นางมาลี
โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
กล่าวว่าการประชุมดังกล่าวประกอบด้วยผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
(ทูตพาณิชย์) จาก 61 ประเทศทั่วโลก
ภายใต้การกำกับดูแลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศอีก
4 แห่งทั่วโลก ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์รวมถึงทูตพาณิชย์ที่กำลังจะเริ่มเข้ารับการปฏิบัติหน้าที่ใหม่เข้ารับฟังนโยบายจากรองนายกรัฐมนตรี
และร่วมพิจารณาแผนงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศปี 2559
การประชุมครั้งนี้สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้ากระทรวงพาณิชย์
ได้นำเสนอภาพรวมถึงเศรษฐกิจโลกและแนวโน้มการค้าโลก โดย นายสนั่น อังอุบลกุล
ประธานภาคเอกชนในคณะทำงานด้านการส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนในต่างประเทศ นำเสนอแนวทางการผลักดันการส่งออกและการลงทุนในต่างประเทศของภาคเอกชน
ซึ่งมีการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงพาณิชย์ ภายใต้กลไกคณะทำงานฯ
และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะนำเสนอแนวทางการปฏิรูปการค้า ตลอดจนแผนงานของกรมฯ
ในแต่ละภูมิภาคหลักเพื่อผลักดันให้การส่งออกขยายตัวให้ได้ร้อยละ 5 ตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้
“กรมฯยอมรับว่าเป็นเป้าหมายที่ท้าทายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้มีปัจจัยเสี่ยงภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศอยู่พอสมควร
ทั้งเรื่องของราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนและสหภาพยุโรปซึ่งถือเป็นคู่ค้าหลักของไทย
ราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ ตลอดจนภาวะค่าเงินที่ผันผวน อย่างไรก็ดีกรมฯเชื่อมั่นว่าจากแนวนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี
แผนงานของกรมฯและภาคเอกชนที่ร่วมกันระดมสมองปรับกลยุทธ์
เพื่อเร่งรัดการส่งออกในครั้งนี้ ประกอบกับปัจจัยบวกอันได้แก่การขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพของตลาดอาเซียน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์
เวียดนาม) ซึ่งเป็นตลาดเป้าหมายหลักของกรมฯ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯจะช่วยขับเคลื่อนการส่งออกให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้
ในส่วนของกรมฯจะดำเนินการอย่างเต็มที่”
นอกจากนี้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
ยังได้ตระหนักดีถึงความสำคัญของการกำหนดแผนงานให้สอดคล้องกับบริบทการค้าโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งด้านเศรษฐกิจ
การเมือง และสังคม โดยผลการประชุมในครั้งนี้จะเป็นแนวทางในการปรับกลยุทธ์เพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
ตลอดจนปรับบทบาทปฏิรูปภารกิจของกรมฯ (DITP Reform) ให้สามารถตอบสนองและผลักดันการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศซึ่งเป็นภารกิจใหม่ที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับภารกิจของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่เพิ่มเติมนอกเหนือจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดได้แก่
การส่งเสริมผู้ประกอบการไทยไปลงทุนในต่างประเทศ (Outward investment) ในส่วนของ Non – Manufacturing Sector อาทิการเปิดธุรกิจหรือเฟรนไชส์ในต่างประเทศ
รวมถึงการตั้งผู้แทนจัดจำหน่ายสินค้า การสนับสนุนการส่งออกบริการใน 6 ด้านหลัก (ได้แก่ ธุรกิจด้านสุขภาพ ธุรกิจบันเทิงและดิจิทัลคอนเทนท์
ธุรกิจการจัดงาน ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจการศึกษา และธุรกิจบริการวิชาชีพ)
การยกระดับการให้บริการข้อมูลและคำปรึกษา (Capacity Building) จากเดิมเป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าและตลาดในระดับพื้นฐานรายอุตสาหกรรมในภาพกว้าง
(Sector-based Development) สู่การเป็นหน่วยงานอัจฉริยะซึ่งสามารถให้ข้อมูลเป็นรายธุรกิจ
(Business-based Development) โดยพัฒนาการให้บริการข้อมูลเชิงลึกแก่ผู้ประกอบการที่ครอบคลุม
Value Chain ด้านการส่งออก/การไปลงทุนในต่างประเทศ
ตั้งแต่การเริ่มต้นจนกระทั่งประสบความสำเร็จ การส่งเสริมธุรกิจ E-commerce ผ่านเว็บไซต์ไทยเทรดดอทคอม (www.thaitrade.com) นำไปสู่มูลค่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้นจากการค้าออนไลน์
รวมทั้งการสนับสนุนด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการ SMEs ผ่านกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
และโครงการเอสเอ็มอีโปรเอ็กทีฟ