วันเสาร์นี้เป็นวันเด็กแห่งชาติ
ฝากคำขวัญประจำปีนี้ว่า “เด็กดี หมั่นเพียร เรียนรู้ สู่อนาคต” ในทางปฏิบัติแล้วผมถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกคนในสังคมที่จะต้องช่วยกันสอน
ช่วยกันหล่อหลอมและเป็นตัวอย่างที่ดี ที่ถูกต้องให้กับเยาวชนของชาติที่จะเติบโตเป็นอนาคตของชาติในวันข้างหน้า
ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนได้มีการร่วมกันจัดงานขึ้นหลายแห่งโดยเฉพาะที่ทำเนียบรัฐบาล
และขอชื่นชมและยินดีกับเด็กและเยาวชนที่ได้รับรางวัลเด็กและเยาวชนดีเด่นกว่า 779
คน ขอให้เด็ก ๆทุกคนมุ่งมั่นที่จะประพฤติดี เรียนดี มีคุณธรรม จริยธรรม ซื่อสัตย์
ขยันประหยัด กตัญญู อุทิศตนเพื่อส่วนรวม ขออวยพรให้ทุกคนประสบแต่ความสุขความสำเร็จมีความเจริญก้าวหน้าเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี สำหรับการปฏิบัติงานของรัฐบาล
/ครม. / คสช. / ส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจในปีนี้ 1. คืองานที่ต้องปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมชัดเจนมีผลสัมฤทธิ์ในห้วงเวลาที่มีอยู่
ประกอบด้วย 1.1)งานบริหารราชการแผ่นดิน ตามพันธกิจ ภารกิจของหน่วยงาน 1.2)การปฏิรูประยะที่หนึ่ง 1.3) การแก้ปัญหาเร่งด่วนเช่น
การบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งทางบกและทางทะเล / แก้ปัญหาการบุกรุกป่า /
การฟื้นฟูป่าทั้งบนบกและป่าชายเลน การสร้างป่าเศรษฐกิจและป่าชุมชน ธนาคารอาหาร Food Bank จัดสรรที่ดินทำกินให้ประชาชนอย่างถูกต้อง
1.4) แก้ไขกฎหมาย
กฎระเบียบเพิ่มเติมให้มีความทันสมัย 1.5) วางพื้นฐานการทำงาน การพัฒนาของประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการปฏิรูป
1.6)ปรับปรุงการประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล 1.7)กำหนดมาตรการลดความเสี่ยงจากเศรษฐกิจ
สภาวะภายใน ภายนอกที่ผันผวน 1.8) ทำรัฐธรรมนูญฉบับต่อไป ให้เป็นสากล
2.แก้ไขปัญหาด้านการเมือง ความมั่นคง นักการเมืองเข้ามาช่วยกันปฏิรูปช่วยกันแสดงความคิดเห็น
อย่ามาติติงกันเลย เรื่องใดก็ตามถ้าไม่มีความจำเป็นก็ไม่ใช้มาตรา
44
ถ้าจำเป็นเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วให้เป็นมาตรการในเชิงป้องกัน
ป้องปราม คนจะได้ไม่กล้า 3) วางแผนงาน / โครงการระยะยาว ตามยุทธศาสตร์ทำได้แค่ไหนก็ทำแค่นั้น
ที่เหลือก็ไปทำกันต่อ เห็นด้วยไม่เห็นด้วยแล้วแต่ท่าน ขอให้ประชาชนได้ติดตามต่อไป 4)
กำหนดมาตรการที่จำเป็นเพื่อให้ประเทศไทยเป็นสังคมสันติสุขและปลอดภัย จากยาเสพติด, การค้ามนุษย์,
การกระทำผิดกฎหมาย, การสร้างความเดือดร้อนให้กับสังคม กำลังดำเนินการอยู่ 300 กว่าฉบับทำไปได้ประมาณ
140 กว่าฉบับ 5) เร่งรัดการปฏิรูปการศึกษาระยะที่ 1 ให้ได้ 6) การปรองดองสมานฉันท์
7) บทบาทความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ต้องชัดเจนขึ้น 8) เรื่องพันธสัญญา
ข้อตกลงระหว่างประเทศต่าง ๆ 9)
เตรียมการขับเคลื่อนในฐานะประธานกลุ่ม G77 โดยนำเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมาเป็นแนวทางให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
10)การขับเคลื่อนเหล่านี้ไม่ว่าจะขับเคลื่อน AEC
หรือที่ไหนก็ตามที่ไปประชุมมานี่ รัฐบาลมีหน้าที่ในการที่จะมองว่าเราจะได้ประโยชน์จากประชาคมเหล่านั้นอย่างไร
“เราจะมีการพัฒนาสินค้า
และนวัตกรรมไทยไปสู่ประชาคมโลก สร้างแบรนด์และสินค้าที่เราเรียกว่า Made in Thailandให้เป็นที่รู้จักให้ได้ ภายในปีที่เหลืออยู่เพราะว่าหลายอย่างเริ่มพัฒนาแล้ว
จากการที่เราสนับสนุนให้มีตลาดคลองผดุงกรุงเกษมไปแล้ว แมชชิ่งกัน ให้ความรู้กัน
จดทะเบียนให้เขา จากที่เคยมีรายได้เป็นพัน เป็นหมื่นตอนนี้ขึ้นเป็นล้านแล้วนะ ต้องสร้างความเข้มแข็งจากภายในประเทศก่อน
ต่อไปจะได้เกิดเป็น Smart and Strong cities ในทุกชุมชน
ต้องเป็นเมืองที่ฉลาด
ตามคำที่กล่าวถึงระเบียงเศรษฐกิจ North – South หรือ East
– West วันนี้รัฐบาลไทยมอง Look West เหมือนกัน
มีประเทศใหญ่ ๆ เขาก็ Look East ผมก็มอง Look West กลับไป ว่าเราจะร่วมมือกันได้อย่างไร”
สำหรับตลาดคลองผดุงกรุงเกษม
จะเปิดงานระหว่างวันที่ 6 –
26 มกราคมนี้ ซึ่งเป็นวาระของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)
เป็นเจ้าภาพหลักในการบูรณาการในการจัดงานมหกรรม “พม.
ตลาดน้ำใจ วิถีไทยผดุง” ภายใต้แนวคิดที่ว่า “โอกาส เกียรติ กำลังใจ คนไทยรัก และเกื้อกูลกัน”
ก็ตรงกับนโยบายรัฐบาลก็คือ พี่จูงน้อง เพื่อนจูงเพื่อนเติบโตและแข็งแกร่งไปด้วยกัน
โดยโซนที่ 1 เป็นบ้านแห่งความสุข เป็นนิทรรศการรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์
ขอความร่วมมือในเรื่องของการจองโครงการบ้านยั่งยืน เหลือประมาณสัก 8,000 ยูนิต โซนที่ 2 การสร้างสรรค์และการแสดงศักยภาพ
ประกอบด้วยนักร้องนักดนตรีตาบอดทั้งหมด ซึ่งทางพม.จะหาอาชีพหารายได้ให้
โซนที่ 3 คุณค่าของคนทุกช่วงวัย
ประกอบด้วยการลงทะเบียนเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด
การแสดงศิลปวัฒนธรรมจากเด็กและเยาวชน สินค้าสร้างสรรค์สำหรับเด็ก เยาวชน
และครอบครัว สินค้าผลิตภัณฑ์พื้นเมือง 4 ภาค และการจำหน่ายสินค้าราคาถูก – สินค้านาทีทอง
และโซนที่ 4 คือความสุขจากการให้ ประกอบด้วยการออกร้านจำหน่ายอาหารและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากอาสาสมัครกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ
(อพม.)และนิคมสร้างตนเอง ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการอุดหนุนสินค้าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆแล้วช่วยกันสร้าง
Story เรื่องราวในการเพิ่มมูลค่าของสินค้าต่าง ๆเหล่านั้น สำคัญที่สุดคือการสร้างเรื่องราวความเป็นมา
ประวัติศาสตร์ชาติพันธ์ ในท้องถิ่นของท่าน เอกลักษณ์ของท่านแล้วก็ไปสู่ในเรื่องของการพัฒนาเป็นนวัตกรรมรูปแบบใหม่
จะได้ขายแข่งกับเขาได้ บางที่เหมือนกันทั้งหมดทุกจังหวัด ทุกตำบลทุกอำเภอ
มันจะไปขายใครล่ะ ขายใครก็ไม่ได้แล้ว พัฒนารูปแบบให้มันเล็กลง
ให้มันดัดแปลงมาใช้นี่ ใช้โน่น ราคาสูงขึ้นเอง เคยบอกไปแล้ว
ทำผ้าขาวม้าให้มีราคาเท่ากับผ้าไหม ทำยังไงไปคิดเอา ตอนนี้ก็มีหลายอย่างแล้วนะ
ขายต่างประเทศก็ได้
วันนี้ก็ขอให้ทุกคนช่วยกันพัฒนาชาติบ้านเมืองแล้วก็เตรียมการปฏิรูป
ปฏิรูประยะที่ 1 ไปกับรัฐบาลนี้นะครับ
ขอบคุณกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์แล้วก็หลายหน่วยงานที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
ทั้งภาคธุรกิจ เอกชน ประชาชนนะครับ ช่วยกัน ช่วยกันขับเคลื่อนประเทศไทยต่อไป