ชั่ววูบเดียวนับจากวันที่ 20 มกราคม เป็นต้นมา เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ภาพลักษณ์ประเทศสหรัฐอเมริกาในสายตาประชาคมโลก รวมทั้งชาวอเมริกันจำนวนมาก กลายเป็นภัยคุกคามเปี่ยมอันตรายร้ายกาจต่อโลกไปเรียบร้อย
ปฏิบัติการแรกที่ทรัมป์ ลงมือบันดาลภาพลักษณ์ความน่าเกลียดน่ากลัวแก่สหรัฐอเมริกาในสายตาชาวอเมริกันและชาวโลก คือการสั่งยกเลิกระบบสวัสดิการด้านสุขภาพชาวอเมริกันในยุคบารัค โอบามา ซึ่งรู้จักกันดีภายใต้ชื่อ”โอบามาแคร์”
ในเวลาไล่เลี่ยกันก็สั่งถอนตัวออกจากความเป็นพันธมิตรในภาคี Trans Pacific Partnership หรือ TPP ซึ่งริเริ่มโดยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งพรรคเดโมแครท ต่อเนื่องด้วยคำสั่งสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก ความยาว 3,200 กิโลเมตร ตามติดด้วยคำสั่งปลุกผีโครงการท่อส่งน้ำมันคีย์สโตนเอ็กซ์แอล และดาโกต้าแอกเซสส์ ที่ถูกโอบามา สั่งระงับไปให้กลับฟื้นคืนชีพ โดยไม่ยี่หระต่อประเด็นผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และไม่เห็นหัวชาวบ้าน ตลอดจนชุมชนที่ถูกกระทบจากการดำเนินโครงการ
ถัดมาไม่กี่วันก็ออกคำสั่งห้ามพลเมือง 7 ชาติในตะวันออกกลาง และอัฟริกา เข้าสหรัฐอเมริกา ซึ่งประกอบไปด้วยอิรัก อิหร่าน ซีเรีย ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน และเยเมน
ยิ่งไปกว่านั้น ทรัมป์ ยังตอกลิ่มสร้างความเกลียดชังให้แผ่ซ่านไปทั่วยุโรป ด้วยการดูหมิ่นเหยียดหยามองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติคเหนือ (North Atlantic Treaty Organization-NATO)ที่มีอายุการก่อตั้งยาวนานถึง 67 ปีว่าเป็นองค์กร”ตกยุค-หมดสภาพ” อีกทั้งยังแสดงจุดยืนชัดเจนในการถอนประเทศสหรัฐอเมริกาออกจากเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (North America Free Trade Area-NAFTA) ที่ริเริ่มดำเนินการในยุคสมัยประธานาธิบดีบิล คลินตัน แห่งเดโมแครท ราวกับจ้องจองล้างจองผลาญทำลายผลงานที่เกิดขึ้นในยุครัฐบาลพรรคเดโมแครทให้สิ้นซาก เพื่อเปิดทางสะดวกแก่การสถาปนา”ลัทธิทรัมป์”
สารพันการกระทำของทรัมป์ ในช่วงเวลาอันแสนสั้น ในฐานะประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ได้เป็นชนวนสร้างความปั่นป่วน และปฏิกิริยาต่อต้านสหรัฐอเมริกาให้แพร่ระบาดไปทั่วทั้งในสหรัฐอเมริกาและนานาชาติ
เหล่านักการเมือง..นักธุรกิจ..นักลงทุน..นักกฎหมาย ที่เห็นต่างและคัดค้านการกระทำของทรัมป์ มีการรวมตัวกันตั้งข้อสงสัยต่อการใช้อำนาจของทรัมป์ในการออกคำสั่งที่เรียกว่า “Executive Order”ว่าอาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ หรือละเมิดบทบัญญัติของกฎหมายหลายฉบับ รวมทั้งยังมีลักษณะเป็นการกระทำที่ย่ำยีต่อสิ่งที่เรียกกันว่า “Core American Value” ซึ่งถือเป็นคุณค่าที่ชาวอเมริกันรักและภาคภูมิใจ
อารมณ์ความรู้สึกเกลียดชังร่วมของชาวอเมริกันและชาวโลกที่มีต่อการกระทำของทรัมป์ มีความโน้มเอียงสูงยิ่งที่จะสร้างแรงกดดันต่อตัวทรัมป์ ตลอดจนคณะรัฐบาล และมีแนวโน้มสูงยิ่งที่ทรัมป์ จะต้องถูกขับออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ ทำนองเดียวกับที่เขาทำกับคนมาแล้วนักต่อนักในรายการเรียลริตี้โชว์”กลเกมธุรกิจ-The Apprentice” ตามที่ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบล นาม”พอล ครุกแมน”ได้พยากรณ์เอาไว้ล่วงหน้า…..
โดย : ศักดิ์ชัย พฤฒิภัค