เปิดโผ! นอมินีต่างชาติบล็อกเมืองหลักทำธุรกิจ

เปิดโผ! นอมินีต่างชาติบล็อกเมืองหลักทำธุรกิจ


10 ธุรกิจยอดฮิตใช้นอมินีถือหุ้นแทน

                สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบการถือหุ้นแทนคนต่างด้าว
(นอมินี) ตามแผนการทำงานในปีงบประมาณ
2559 ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
กระทรวงพาณิชย์และพันธมิตร 3 หน่วยงานได้แก่
สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมการท่องเที่ยว และกรมสอบสวนคดีพิเศษ
(ดีเอสไอ) ได้มุ่งเน้นการตรวจสอบในธุรกิจเป้าหมาย
10 กลุ่ม
ได้แก่ การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม
, ท่องเที่ยว, ซื้อ/ขาย/ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ (นายหน้า), ค้าอสังหาริมทรัพย์,
ให้เช่ารถยนต์, สปา, ขายปลีกผลิตภัณฑ์งานฝีมือและของที่ระลึก,
ขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต, ขายตรงและบริการที่สนับสนุนการศึกษา
ซึ่งถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการใช้นอมินีมากที่สุด

 

แหล่งท่องเที่ยวเป้าหมาย
“นอมินี”

กลุ่มจังหวัดท่องเที่ยวภูเก็ต
เชียงใหม่ และ พัทยา ยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญของชาวต่างชาติในการเข้ามาลงทุนและมีนอมินีถือหุ้นแทน
โดยเฉพาะภูเก็ตปัจจุบันมีชาวต่างชาติถือหุ้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยช่วงปี
2558-2559 ชาวต่างชาติที่ถือหุ้นมากที่สุดคือเกาหลี
11 บริษัท รองลงมาคือจีน 7
บริษัท รัสเซีย อังกฤษ มาเลเซีย ในขณะที่ข้อมูลการลงทุนทั้งหมดในภูเก็ตนับจากอดีตถึงปัจจุบันมี
113 สัญชาติ จำนวนนิติบุคคล 7,458 ราย
มูลค่าการลงทุนรวม
16,534,558,121.65 บาท สัญชาติที่ลงทุนมากที่สุด
ได้แก่ หมู่เกาะเวอร์จิน (อังกฤษ) จำนวน  
198
ราย มูลค่าการลงทุน 2,576,990,557.00 บาท รองลงมาอังกฤษ
1,197 ราย มูลค่าการลงทุน 1,475,990,557.00 บาท ฮ่องกง 62 ราย มูลค่าการลงทุน 1,377,399,790.00 บาท ฝรั่งเศส 669 ราย มูลค่าการลงทุน 1,151,219,925.90
บาท รัสเซีย 559ราย มูลค่าการลงทุน 794,224,835.00
บาท มาเลเซีย 77 ราย มูลค่าการลงทุน 788,520,500.00
บาท จีน 238 ราย มูลค่าการลงทุน 686,669,930.00
บาท เกาหลี 232 ราย มูลค่าการลงทุน
578,226,500.00บาท โดยมีคนไทยร่วมจดทะเบียนบริษัทฯ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบอย่างละเอียดเข้าข่ายเป็นนอมินีหรือไม่

 

5 บริษัทใน “สะเดา”เข้าข่าย

                ขณะที่อำเภอสะเดา จ.สงขลา ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ
เบื้องต้นตรวจพบ
5 บริษัทส่อเค้าว่าอาจใช้คนไทยแอบแฝงเป็นนอมินีถือหุ้นแทน เนื่องจากทั้ง 5
บริษัทมีผู้ถือครองรายเดียวกันหมด
และประกอบธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โรงแรมรีสอร์ท อพาร์ทเมนท์และธุรกิจบริการอื่นๆ
ซึ่งถือเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีการถือครองที่ดินมูลค่าสูง จึงส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวน
สภ.สะเดา ดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผล และตรวจสอบการจัดทำบัญชีของบริษัททั้ง
5
ราย หากพบว่ามีการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ชลบุรี/ประจวบจ่อผิด 46 บริษัท

นอกจากนี้จากการตรวจสอบสถานะนอมินีใน
2 จังหวัด คือชลบุรีและประจวบคีรีขันธ์ พบว่ามีคนไทยถือหุ้นแทนคนต่างชาติ จำนวน
329 ราย แบ่งเป็นชลบุรี 303 ราย และ ประจวบคีรีขันธ์ 26 ราย ในส่วนของจังหวัดชลบุรีพบ
20 รายเข้าข่ายนอมินี จึงได้ส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สอบสวนต่อ
ส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ดำเนินคดีแล้ว 2 ราย อีก 24 รายกำลังสืบสวนเชิงลึก

 

เชียงใหม่/เชียงรายทุบธุรกิจไทย

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาของเจ้าหน้าที่
พบธุรกิจที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นนอมินีจำนวน
2
ราย จากธุรกิจที่เข้าไปตรวจสอบจำนวน 44 ราย เป็นธุรกิจท่องเที่ยว
1 ราย ในจังหวัดเชียงใหม่ วิธีการทำธุรกิจของ
บริษัทนอมินีคือให้ส่วนแบ่งไกด์ที่พานักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการสูงถึง
40
% ในขณะที่ผู้ประกอบการไทยให้ส่วนแบ่งกับไกด์เพียง 10% จึงไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ ส่วนจังหวัดเชียงรายพบนอมินีในกลุ่มธุรกิจตัวแทนนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์
1 ราย

 

พม่ายืมชื่อพ่อค้าไทยกว้านซื้อที่ดินแม่สอด

ก่อนหน้านี้นักธุรกิจจากประเทศพม่า
ได้ให้พ่อค้าไทยในแม่สอดเป็นตัวแทนซื้อที่ดินสร้างอาคารสูงจำนวนมาก
เนื่องจากแนวโน้มที่ดินในแม่สอดมีเปอร์เซ็นต์พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นด่านการส่งออกสำคัญ
ที่มีมูลค่าการส่งออกปีละเกือบ 3 หมื่นล้านบาท ถือว่าสูงที่สุดในภาคเหนือ

สำหรับคนไทยที่ให้ความช่วยเหลือ
สนับสนุนหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวเพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในประเทศไทย
ต้องได้รับโทษจำคุกไม่เกิน
3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000-1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ
10,000-50,000 บาทจนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน