ที่มีคนสัญจรผ่านไปมาจำนวนมาก เช่นตามแหล่ง Community Mal อนาคตคาดว่าธุรกิจฟู้ดทรัคจะมีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการกินอาหารนอกบ้านกลายเป็นวิถีชีวิตคนกรุงเทพไปแล้วและฟู้ดทรัคยังตอบโจทย์หลายอย่างทั้งด้านของผู้ประกอบการและผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเกิดมากกว่าอัตราการตาย (หมายถึงคนที่ล้มเลิกธุรกิจฟู้ดทรัคไปด้วยเหตุผลต่างๆ) เนื่องจากมีการซื้อรถฟู้ดทรัคใหม่ทุกวันและพื้นที่สำหรับการขายมีการขยายตัวเพิ่ม ที่สำคัญหน่วยงานรัฐฯหันมาเอาใจใส่ให้ธุรกิจนี้เกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทำให้กลไกของฟู้ดทรัคเติบโตไปอย่างมั่นคง “มีคนพร้อมทำ มีคนรอซื้อและมีพื้นที่ขาย มั่นใจว่าธุรกิจนี้เติบโตขึ้นอย่างแน่นอน”
ปัจจุบัน Food Truck Club-Thailand มีสมาชิกอย่างเป็นทางการทั้งสิ้น 346 คัน ส่วนที่รอดำเนินการก็มีอีกหลายสิบคัน เป็นองค์กรเครือข่ายรถธุรกิจ ฟู้ดทรัค แห่งแรกและใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างต้นแบบความสำเร็จของธุรกิจ ฟู้ดทรัค แล้วนำต้นแบบนั้นไปพัฒนาให้ผู้ประกอบการคนอื่นๆเพื่อขยายธุรกิจให้ไกลออกไป
เป็นอันว่าได้รู้จัก “ฟู้ดทรัค” กันไปแล้วในระดับหนึ่ง กระซิบเอาไว้แต่เกริ่นนำธุรกิจนี้ถ้าทำดี มีสิทธิจับเงินล้านได้ง่าย ๆ (ถ้าทำได้ดีทำได้ถูกทาง) ที่สำคัญ “ฟู๊ดทรัคสัญชาติไทย” ยังเป็นธุรกิจอนาคตไกลที่ต่อยอดไปในระดับภูมิภาคและในระดับสากลได้อีกด้วย
เพราะคนไทยทำอะไรไม่เคยแพ้ชาติใดในโลก ! สักวันอาจเห็นฟู๊ดทรัคแบบไทย ๆ ดังไกลไปในอาเซียน หรือ ลุ้นอาจถึงอเมริกายุโรปกันเลยทีเดียวก็เป็นได้
ญาณเดช ศิรินุกูลชร ผู้ร่วมก่อตั้งฟู้ดทรัคคลับ (ประเทศไทย) เผยว่าปัจจุบันฟู้ดทรัคมีกระจายทั่วประเทศอยู่ที่หลักพัน ส่วนในกรุงเทพและปริมณฑลมีไม่ต่ำกว่า 1,000 คัน โดยผู้ประกอบการได้รับแรงจูงใจในธุรกิจฟู้ดทรัคไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ได้รับอิทธิพลมาจากอเมริกา ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของฟู้ดทรัคซึ่งในอเมริกาเติบโตมากว่า 10 ปีแล้ว จากนั้นก็ค่อย ๆเข้ามามีอิทธิพลในบ้านเรา
เป็นธุรกิจที่ลดความเสี่ยงและเพิ่มความคุ้มค่าในเงินทุน เพราะบางคนอยากมีธุรกิจร้านอาหารซักร้านเป็นเรื่องยาก อาจเจอทำเลไม่ดีหรือได้ทำเลดีก็มีค่าเช่าแพงทำให้เกิดความเสี่ยงสูง ซึ่งฟู้ดทรัคสามารถตอบโจทย์ Startup ได้ทั้งในเรื่องค่าเช่าและการตกแต่งพื้นที่ หากเช่าที่เปิดร้านก็อาจมีค่าประกันล่วงหน้าบวกค่าตกแต่งอีกหลายบาท แต่ถ้าทำเลไม่ดี ค่าเช่าค่าตกแต่งก็อาจต้องยกให้เจ้าของที่ไป แต่สำหรับฟู้ดทรัคงบการตกแต่งรถมีต้นทุนถูกกว่าและเมื่อเจอทำเลไม่ดีก็สามารถย้ายไปขายที่อื่นได้ สามารถหาลูกได้ได้ตามกลุ่มหรือตามช่วงเวลาที่ต้องการอยู่ที่การบริหารจัดการธุรกิจ ซึ่งฟู้ดทรัคมีโอกาสมากมายที่เพิ่มเข้ามา ลงทุนเบ็ดเสร็จ 5 แสนแต่ได้สินทรัพย์คือรถกลับมา
ประเภทอาหารที่เลือกขายอยู่ที่กลุ่มอายุของคนทำธุรกิจ ถ้าเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลมาจากอเมริกามักนิยมขายฟาสต์ฟู้ด ถัดมาก็จะเป็นกลุ่มคนวัยทำงานที่มีความรู้ในการประกอบอาหารที่โดดเด่นก็จะนิยมขายอาหารไทย เช่นก๋วยเตี๋ยวที่มีราคาต่อชามไม่แพง เน้นปริมาณในการขายซึ่งในขณะที่เบอร์เกอร์ จำนวนการขายอาจไม่เยอะแต่มีราคาสูง
ปัจจุบันสัดส่วนการลงทุนประเภทอาหารของฟู้ดทรัค เฉลี่ยเป็นอาหารคาว 70 % อาหารหวานและเครื่องดื่ม 30 % ทำเลที่ได้รับความนิยมคือที่ที่มีคนสัญจรผ่านไปมาจำนวนมาก เช่นตามแหล่ง Community Mal อนาคตคาดว่าธุรกิจฟู้ดทรัคจะมีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการกินอาหารนอกบ้านกลายเป็นวิถีชีวิตคนกรุงเทพไปแล้วและฟู้ดทรัคยังตอบโจทย์หลายอย่างทั้งด้านของผู้ประกอบการและผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเกิดมากกว่าอัตราการตาย (หมายถึงคนที่ล้มเลิกธุรกิจฟู้ดทรัคไปด้วยเหตุผลต่างๆ) เนื่องจากมีการซื้อรถฟู้ดทรัคใหม่ทุกวันและพื้นที่สำหรับการขายมีการขยายตัวเพิ่ม ที่สำคัญหน่วยงานรัฐฯหันมาเอาใจใส่ให้ธุรกิจนี้เกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทำให้กลไกของฟู้ดทรัคเติบโตไปอย่างมั่นคง “มีคนพร้อมทำ มีคนรอซื้อและมีพื้นที่ขาย มั่นใจว่าธุรกิจนี้เติบโตขึ้นอย่างแน่นอน”
ปัจจุบัน Food Truck Club-Thailand มีสมาชิกอย่างเป็นทางการทั้งสิ้น 346 คัน ส่วนที่รอดำเนินการก็มีอีกหลายสิบคัน เป็นองค์กรเครือข่ายรถธุรกิจ ฟู้ดทรัค แห่งแรกและใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างต้นแบบความสำเร็จของธุรกิจ ฟู้ดทรัค แล้วนำต้นแบบนั้นไปพัฒนาให้ผู้ประกอบการคนอื่นๆเพื่อขยายธุรกิจให้ไกลออกไป
เป็นอันว่าได้รู้จัก “ฟู้ดทรัค” กันไปแล้วในระดับหนึ่ง กระซิบเอาไว้แต่เกริ่นนำธุรกิจนี้ถ้าทำดี มีสิทธิจับเงินล้านได้ง่าย ๆ (ถ้าทำได้ดีทำได้ถูกทาง) ที่สำคัญ “ฟู๊ดทรัคสัญชาติไทย” ยังเป็นธุรกิจอนาคตไกลที่ต่อยอดไปในระดับภูมิภาคและในระดับสากลได้อีกด้วย
เพราะคนไทยทำอะไรไม่เคยแพ้ชาติใดในโลก ! สักวันอาจเห็นฟู๊ดทรัคแบบไทย ๆ ดังไกลไปในอาเซียน หรือ ลุ้นอาจถึงอเมริกายุโรปกันเลยทีเดียวก็เป็นได้
