ทำความรู้จัก “Gastrainable Tourism” เทรนด์การท่องเที่ยวแนวใหม่ ชูจุดเด่นเรื่องอาหารผสานกับความยั่งยืน

ทำความรู้จัก “Gastrainable Tourism” เทรนด์การท่องเที่ยวแนวใหม่ ชูจุดเด่นเรื่องอาหารผสานกับความยั่งยืน

“อาหารไทย” คือหนึ่งในแม่เหล็กสำคัญที่มีเสน่ห์ไม่แพ้แหล่งท่องเที่ยวอันหลากหลายและอัธยาศัยไมตรีของผู้คน ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เดินทางมาเยือนประเทศไทย ด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ที่มัดใจชาวต่างชาติมาอย่างยาวนาน จึงไม่น่าแปลกใจที่ทุกภาคส่วนต่างมุ่งผลักดันการท่องเที่ยวเชิงอาหารผสานแนวคิดความยั่งยืน หรือ Gastrainable Tourism ให้เป็นหนึ่งในจุดขายสำคัญที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก

 

 

 

ตลาด Gastronomy Tourism ของโลกมีแนวโน้มมาแรง

 

โดย IMARC Group บริษัทวิจัยตลาดระดับโลกคาดว่าช่วงปี 2568-2576 ตลาด Gastronomy Tourism ของโลกมีแนวโน้มเติบโตถึงปีละ 14.46% (CAGR) สู่มูลค่า 4.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2576 หรือเติบโต 4 เท่าจากปัจจุบัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากการที่นักท่องเที่ยวต้องการสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง ไม่เพียงแค่การรับประทานอาหารรสชาติดี แต่รวมไปถึงการเรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตผ่านอาหารด้วย

 

 

เพราะการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการเยี่ยมชมร้านอาหารหรือเทศกาลอาหารเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงมิติทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตท้องถิ่น ผ่านการใช้วัตถุดิบในพื้นที่และการนำเสนอเอกลักษณ์ของชุมชน จึงถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่น

ในขณะเดียวกัน กระแสการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) ก็ทวีความสำคัญมากขึ้นท่ามกลางวิกฤติ “ภาวะโลกเดือด” การผสมผสานระหว่างการท่องเที่ยวเชิงอาหารและแนวคิดความยั่งยืนได้หลอมรวมกันเป็น “Gastrainable Tourism” ซึ่งมีปัจจัยหลายประการที่ส่งอิทธิพลต่อการเติบโตของเทรนด์นี้

 

 

Gastrainable Tourism คืออะไร?

 

Gastrainable Tourism เป็นแนวคิดที่ผสมผสานระหว่าง Gastronomy (การรับประทานอาหาร) และ Sustainable (ความยั่งยืน) เข้าด้วยกัน โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายหลักคือ Luxury Traveller หรือนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง

แม้ชื่อจะสื่อถึงการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับอาหารโดยตรง แต่แนวคิดนี้ยังครอบคลุมมิติอื่น ๆ อีกหลายด้าน ได้แก่

  • วัฒนธรรมท้องถิ่น
  • การเกษตรและการผลิตวัตถุดิบ
  • วิถีชีวิตชุมชน

ดังนั้น การนำแนวคิดการท่องเที่ยวเชิงอาหารมาผสมผสานเข้ากับ Sustainable Tourism นับเป็นกลยุทธ์สำคัญในการปฏิวัติอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในยุค “ภาวะโลกเดือด” ที่ความยั่งยืนกลายเป็นประเด็นสำคัญระดับโลก Gastrainable Tourism จึงเป็นแนวทางที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยให้สอดคล้องกับเทรนด์โลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

เทรนด์การท่องเที่ยวเชิงอาหารยังมี 3 ปัจจัยที่กำหนดทิศทางของเทรนด์นี้

 

  1. การให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาของวัตถุดิบ

เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางการท่องเที่ยวเชิงอาหารในปัจจุบัน โดยพบว่าผู้บริโภคทั่วโลกกว่า 30% ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก จนเกิดเป็นเทรนด์ “การรับประทานอาหารอย่างมีสติ” หรือ “Conscious Diet”

เทรนด์นี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคต้องการ

  • วัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติและท้องถิ่น
  • อาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูป
  • ผลิตภัณฑ์ที่มีความโปร่งใสและตรวจสอบแหล่งที่มาได้
  • หลีกเลี่ยงวัตถุดิบสังเคราะห์และอาหารที่ก่อให้เกิดคาร์บอนสูง เช่น เนื้อวัวและอาหารทะเลบางประเภท

สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจที่พัก การปรับตัวตามเทรนด์นี้มีประโยชน์หลายด้าน

  • ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่ใส่ใจสุขภาพ
  • ส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นผ่านการใช้วัตถุดิบในพื้นที่
  • ดึงดูดกลุ่ม Luxury Traveler ที่ต้องการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพ

 

 

  1. การเติบโตของตลาดขนมยั่งยืน (Sustainable Snacks)

ตามข้อมูลจาก Euromonitor ตลาดผลิตภัณฑ์ขนมในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีมูลค่าสูงถึง 87.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยขนมถือเป็นหนึ่งในตัวแทนเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น เช่น ขนมลาของภาคใต้ และขนมข้าวตอกแตกของภาคอีสานที่ใช้ข้าวเป็นวัตถุดิบหลัก

ปัจจุบัน ผู้บริโภคมองหาขนมที่ “ดีต่อตัว และดีต่อโลก” ซึ่งมีลักษณะสำคัญ ดังนี้

  • ลดปริมาณน้ำตาล เกลือ ไขมัน และแคลอรี่
  • คงคุณค่าทางสารอาหาร
  • ใช้วัตถุดิบจากแหล่งที่ยั่งยืน เช่น ฟาร์มท้องถิ่น ฟาร์มออร์แกนิก และวนเกษตร
  • มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

ตัวอย่างธุรกิจขนมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

  1. Cargill Inc. ร่วมกับ Voyage Foods
  • พัฒนาผลิตภัณฑ์ Plant-Based ทดแทนโกโก้และถั่ว
  • เหมาะสำหรับเบเกอรี่และไอศกรีม
  • มุ่งเน้นการลดการใช้น้ำจืดในกระบวนการผลิต
  1. Pipcorn (สหรัฐอเมริกา)
  • นำเสนอแนวคิด “ขนมที่กินได้อย่างไม่รู้สึกผิด”
  • ใช้ข้าวโพดสายพันธุ์เก่าแก่ที่อุดมด้วยไฟเบอร์และแอนติอ็อกซิแดนท์
  • สนับสนุนความหลากหลายทางการเกษตร
  • ลดการใช้ยาฆ่าแมลงในการเพาะปลูก

แนวคิดขนมยั่งยืนนี้มีศักยภาพในการประยุกต์ใช้กับธุรกิจขนมท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชน

 

 

  1. การรับประทานอาหารตามวัฒนธรรมความเชื่อ

 

อาหารและวิถีชีวิตของผู้คนในแต่ละท้องถิ่นมีความเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะในมิติของความเชื่อและศาสนา จากผลสำรวจของ Euromonitor พบว่า 44% ของกลุ่มตัวอย่างจำกัดการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ส่งผลให้ตลาด Plant-Based เติบโตอย่างมาก เพราะตอบโจทย์ทั้งกลุ่มมังสวิรัติและวีแกน

หลายวัฒนธรรมมีความเชื่อเรื่องการรับประทานอาหารมังสวิรัติหรืออาหารเจ โดยมีแนวคิดสำคัญ คือ:

  • การเชื่อมโยงตนเองกับธรรมชาติ
  • การชำระจิตใจให้บริสุทธิ์
  • การปรับสมดุลให้ร่างกาย

ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ “โชจิน เรียวริ” อาหารตามวิถีพุทธของญี่ปุ่น ซึ่งมีลักษณะเด่น ดังนี้:

  • สืบทอดมาจากอาหารของพระสงฆ์หลายร้อยปี
  • ปราศจากเนื้อสัตว์ เนื้อปลา และอาหารกลิ่นแรง (เช่น กระเทียม หัวหอม)
  • เน้นการใช้พืชผักที่มีสีสันสวยงาม
  • มีรสชาติครบทั้ง 5 รส ได้แก่ หวาน เปรี้ยว เค็ม ขม และอูมามิ
  • เชื่อว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย

แนวคิดการรับประทานอาหารตามความเชื่อนี้สะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างอาหาร สุขภาพ และจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นมิติสำคัญในการท่องเที่ยวเชิงอาหารและวัฒนธรรม

 

 

สะท้อนให้เห็นว่า ปัจจัยที่ส่งอิทธิพลต่อ Gastrainable Tourism คือการเติบโตของเทรนด์และวิถีชีวิตแบบต่าง ๆ โดยอาหารท้องถิ่นและความยั่งยืนคือหัวใจสำคัญของ Grastrainable Tourism ซึ่งเป็นโอกาสทองของไทยในการดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ และพัฒนาเศรษฐกิจไปพร้อมกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม

จะเห็นได้ว่าอาหารนั้นเป็นเครื่องแสดงถึงเอกลักษณ์ของท้องถิ่นต่าง ๆ และมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่นเป็นอย่างมาก ซึ่งหากทุกภาคส่วนร่วมมือกันอย่างจริงจัง Grastrainable Tourism จะกลายเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของอาเซียนอย่างยั่งยืนในอนาคต

 

อ้างอิง

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

https://shorturl.asia/g5lYz

https://www.secnia.go.th/2025/01/gastrainable-tourism-%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2/