อวิชชาว่าด้วยพฤติกรรม “แต-หลอ..ตอแหล” ระหว่างนักบวชกับฆราวาสกำลังแพร่ระบาดอย่างหนักแถว ๆวัดพระธรรมกาย
นักบวชตอแหลหรือฆราวาสกันแน่ที่ตลบตะแลง ยังลำบากใจที่จะลงความเห็นแบบฟันธง แต่ที่แน่ ๆ ในช่วงหลายวันที่วัดพระธรรมกายและอาณาบริเวณโดยรอบถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุม มีหลายสิ่งหลายอย่างที่นักบวชอวดสำแดงพฤติกรรมออกมา ดูมันย้อนแย้งกับวัตรปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งที่ประกาศปวารณาตัวเป็นพระสงฆ์สาวกของพระพุทธองค์
นักบวชที่ดีพึงเจริญสติภาวนาตามครรลองแห่ง “ปริยัติ – ปฏิบัติ” เปิดประตูสู่ “ปฏิเวธ”และก้าวไปสู่การหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง…หลุดพ้นจากลาภ – สักการะ – สรรเสริญ…หลุดพ้นจากรัก – โลภ – โกรธ –หลงอย่างเด็ดขาดและสิ้นเชิง
น่าสังเกตว่าเหล่านักบวชแห่งสำนักวัดธรรมกาย ดูจะมิได้บำเพ็ญเพียรเพื่อการหลุดพ้นตามครรลองธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ยังมีความมุ่งมั่นที่จะยึดมั่นถือมั่นอยู่ในลาภ – สักการะ – สรรเสริญ และรัก – โลภ – โกรธหลงอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจที่จะปล่อยวางลงง่าย ๆ
ยิ่งไปกว่านั้นนักบวชของสำนักนี้จำนวนหนึ่ง ยังมีพฤติกรรม “ทำหินแตก – แยกแผ่นดิน” อย่างน่าหวาดเสียวยิ่งนัก
ไม่กี่วันก่อนเกิดเหตุการณ์สูญเสียอย่างน่าเศร้าใจในพื้นที่วัดพระธรรมกาย และถูกนักบวชบางคนของสำนักนี้ใช้ทักษะ“ปั้นศพ”ให้เป็นเรื่องด้วยการป้ายสีว่าถูกเจ้าหน้าที่สกัดกั้นการนำผู้ป่วยไปรับการรักษายังสถานพยาบาลเป็นเหตุให้เกิดการเสียชีวิตขึ้น เพื่อยัดเยียดความเกลียดชังแก่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทั้งที่มีการยืนยันความจริงในเวลาต่อมาด้วยผลการชันสูตของแพทย์นิติเวชซึ่งระบุผู้ตายเสียชีวิตแล้วหลายชั่วโมงก่อนที่จะแจ้งรถพยาบาลฉุกเฉิน
นักบวชบางส่วนของสำนักนี้ยังพยายาม “ปลุกเสกศพ” ด้วยความเชี่ยวชาญการปั้นน้ำเป็นตัว โดยพยายามสร้างนิยายกล่าวหาเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษคือตัวการทำให้เกิดการตายขึ้น เพื่อหวังจะปลุกระดมมวลหมู่มหาชนให้ก่อกระแสกดดันเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษให้ถอนตัวจากการปิดล้อมวัด แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เป็นผล
เลวทรามต่ำช้าแสนสาหัสยิ่งขึ้นไปอีกถึงขั้นใช้อวิชชามุสาป้ายสีว่า มีพี่น้องมุสลิมที่อยู่ในสภานิติบัญญัติแห่งชาติร่วมมือกับที่อยู่ในรัฐบาลจงใจยุงยงปลุกปั่นให้ทำลายวัดพระธรรมกาย เพื่อหวังจะล้มล้างพระพุทธศาสนาให้สิ้นสูญไปจากประเทศไทย แล้วสถาปนาศาสนาอิสลามขึ้นแทนที่
หากคำมุสาของนักบวชบางพวกบางคนในสังกัดวัดนี้ ที่จงใจมุ่งร้ายให้พี่น้องชาวพุทธกับพี่น้องมุสลิมเกิดการกินแหนงแคลงใจกัน เกิดเป็นผลตามเจตนาชั่วร้ายจะสร้างความยับเยินแก่ประเทศชาติอย่างใหญ่หลวงน่าสยดสยอง
น่าดีใจที่บ้านเมืองนี้ศักดิ์สิทธิ์และคนไทยหลากศาสนิกยังมีสติสัมปัญชัญญะรู้เท่าทัน ถ้อยคำอวิชชามุสาวาจาของนักบวชอุบาทว์เหล่านี้ ความพยายามตำรั่วมั่วระยำจึงไม่สมอารมณ์หมาย !!!
