ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้สรุปสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์รอบ 11 เดือนของปีนี้
(ม.ค.-พ.ย.) พบว่า ยอดเปิดตัวโครงการใหม่ในกรุงเทพและปริมณฑลลดลงกว่า
5.3% หรือจำนวน 425 โครงการประมาณ 102,920
หน่วย ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียม ที่ลดลงถึง
10.5% ขณะที่ตลาดบ้านจัดสรยังคงเป็นบวกแต่เพิ่มแค่
2.8% เท่านั้น
สะท้อนให้เห็นว่าตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพและปริมณฑลเริ่มอิ่มตัว
เนื่องจากมีซับพลายเป็นจำนวนมาก และพบว่าคอนโดฯมีจำนวนเหลือขายในกรุงเทพ 291
โครงการจำนวน 31,300 ยูนิต มูลค่าประมาณ 114,300 ล้านบาท ขณะที่ปริมณฑล (นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ) มีจำนวนคอนโดฯ เหลือขาย 93 โครงการ จำนวน 25,160 ยูนิต
มูลค่ากว่า 39,200 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังพบตัวเลขการเปิดตัวที่อยู่อาศัยใหม่สำหรับในปีนี้อยู่ที่
112,000 หน่วย ลดลงจากปีที่แล้ว ที่เปิดตัวใหม่ทั้งหมด 118,000 หน่วย แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม
65,000 หน่วย ลดลงจากปีที่แล้วที่เปิดตัวใหม่ทั้งหมด 73,000 หน่วย และบ้านจัดสรร 47,000
หน่วย เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่เปิดตัวใหม่ทั้งหมด 45,000 หน่วย
ในภาวะเศรษฐกิจที่ซึมยาวต่อเนื่องมาหลายปี
ผู้ประกอบการเองก็มีการปรับตัวต่อทุกสถานการณ์มาตลอดได้ดีเยี่ยม
ต้องมาเดากันว่าปีหน้าทิศทางเศรษฐกิจจะฟื้นหรือไม่ ซึ่งหลาย ๆ ฝ่ายของรัฐบาลต่างออกมาประสานเสียงระบุว่าปีหน้าเศรษฐกิจต้องดีกว่าปีนี้แน่นอนเพราะได้รับอานิสงส์จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
หรือ AEC ซึ่งไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ส่งผลทำให้นักลงทุนข้ามชาติเข้ามาใช้ไทยเป็นฐานการลงทุนในภูมิภาค
ซึ่งแน่นอนว่าความต้องการทางด้านอสังหาริมทรัพย์จะมีเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่อยู่อาศัย
สำนักงานรวมถึงนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ
ด้านนายสัมมา
คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ กล่าวตอกย้ำว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้าจะยังเติบโตต่อเนื่องจากปัจจัยบวกทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ยังทรงตัวอยู่ระดับต่ำ
ภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น กำลังซื้อเริ่มกลับมา
หลังจากที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลาย ๆ ด้าน และโดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์เชื่อว่าจะเห็นผลที่ชัดเจนขึ้นในไตรมาสแรกของปีหน้า
ที่มา
: Thaiquote
