แก้ธรรมกายอยู่ที่คณะสงฆ์ ไม่ใช่ ม.44

แก้ธรรมกายอยู่ที่คณะสงฆ์ ไม่ใช่ ม.44


การใช้คำสั่งหัวหน้าคสช.มาตรา 44 กรณีวัดพระธรรมกาย ต้องพิจารณาอย่างตรงไปตรงมาก่อนว่าเป็นประเด็นปลายเหตุถ้าย้อนความกลับไป เหตุนั้นสืบเนื่องจากเจ้าพนักงานไม่สามารถเข้าไปตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกายและบริเวณโดยรอบที่ครอบครองในนามมูลนิธิบ้าง ส่วนบุคคลบ้าง ทั้ง ๆที่เจ้าพนักงานทั้งตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ มีหมายค้นของศาลสถิตยุติธรรมถูกต้องทุกประการ

ย้อนความกลับขึ้นไปอีกเหตุของการขัดขวางเจ้าพนักงานก็ชัดเจนว่า เพื่อปกป้องท่านเจ้าคุณพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งถูกหมายจับคดีฉ้อโกงและร่วมกันฟอกเงินจากการทุจริตยักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น และพ่วงคดีอื่น ๆที่ตำรวจเป็นผู้ตั้งข้อหาภายหลังเข้าไปอีกด้วย

ถามว่าอะไรเป็นต้นเหตุที่เหล่าสงฆ์และศิษยานุศิษย์ของวัดพระธรรมกาย จึงดึงดันหัวเด็ดตีนขาดไม่ยอมให้เจ้าพนักงานเข้าตรวจค้นจับกุมพระธัมมชโย ตอบแบบฟันธงก็เพราะตระหนักในความจริงว่าวัดพระธรรมกายคือพระธัมมชโยและพระธัมมชโยก็คือวัดพระธรรมกายนั่นเอง จะจริงหรือไม่อาจจะเป็นคำถามของผู้อยู่วงนอก แต่ผู้อยู่วงในอย่างเหล่าสงฆ์และศิษยานุศิษย์ของวัดพระธรรมกายเชื่อกันเช่นนั้นแน่นอน

และที่สำคัญเหนืออื่นใดเข้าใจได้ว่าตัวพระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนี ก็น่าจะเชื่อเช่นนั้นด้วย มิฉะนั้นพระเดชพระคุณท่านก็คงจะมอบตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไปตั้งนานแล้ว คงไม่ปล่อยให้เรื่องราวยืดเยื้อยาวนานจนนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าคสช.ต้องใช้อำนาจตามมาตรา 44 เข้าจัดการจนกลายเป็นเหตุการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกกันเช่นขณะนี้

ดังนั้นถ้าจะแก้ปัญหากรณีพระธัมมชโยแห่งวัดพระธรรมกาย จะไปแก้ที่ปลายเหตุด้วยการเรียกร้องให้เลิกมาตรา 44 หรือ ยกเลิกการปิดล้อมตรวจค้นวัดพระธรรมกาย หรือเขยิบขึ้นมากลางเหตุคือให้สงฆ์และฆราวาสไม่เคลื่อนไหวเป็นโล่ห์มนุษย์ปกป้องพระธัมมชโยก็คงจะแก้ไม่ได้ เพราะต่างฝ่ายต่างคงไม่ยอม

จะแก้ได้ก็ต้องแก้ที่ต้นเหตุ ทำอย่างไรให้วัดพระธรรมกายก็คือวัดพระธรรมกาย ส่วนพระธัมมชโยก็คือพระธัมมชโย มีสมณศักดิ์ที่พระเทพญาณมหามุนี เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายและต้องคดียักยอกและร่วมกันฟอกเงินของสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ซึ่งไม่ใช่คดีความทางโลกครั้งแรกที่ท่านถูกกล่าวหา หากแต่เคยมีคดีอื่น ๆมาก่อนแล้วเพียงแต่จบลงโดยอัยการสั่งไม่ฟ้อง แต่คดีล่าสุดนี้อัยการมีคำสั่งส่งฟ้องไปแล้วเรียบร้อย

ถามว่าจะทำได้โดยใครและอย่างไร ตอบว่าโดยผู้ปกครองคณะสงฆ์และด้วยกระบวนการที่มีกำหนดไว้ชัดเจนแล้ว เพียงแต่จะปฏิบัติกันจริงจังหรือไม่เท่านั้นเอง

เรื่องของพระธัมมชโย คงไม่สามารถจบลงได้ด้วยอำนาจในทางโลก เพราะได้เรียนตั้งแต่ต้นแล้วว่าเป็นเรื่องปลายเหตุ ถ้าจะให้จบได้ก็จะอยู่ที่การตัดสินใจของผู้ปกครองสงฆ์เนื่องจากจะเป็นการแก้ที่ต้นเหตุอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ดีที่กล่าวมาตั้งแต่ต้นนี้เป็นการพิเคราะห์ตามหลักของเหตุและผล ส่วนในทางปฏิบัติคงต้องยอมรับว่าการจะดำเนินการใด ๆต่อพระธัมมชโยโดยผู้ปกครองสงฆ์ไทย แม้ในปัจจุบันก็ยังเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก เนื่องจากเครือข่ายของวัดพระธรรมกายที่พระธัมมชโยและสาวกของท่านสร้างขึ้นมานั้นมีอำนาจและบารมีสูงยิ่ง เรียกว่ามากและสูงแค่ไหนอย่างไรคงต้องบรรยายกันยืดยาวอีกมาก

แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่าชนชั้นนำทั้งทางโลกและทางธรรมของบ้านเรานั้น ท่านมีสติปัญญาสามารถไตร่ตรองได้ว่าการยอมสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต เป็นหลักการสำคัญที่ควรน้อมนำมาใช้เมื่อถึงยามวิกฤติและจะเป็นทางออกที่สมควรแก่เหตุทุกประการ

   โดย ไพศาล มังกรไชยา