สำหรับประเด็นสำคัญอื่น ๆ ที่น่าสนใจคือเรื่องของการดำเนินงานโครงการต่างๆในรูปแบบประชารัฐ
การติดตามการดำเนินงานนโยบายของรัฐบาลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ติดตามความคืบหน้าในเรื่องการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย
การกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็ก และการรับฟังข้อเสนอของภาคเอกชน รวมทั้งการร่วมประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง
– ล้านช้าง ครั้งที่ 1 และการประชุมฟอรั่ม เอเชีย โป๋วอ๋าว
ระหว่างวันที่ 22 – 24 มีนาคม ณ.สาธารณรัฐประชาชนจีน
ในส่วนของประเด็นที่สำคัญคือเรื่องคือ
การกำหนดมาตรการกระตุ้นราคายางพาราในประเทศ ซึ่งในเบื้องต้นเป็นการรับซื้อยางในตลาด
จัดโครงการจับคู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ยาง การส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางและยางพาราธรรมชาติ
และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยหันมาแปรรูปยางพาราให้มีมูลค่าสูงขึ้น
ทั้งนี้นอกจากมาตรการในเบื้องต้นแล้ว
ยังต้องหาแนวทางแก้ปัญหาราคายางในประเทศอย่างยั่งยืน ซึ่งตนถือว่าผลการดำเนินงานในปัจจุบันมีความก้าวหน้าในระดับที่น่าพอใจ
เพื่อการพัฒนาไปสู่การผลิตและสร้างนวัตกรรมให้มีมูลค่าสูงขึ้นใช้ในประเทศให้มากขึ้น
ขณะนี้ก็มีการเตรียมการในเรื่องของ “รับเบอร์ซิตี้”
“วันนี้ที่น่าพอใจ ผมเห็นราคาและจำนวนที่มียอดสั่งซื้อและมูลค่าการซื้อขายเป็นจำนวนมากขึ้นจากผู้ซื้อต่างประเทศกว่า
40 ประเทศ มีคำสั่งซื้อสินค้ายางและผลิตภัณฑ์รวมมูลค่ามากกว่า 5 หมื่นล้านบาท
นี่คือสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มปริมาณการใช้ยางภายในประเทศ
ทั้งยางแท่ง –ยางแผ่นรมควัน–น้ำยางข้น รวมเกือบ 8 แสนตัน นอกจากนี้ ยังมียอดสั่งซื้อไม้ยางพารา กว่า 2
หมื่นตู้คอนเทนเนอร์”
ล่าสุดมีประเทศให้ความสนใจเพิ่มเติม
ทั้งจากกลุ่มประเทศอาเซียน จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป สหรัฐฯ
ตะวันออกกลาง และแอฟริกา มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ซื้อขายยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง จำนวน 8 ฉบับ
มูลค่า กว่า 17,500 ล้านบาท และ MOU การซื้อขายผลิตภัณฑ์ยางและยางพาราธรรมชาติอื่นๆ
อีก ที่มีกำหนดส่งมอบภายใน 1 ปี มีมูลค่า 2,160 ล้านบาท เหล่านี้เป็นผลจากการที่รัฐบาลได้จัดคณะรัฐมนตรีไปเจรจาค้าขายในผลิตผลการเกษตรทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม
ต่อไปจะส่งเสริมให้กระทรวงต่าง ๆใช้ยางพาราในประเทศในโครงการก่อสร้างต่างๆ โดยกำหนดเป็นทีโออาร์
กำหนดพื้นที่ในการก่อสร้าง การใช้ยางปูพื้น และการใช้ยางเป็นส่วนผสมในพื้นสนามกีฬาแม้กระทั่งใช้เป็นยางรถยนต์สำหรับยานยนต์ทางทหาร
ซึ่งต้องกำชับให้กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงเกษตรฯ บีโอไอ
ต้องเร่งดำเนินการ โดยเป็นไปในรูปแบบความร่วมมือประชารัฐ