หน้าชื่นอกตรมที่หลวงพระบาง

หน้าชื่นอกตรมที่หลวงพระบาง


ชะแว้ปแอบแว่บไปเตร็ดเตร่ที่ดินแดนมรดกโลก “หลวงพระบาง” ในประเทศลาวที่เป็นเพื่อนบ้านอยู่ใกล้ชิดติดกัน และพูดจาสื่อสารกันได้สบาย ๆแต่ดันทะลึ่งไปซึมซับเรื่องราวชวนเศร้าจากชาวลาวมาเต็มพิกัด

“คุณรู้มั้ย? ข้าราชการลาวตอนนี้ไม่ได้รับเงินเดือนเป็นประจำทุกเดือน” ผู้นำทางผู้ชำนาญการกิจการลาวเปิดประเด็นปุจฉาชวนฉงนให้งงงวยซะงั้น

วงสนทนาได้แต่เงิบไปตาม ๆกัน พร้อมกับเปล่งเสียงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

“อ้าว! ไหงเป็นงั้น ?”

“ก็เพราะรัฐบาลลาวกำลังถังแตกนะซิ”

“แล้วทำไมถึงได้ถังแตกในเมื่อทั้งประเทศมีคนรวมกันแค่ไม่ถึง 10 ล้านคน แถมยังมีรายได้สารพัด

“ต้นตอความถังแตกของรัฐบาลลาวไม่รู้แน่ชัด แต่มีประเด็นชวนให้คิดต่อคือบรรดาเจ้าแขวงทั้งหลายมีสิทธิตามกฎหมายในการจัดซื้อจัดหารถประจำตำแหน่ง เมื่อเปลี่ยนเจ้าแขวงทีก็จะมีการซื้อรถใหม่กันที แถมรถใหม่ที่ซื้อก็ไม่ใช่กระจอกกิ๊กก๊อกแต่เป็นระดับแลนด์ครุยเซอร์ ยังมีอีกประเด็นที่น่าสังเกตคือเจ้าของสัมปทานเหมืองแร่มักจะกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มผู้ทรงอำนาจอิทธิพลทางการเมือง”

สาระจากคำวิสัชนาทำให้พอจะจินตนาการได้เลา ๆว่าเหตุแห่งความถังแตกของรัฐบาลลาวน่าจะมาจากการเปลี่ยนทางไหลของกระแสเงินตราแทนที่จะไหลเข้าเป็นเงินคงคลัง ดันเบี่ยงไปไหลเข้าพกเข้าห่อเหล่าผู้มีอำนาจอิทธิพลทางการเมือง

จินตนาการว่าด้วยกระแสเงินตราเปลี่ยนทิศนี้ ดูจะสอดคล้องกับปฏิกิริยาคณะรัฐบาลลาวชุดใหม่ที่ครองอำนาจในตอนนี้และกำลังใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหาถังแตก โดยสังเกตได้ชัดเจนจากคำประกาศนโยบาย “ลดชั้น” รถประจำตำแหน่งของข้าราชการทุกระดับ พร้อม ๆกับการประมูลขาย “รถหลวง” ที่เป็น “รถหรู” เพื่อนำเงินรายได้เข้ารัฐ

ยิ่งไปกว่านั้นจิตวิญญาณของลาวที่เปี่ยมไปด้วยความใสซื่อ อ่อนหวาน ก็กำลังถูกย่ำยีเอารัดเอาจากประเทศยักษ์ใหญ่ที่ทรงอำนาจสูงสุดด้านพลเมืองในการใช้ความได้เปรียบในคราบ “นักบุญใจอสูร” เข้าครอบงำกลไกในลาวเกือบเบ็ดเสร็จ แทรกซึมไปทั่วในหัวเมืองหลักไม่ว่าจะเป็นเวียงจันทน์-หลวงพระบาง-วังเวียง

ความอ่อนแอและเปราะบางของลาวไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะโครงสร้างการเมืองเท่านั้น แต่ยังแพร่ระบาดทั่วไปในหมู่มนุษย์เงินเดือนที่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนกับสภาพ “ชักหน้าไม่ถึงหลัง”

ข้อมูลจากคำบอกเล่าของพนักงานในกิจการแห่งหนึ่งที่หลวงพระบางระบุ ค่าเฉลี่ยรายได้เงินเดือนเมื่อคำนวณเป็นเงินบาทแล้วอยู่ที่ประมาณ 3,850 – 4,750 บาท หรือเฉลี่ยวันละ 128-158 บาท แต่ค่าเฉลี่ยค่าใช้จ่ายในการครองชีพใกล้เคียงหรือสูงเกินกว่ารายได้

ความน่าเชื่อถือของข้อมูลรายจ่ายยืนยันได้จากการควักกระเป๋าจ่ายเองคือน้ำดื่มบรรจุขวดขนาด 600 ซีซี ราคา 15 บาท…เฝอ/ข้าวซอยแบบพื้นบ้านซึ่งเทียบเคียงได้กับก๋วยเตี๋ยวชามละ 75 บาท..น้ำผลไม้ปั่นแก้วละ 50 บาท ซึ่งทุกรายการล้วนแพงกว่าที่นี่ประเทศไทย

หากคำนวณเปรียบเทียบง่าย ๆระหว่างรายได้เฉลี่ยวันละ 128-158 บาท กับค่าครองชีพเฉพาะค่าอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้นซึ่งมีค่าเฉลี่ยที่วันละประมาณ 270 บาท จะเห็นชัดเจนว่ามนุษย์เงินเดือนที่หลวงพระบาง “ชักหน้าไม่ถึงหลัง” แต่พวกเขาอยู่รอดได้ด้วยความประหยัดมัธยัสถ์ รัดเข็มขัดกันชนิดเอวกิ่วเอวคอด แล้วใช้ชีวิตด้วยความหน้าชื่นอกตรม

โดย : ศักดิ์ชัย พฤฒิภัค