โลกกำลังเปลี่ยน และธุรกิจต้องเปลี่ยนตาม! ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือที่เรียกกันว่า “พ.ร.บ. โลกร้อน” กำลังจะกลายเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับผู้ประกอบการไทย คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2570 นี้ มาดูบทลงโทษหากไม่ปฏิบัติตามกฏจะเป็นอย่างไร? พร้อมแนวทางการปรับตัว เพื่อให้ธุรกิจไปต่อได้ต้องทำอย่างไร?

ทำไมกฎหมายนี้เปลี่ยนเกมธุรกิจไทย?
ประเทศไทยให้คำมั่นต่อโลกว่าจะบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และ Net Zero ภายในปี 2065 ธุรกิจที่ไม่ปรับตัวอาจต้องเผชิญกับ
- ต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้นจากภาษีคาร์บอน
- ค่าปรับมหาศาล
- การถูกกีดกันทางการค้าโดยเฉพาะจากมาตรการ CBAM ของสหภาพยุโรป
ดังนั้น หากธุรกิจไม่ปรับตัว อาจต้องเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีคาร์บอน ค่าปรับ หรือข้อจำกัดทางการค้า ซึ่งอาจจำกัดสินค้าที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงจากการเข้าสู่ตลาดสากล

5 ประเด็นสำคัญที่ธุรกิจต้องรู้
- กองทุนภูมิอากาศ – โอกาสทองของธุรกิจสีเขียว
รัฐบาลเตรียมมอบสิทธิประโยชน์ให้ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ลดหย่อนภาษีสำหรับการลงทุนในเทคโนโลยีสีเขียว
- เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อโครงการลดก๊าซเรือนกระจก
- เงินช่วยเหลือสำหรับการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด
- ระบบรายงานข้อมูลก๊าซเรือนกระจก – ความโปร่งใสคือกุญแจ
ธุรกิจในกลุ่มเสี่ยง 5 กลุ่มต้องรายงานปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
- อุตสาหกรรมพลังงาน
- การขนส่งและโลจิสติกส์
- อุตสาหกรรมหนัก (เหล็ก ซีเมนต์ เคมีภัณฑ์)
- เกษตรกรรมขนาดใหญ่
- การจัดการของเสีย
คำเตือน รายงานข้อมูลเท็จมีโทษทางกฎหมาย!
- ตลาดคาร์บอน – ธุรกิจพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
- รัฐจะกำหนดโควตาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้แต่ละอุตสาหกรรม
- หากใช้น้อยกว่าโควตา ขายสิทธิส่วนเกินสร้างรายได้ใหม่
- หากใช้เกินโควตา ต้องซื้อสิทธิเพิ่มเติม
- ภาษีคาร์บอน – ต้นทุนใหม่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
สินค้าที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงจะถูกเก็บภาษีพิเศษ:
- น้ำมัน ถ่านหิน
- ซีเมนต์
- พลาสติก
- และอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบสูงต่อสิ่งแวดล้อม

- บทลงโทษที่รุนแรง – ไม่คุ้มค่ากับการเสี่ยง
- ปกปิดหรือให้ข้อมูลเท็จ ปรับสูงสุด 5 ล้านบาท
- ปล่อยก๊าซเกินโควตา ปรับ 3 เท่าของราคาสิทธิการปล่อยก๊าซ
- หลีกเลี่ยงภาษีคาร์บอน จำคุกสูงสุด 3 ปี ปรับไม่เกิน 400,000 บาท
- ไม่ชำระภาษีคาร์บอน – ปรับสูงสุด 5 ล้านบาท หรือ สามเท่าของผลประโยชน์
- ละเลยการเสียภาษีคาร์บอน – จำคุกสูงสุด 3 ปี ปรับไม่เกิน 400,000 บาท
- ไม่ขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิต – ปรับ 10,000–100,000 บาท และปรับรายวันสูงสุด 1,000 บาท

4 กลยุทธ์รับมือสำหรับธุรกิจไทย
- เริ่มวัดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ตั้งแต่วันนี้ – รู้จุดอ่อนเพื่อวางแผนพัฒนา
- ใช้ประโยชน์จากกองทุนภูมิอากาศ – ลดต้นทุนการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี
- วางแผนรับมือภาษีคาร์บอน – เปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาดก่อนถูกบังคับ
- พัฒนาแผนความยั่งยืนองค์กร – สร้างภาพลักษณ์และความได้เปรียบในการแข่งขัน
การปรับตัวเป็นเรื่องท้าทาย แต่ไม่จำเป็นต้องเผชิญโดยลำพัง! คาร์บอนไวซ์เข้าใจความซับซ้อนของการเปลี่ยนผ่าน เราพัฒนาแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ธุรกิจ
- ลดต้นทุนการจัดทำรายงาน
- ประหยัดเวลาในกระบวนการทำงาน
- เพิ่มความสะดวกในการเปิดเผยข้อมูลด้านคาร์บอน
พ.ร.บ. โลกร้อน ไม่ใช่แค่ความท้าทาย แต่เป็นโอกาสที่จะยกระดับธุรกิจของคุณสู่อนาคตที่ยั่งยืน เตรียมพร้อมตั้งแต่วันนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป!
อ้างอิง
https://www.thaiclimatejusticeforall.com/?p=4203&ref=blog.carbonwize.io
https://law.go.th/listeningDetail?survey_id=NDU5OURHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ%3D&ref=blog.carbonwize.io
https://blog.carbonwize.io/climate-law/
บทความอื่น ที่น่าสนใจ
‘กองทุนภูมิอากาศ’ พ.ร.บ.ลดโลกร้อน โอกาสทองธุรกิจไทย ปรับตัวสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ รุกตลาดโลก
