ทั้งนี้ในระหว่างวันที่ 18 – 25 ก.ย. 2559 ตนจะต้องเดินทางเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยวิสามัญ ครั้งที่ 71 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีวาระการประชุมที่มีความสำคัญต่อบทบาทของไทยในเวทีโลก อาทิเช่น 1. การประชุมสุดยอดผู้นำด้านผู้ลี้ภัย ซึ่งเป็นเวทีที่ประเทศไทยจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ กว่า 40 ปีกับผู้นำจากประเทศต่าง ๆ 34 ประเทศที่ได้รับเชิญในด้านการบริหารจัดการและการรับมือกับการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานที่ไม่ปกติ
ขณะที่ประเทศไทยในฐานะที่เป็นประเทศ “กลางทาง” ที่ผ่านมานั้นรัฐบาลได้ดำเนินการตามหลักมนุษยชนสากลมาโดยตลอด และเป็นโอกาสอันดีที่จะขอความร่วมมือทั้งจากประเทศ “ต้นทาง” และ “ปลายทาง” ในการที่จะแสดงความรับผิดชอบร่วมกัน เพื่อจะแก้ปัญหาดังกล่าวใน 3 ประเด็นหลัก ก็คือ 1.เงินทุนช่วยเหลือผู้ลี้ภัย 2.การตั้งถิ่นฐานใหม่ของผู้ลี้ภัยในประเทศ “ปลายทาง” และ 3.การส่งเสริมการศึกษาและการทำงานอย่างถูกกฎหมาย ในประเทศ “กลางทาง
สำหรับอีกวาระของการประชุมก็คือการประชุมระดับสูงเรื่องการดื้อยาต้านจุลชีพ ทั้งนี้ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นผู้ประสานท่าทีกลุ่มประเทศ G77 ซึ่งที่ผ่านมาได้แสดงบทบาทนำในการแก้ไขปัญหา ได้มีการผลักดันประเด็นนี้ ให้มีการพูดคุยในเวที ASEAN ได้สำเร็จ เพื่อเป็นการพัฒนาด้านสาธารณสุขของประชาชนอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม อาทิเช่น การรณรงค์ลดการใช้ยาปฏิชีวนะในประเทศ และสนับสนุนการใช้ยา อย่างสมเหตุสมผล
เรื่องต่อไปคือการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยวิสามัญครั้งที่ 71 ซึ่งในเวทีนี้เป็นอีกเวทีระดับโลก ที่ให้ความสำคัญความสนใจเกี่ยวกับ “การพัฒนาที่ยั่งยืน” มีผู้นำและประมุขของประเทศเข้าร่วมการประชุม กว่า 190 คน ในโอกาสนี้รัฐบาลไทยจะได้น้อมนำ “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้เป็นทางเลือกหนึ่งของการพัฒนาที่ยั่งยืน ร่วมกันของมนุษยชาติ
ที่ผ่านมาในการประชุมกลุ่มประเทศ G77 มีกว่าเกือบ 20 ประเทศที่แสดงความสนใจอย่างเปิดเผย และขอแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และองค์ความรู้ ในหลักการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยขอเข้ามาศึกษาแนวทางในการดำเนินงานใน “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ”
ขณะที่วาระการประชุมต่อไปคือการประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่มประเทศ G77 ซึ่งไทยในฐานะประธานกลุ่มในปีนี้ ได้เสนอให้มีวาระการอภิปรายในหัวข้อ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนา SDG 2030 ขององค์การสหประชาชาติ (UN) โดยในครั้งนี้ นอกจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแล้ว ยังจะพูดคุยถึงการทดลองปฏิบัติจริง เพื่อนำไปสู่ผลการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น
อย่างไรก็ตามสำหรับผลการประชุม ตนจะได้นำมาชี้แจงให้พี่น้องประชาชน และทุกภาคส่วนได้รับทราบ รับรู้ และทำความเข้าใจ ให้เกิดความร่วมมือต่อไป