ควันหลงประชุมหอการค้า 5 ภาค ฟังเสียงสะท้อนศก.ไทย

ควันหลงประชุมหอการค้า 5 ภาค ฟังเสียงสะท้อนศก.ไทย


หัสนัย แก้วกุล
ประธานหอการค้าจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนในพะเยายังอยู่ในภาวะทรงตัว นักลงทุนส่วนใหญ่ต่างประคองธุรกิจที่ทำอยู่มากกว่าขยายการลงทุน
มีการลงทุนใหม่ ๆเกิดขึ้นเหมือนกัน แต่เป็นโครงการขนาดย่อม เช่นการสร้างหอพัก
ร้านอาหาร โดยส่วนตัวมองว่ารัฐบาลได้พยายามอย่างเต็มที่ในการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบแต่คงต้องใช้เวลาอีกระยะจึงเห็นผล
อย่างไรก็ตามการเดินทางไปโรดโชว์เพื่อดึงทุนนอกเข้ามาเป็นการกระทำที่ถูกต้อง
ถ้าต่างชาติมาลงทุนกันมาก ๆ เม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศก็จะดีขึ้น

เช่นเดียวกับ ธีระศักดิ์
ศุภพิทักษ์ไพบูลย์ ประธานหอการค้าจังหวัดเลย กล่าวว่า หลังจบการประชุมใหญ่หอการค้าภาค
5 ภาค กลุ่มหอการค้าจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ได้คุยกันว่าเราต้องดึงเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวเข้ามาให้มากขึ้น
จากเดิมต่างคนต่างทำก็ต้องทำร่วมกันเป็นเครือข่ายเพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน
ที่ไม่นิยมเดินทางมาภาคอีสานอยากเดินทางมาท่องเที่ยว เช่นจัดกิจกรรมเที่ยว – กินริมโขง
(เลย-หนองคาย-หนองบัวลำภู) ในขณะที่ภาคการค้าชายแดนหอการค้าก็จัดอบรมอีคอมเมิร์ซ
เพื่อให้ผู้ประกอบการลงทุนในระบบดังกล่าวเพิ่มมูลค่าการค้าในอนาคต

กิตติ กิตติชนม์ธวัช ประธานหอการค้าจังหวัดชุมพร
กล่าวว่านักลงทุนยังพร้อมเข้ามาลงทุนในจังหวัดชุมพร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป
รอแค่โครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน อาทิถนน 4 เลนชุมพร-ระนอง
ซึ่งกำหนดเสร็จภายในปีนี้ โครงการท่าเรือชุมพรและโครงการรถไฟรางคู่
ซึ่งกำลังรองบประมาณจากภาครัฐ ถ้าโครงการเหล่านี้เสร็จเชื่อว่าการลงทุนจะเกิดขึ้นอีกมาก

ด้าน วัฒนา รัตนวงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา
กล่าวว่า การประชุมใหญ่หอการค้าภาค 5 ภาคมี 2 โครงการที่เห็นเป็นรูปธรรมแล้ว คือการจัดตั้งบริษัทประชารัฐจังหวัดเพื่อเข้ามาช่วยเหลือธุรกิจในชุมชน
และการสนับสนุนการทำนาแปลงใหญ่ โดยเฉพาะการทำนาแปลงใหญ่ช่วยลดต้นทุนให้กับชาวนาอย่างได้ผล
อย่างไรก็ตามอยากให้รัฐบาลมีแผนสำรองในการช่วยเหลือข้าวนาปีที่กำลังจะออกมาในช่วงปลายปี
เพราะครอบครัวชาวนา 3.8 ล้านครอบครัว เฉลี่ยครอบครัวละ 5 คน รวมเกือบ 20 ล้านคน
ถ้าคนกลุ่มนี้เดือดร้อนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจก็ทำได้ลำบาก

สมเกียรติ อนุราษฎร์
รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของหอการค้าไทย
พบว่าหอการค้าภาคมีความเชื่อมั่นโดยรวมอยู่ที่ระดับ
54.4 ขณะที่ความเชื่อมั่นในอนาคตมีการปรับตัวดีขึ้นที่ระดับ 86.1 แสดงให้เห็นว่านักธุรกิจมีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นกว่าในปัจจุบัน
โดยมีการคาดการณ์เศรษฐกิจในภาคตะวันออกขยายตัวได้ร้อยละ
4.4 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือขยายตัวร้อยละ
3.4 ภาคกลางขยายตัวร้อยละ 2.4 ภาคเหนือขยายตัวร้อยละ
2.8 และภาคใต้ขยายตัวร้อยละ 2.3 อย่างไรก็ตาม
ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในปัจจุบันยังอยู่ที่ระดับ
22.8 ซึ่งยังต่ำกว่าระดับ 50