“นายกฯ”ใช้สารพัด App ช่องทางสื่อสารประชาชน

“นายกฯ”ใช้สารพัด App ช่องทางสื่อสารประชาชน


สำหรับเรื่องที่น่ายินดีคือ ดีใจกับ “น้องเมย์
รัชนก อินทนนท์ ที่สามารถคว้าแชมป์แบดมินตันหญิงเดี่ยวโลก สหพันธ์แบดมินตันโลก  หลังคว้า 3 แชมป์ติดต่อกัน
สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ได้เตือนให้รักษาสุขภาพ หาเวลาพักผ่อน
ฝึกปรือฝีมือต่อไป และขอให้เขาทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะชนะหรือแพ้ยังไงคนไทยก็เป็นกำลังใจเสมอ
 และขอให้กำลังใจในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
ณ กรุงรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิลในเดือน ส.ค.นี้  รวมทั้งการรักษาแชมป์ในเดือนเม.ย.นี้ ทำให้ดีที่สุด
คนไทยขอเป็นกำลังใจให้เสมอ 

          
                 เรื่องต่อมาเป็นเรื่องการพัฒนาระบบการสื่อสารระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน
โดยได้มีการตั้ง “ศูนย์ดำรงธรรม
  เปิดให้ประชาชนสามารถร้องเรียน แจ้งเบาะแส
สายด่วน  1567  ตลอด 24 ชั่วโมง  โดยมีสถิติการใช้บริการทั่วประเทศตั้งแต่  ก.ค.2557 ถึง 2559  จำนวน 2 ล้าน 6 แสน  ดำเนินการไปแล้วเสร็จร้อยละ 97  ถือว่าประสบความสำเร็จ
ประชาชนมีความพึงพอใจ 
สำหรับปัญหาที่ร้องเรียนเข้ามา ได้แก่ เรื่อง ข้อกฎหมาย ที่ดิน
และการออกเอกสารสิทธิ์

              การตั้งศูนย์ One
Stop Services (OSS)  เพื่อให้บริการเรื่องธุรกิจการลงทุน, ข้อมูลเขตเศรษฐกิจพิเศษ     นอกจากนี้รัฐบาลยังได้พัฒนา  Application ต่างๆ
รวมทั้งการสื่อสารระบบอิเล็กทรอนิกส์ 
ได้แก่ การพัฒนา
Application 
SPOND  เพื่อรับแจ้งเบะแสต่างๆ
ซึ่งสามารถดาวโหลดบน
App Store และระบบ Android  การพัฒนา e-Government   เปิดให้บริการ Gov
Channel เพื่อเป็นศูนย์กลางในการบริการภาครัฐสำหรับประชาชน  การเปิดตัวศูนย์กลางแอปพลิเคชั่นภาครัฐ “GAC
: Government Application Center”  และการเปิดตัวระบบแจ้งข้อมูลข่าวสารภาครัฐ G-News  ที่จะเน้นการให้ข้อมูลเรื่องระบบภาษี
 การเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐ  เพื่อให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ

        
    การพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์
หรือ
Gov Channel  ล่าสุดรัฐบาลได้เปิด ให้บริการตู้  Government Kiosk  ซึ่งได้ตั้งเป้าให้บริการ  60 กว่าล้านคนทั่วประเทศ การให้บริการ G-Chat 
ช่องทางติดต่อสื่อสารสำหรับหน่วยงานภาครัฐ ระหว่างกันที
รวมทั้งการสื่อสารผ่าน
Line App  การประชุมทางไกลที่สามารถใช้ Video call  ได้ด้วย

              สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยสู่
“ประเทศไทย 4.0” 
จากการนำเสนอของคณะกรรมการสานพลังประชารัฐ  12 คณะ 
ในช่วงยุค
Thailand  1.0  ประเทศไทยมีการพัฒนาสังคมเกษตรกรรม   ยุค Thailand
2.0  การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมเขา
 
Thailand  3.0 การพัฒนาอุตสาหกรรมหนัก และ

Thailand 4.0 
การพัฒนาประเทศให้หลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลางอย่างแท้

        
    โดยการพัฒนารูปแบบการลงทุน
โครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยใหม่ ที่เรียกว่า 
New Economy Model   นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
มาพัฒนาประเทศ  สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
20 ปี 
ซึ่งมีเรื่องแผนการขับเคลื่อนและการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ โดยใช้แนวทาง
“ประชารัฐ”  ทุกมิติ ทั้งภาคธุรกิจ เกษตรกร
หรืออาชีพอิสระ

       
     การส่งเสริมการลงทุน 10
กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ 5 กลุ่มอุตสาหกรรมเดิมพัฒนาเทคโนโลยีใหม่  และ 5 กลุ่มอุตสาหกรรมอนาคต   เช่น เรื่องของหุ่นยนต์   และเรื่องการพัฒนารถอนาคต ปัจจุบันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์
ผลิตเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน 
ซึ่งได้มีการพูดคุยกับนักลงทุนต่างชาติยินดีที่จะขยายการลงทุน ในเรื่องรถพลังงานไฟฟ้า
ไบโอดีเซล  โดยประเทศไทยจะมีการแก้ไขกฎหมายภาษี
สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน เพื่อให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในบ้านเรา   รวมทั้งการส่งเสริมการจัดตั้ง
“Rubber City” 
 เพื่อเป็นโรงงานพัฒนาผลผลิตทางการเกษตร
 อาทิ ข้าว ยาง ปาล์ม อ้อย ที่สามารถต่อยอดพัฒนาผลิตเป็นไบโอดีเซล
B16  B20 ได้หรือไม่  รวมทั้งข้าวคุณภาพ
ข้าวอินทรี สามารถต่อยอดเป็นอาหารเสริมเพิ่มมูลค่าได้หรือไม่

              สำหรับการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ กระทรวงท่องเที่ยวฯได้ดำเนินการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงพื้นที่ใน
5  เขต 
5 คลัสเตอร์  ล่าสุดได้มอบหมายให้กระทรวงท่องเที่ยวฯ
พิจารณาในการสร้างแพ็กเกจการท่องเที่ยว  “เที่ยวไทย เที่ยวอาเซียน” 
เชื่อมการท่องเที่ยวไทยสู่ประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเป็นการเปิดประตูสู่การท่องเที่ยว   ก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยร่วมกับ
ประเทศทางลาตินอเมริกา ตะวันตก และตะวันออก
ในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว

              ในปี 2558 องค์การท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ
เปิดเผยสถิติตัวเลขนักท่องเที่ยวในไทย ปี 2558 มีจำนวน 30 ล้านคน เพิ่มขึ้น
20%   เป็นอันดับที่ 11 ของโลก  รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
เพิ่มขึ้นจำนวน 1.57 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% เป็นอันดับที่ 6 ของโลก ซึ่งติด 1
ใน 10 ของโลก  และสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก
ระบุว่าในปี 2558 ไทยขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ของโลก จากอันดับ 10 ในปี 2557  ประเทศไทยเน้นการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวท้องถิ่น 
ทั้งนี้รัฐบาลจะเร่งจัดสรรงบประมาณเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่น

              ขณะที่เรื่องการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ขณะนี้ได้เร่งการทำฝนเทียม
537 เที่ยวบิน เพื่อช่วยเหลือจังหวัดประสบปัญหาภัยแล้ง  ซึ่งจะมีฝนตกประมาณร้อยละ
77 ของจำนวนเที่ยวบิน ซึ่งต่อไปทุกคนจะต้องช่วยกันดูแลเรื่องป่าไม่
ไม่ใช่เรื่องของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ เท่านั้น แต่เป็นเรื่องของทุนคน

        
    เรื่องสุดท้ายคือเรื่องของประชาธิปไตย
ที่หลายคนมักพูดว่า
ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง ประเทศไทยฝืนประชาธิปไตยโลกไม่ได้  ดังนั้นการทำงานตรงนี้ไม่ได้ต้องการสร้างปัญหาให้กับประเทศ
แต่รัฐบาลต้องการแก้ไขปัญหาของประเทศ สร้างการเมืองที่สุจริต
มีธรรมาภิบาลในการบริหารประเทศ และขอให้เคารพกฎหมาย
โดยขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือในการร่วมลงประชามติรัฐธรรมนูญ  ซึ่งในระยะ 5 ปีนี้ รัฐบาลตั้งใจจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นมาก
ถ้าทุกคนร่วมมือ รัฐบาลก็หวังให้มีการเลือกตั้ง 
สำหรับเนื้อแท้ของประชาธิปไตยมีอะไรบ้างนั้น ได้แก่ 1.
การเคารพเหตุผลของคนอื่น รับฟังเหตุผลของกันและกัน มากว่าบุคคล  2. การรู้จักประนีประนอม  สร้างสันติภาพ  ในการแก้ไขปัญหาทุกวันนี้ ไม่ใช่ปัญหาของผม
แต่เพื่อลูกหลานของเราในอนาคตนั้นคือเรื่องที่สำคัญอย่างมาก