จากเมืองสามหมอก สู่ “แม่เล้าบุรี”

จากเมืองสามหมอก สู่ “แม่เล้าบุรี”


จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์เป็นที่คลั่งไคล้ไหลหลงของนักท่องเที่ยว ถึงขั้นให้สมญาเรียกขานเป็น “เมืองสามหมอก” มีอันต้องกลับกลายเป็น “แม่เล้าบุรี” ไปโดยปริยาย จากข่าวคาวฉาวโฉ่ว่าด้วยเรื่องประเภท “โคถึกแทะโลมหญ้าอ่อน” ที่กำลังกระฉ่อนไปทั่วโลก

เหตุปัจจัยที่ทำให้จังหวัดแม่ฮ่องสอน  อื้อฉาวและชุกชุมไปด้วยเรื่องราวพ่อเล้า-แม่เล้าล่าสาวขบเผาะไปเซ่นสังเวยบรรดาเสือเฒ่า-โคถึก น่าจะมาจากความยากจน และความอ่อนด้อยของการศึกษา

ข้อมูลการศึกษาล่าสุดว่าด้วยดัชนีความก้าวหน้าของทรัพยากรมนุษย์ ปี 2558 (Human Achievement Index 2015-HAI 2015) โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุชัดเจนถึงข้อด้อยที่ถือเป็นที่สุดแห่งที่สุดในเมืองไทย ของทรัพยากรมนุษย์ ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนไว้หลายประการด้วยกัน

ประการแรก ความเป็นที่สุดของระดับรายได้ต่อครัวเรือนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ยากจนที่สุดในประเทศไทย

เหลือเชื่อ แต่ต้องเชื่อกับตัวเลขรายได้ครัวเรือนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีค่าเฉลี่ยเพียงแค่ 8,821 บาท/ปี

คิดสะระตะแล้ว ครัวเรือนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีรายได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินเฉลี่ยอยู่แค่วันละ 24 บาท เท่านั้น….ขอย้ำ “วันละ 24 บาท”

ยิ่งไปกว่านั้นสัดส่วนคนยากจน ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็ชุกชุมหนาแน่นเป็นที่สุดของเมืองไทย ด้วยสัดส่วนที่สูงลิบลิ่วถึงร้อยละ 65.2

คิดง่ายๆเข้าใจง่ายๆ…ประชากรแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีอยู่รวมกันประมาณ 300,000 คน จำแนกเป็นคนยากจนสูงถึง 195,600 คน

ยิ่งน่าเศร้าหนักขึ้นไปอีก เมื่อได้รับรู้ว่าประชากรวัยทำงานระหว่าง 18-34 ปี มีปัญหาติดยาเสพติด “ยาบ้า”มากที่สุด

ประการที่สอง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดที่การศึกษาล้าหลังอย่างที่สุด

ประการที่สาม จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดที่การคมนาคมและการสื่อสารจัดอยู่ในขั้น “ห่วยแตก”ที่สุด

ประการที่สี่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดที่ประชากร มีคุณภาพที่อยู่อาศัยล้าหลังที่สุด


ความอ่อนแออย่างที่สุดของคนในแม่ฮ่องสอน กลายเป็น “ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า”ของขบวนการทรชน ที่ทำมาหากินบนหลังคน ซึ่งมีจุดยืนแสวงหากำไรสูงสุด ด้วยต้นทุนต่ำที่สุด โดยมี “คนมีสี”ทั้งสายงานความมั่นคง และสายงานปกครอง ร่วมขบวนการกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

การทำลายล้างขบวนการค้ามนุษย์  เพื่อฟอกขาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้สิ้นคาวกามา หลุดพ้นจากความเป็น “แม่เล้าบุรี” จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายจัดการอย่างเด็ดขาด ควบคู่ไปกับการยกระดับรายได้และการศึกษาแก่ประชากรที่แม่ฮ่องสอน

สมการอุบาทว์ “ข้าราชการ+แม่เล้า/พ่อเล้า” ที่ร่วมกันทำธุรกิจค้ามนุษย์ ต้องถูกกำจัดให้สิ้นซาก เพื่อคืนความสวย สดใสกลับสู่แม่ฮ่องสอน