ปรับ 5 ล้าน – ติดคุก 3 ปี? เมื่อ ‘พ.ร.บ. โลกร้อน’ มาเยือน กฎหมายใหม่ที่ธุรกิจไทยต้องเรียนรู้

ปรับ 5 ล้าน – ติดคุก 3 ปี? เมื่อ ‘พ.ร.บ. โลกร้อน’ มาเยือน กฎหมายใหม่ที่ธุรกิจไทยต้องเรียนรู้

โลกกำลังเปลี่ยน และธุรกิจต้องเปลี่ยนตาม! ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือที่เรียกกันว่า “พ.ร.บ. โลกร้อน” กำลังจะกลายเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับผู้ประกอบการไทย คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2570 นี้ มาดูบทลงโทษหากไม่ปฏิบัติตามกฏจะเป็นอย่างไร? พร้อมแนวทางการปรับตัว เพื่อให้ธุรกิจไปต่อได้ต้องทำอย่างไร?

 

 

ทำไมกฎหมายนี้เปลี่ยนเกมธุรกิจไทย?

 

ประเทศไทยให้คำมั่นต่อโลกว่าจะบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และ Net Zero ภายในปี 2065 ธุรกิจที่ไม่ปรับตัวอาจต้องเผชิญกับ

  • ต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้นจากภาษีคาร์บอน
  • ค่าปรับมหาศาล
  • การถูกกีดกันทางการค้าโดยเฉพาะจากมาตรการ CBAM ของสหภาพยุโรป

ดังนั้น หากธุรกิจไม่ปรับตัว อาจต้องเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีคาร์บอน ค่าปรับ หรือข้อจำกัดทางการค้า  ซึ่งอาจจำกัดสินค้าที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงจากการเข้าสู่ตลาดสากล

 

 

 

5 ประเด็นสำคัญที่ธุรกิจต้องรู้

 

  1. กองทุนภูมิอากาศ – โอกาสทองของธุรกิจสีเขียว

รัฐบาลเตรียมมอบสิทธิประโยชน์ให้ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

  • ลดหย่อนภาษีสำหรับการลงทุนในเทคโนโลยีสีเขียว
  • เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อโครงการลดก๊าซเรือนกระจก
  • เงินช่วยเหลือสำหรับการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด

 

  1. ระบบรายงานข้อมูลก๊าซเรือนกระจก – ความโปร่งใสคือกุญแจ

ธุรกิจในกลุ่มเสี่ยง 5 กลุ่มต้องรายงานปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

  • อุตสาหกรรมพลังงาน
  • การขนส่งและโลจิสติกส์
  • อุตสาหกรรมหนัก (เหล็ก ซีเมนต์ เคมีภัณฑ์)
  • เกษตรกรรมขนาดใหญ่
  • การจัดการของเสีย

คำเตือน รายงานข้อมูลเท็จมีโทษทางกฎหมาย!

 

  1. ตลาดคาร์บอน – ธุรกิจพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
  • รัฐจะกำหนดโควตาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้แต่ละอุตสาหกรรม
  • หากใช้น้อยกว่าโควตา ขายสิทธิส่วนเกินสร้างรายได้ใหม่
  • หากใช้เกินโควตา ต้องซื้อสิทธิเพิ่มเติม

 

  1. ภาษีคาร์บอน – ต้นทุนใหม่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

สินค้าที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงจะถูกเก็บภาษีพิเศษ:

  • น้ำมัน ถ่านหิน
  • ซีเมนต์
  • พลาสติก
  • และอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบสูงต่อสิ่งแวดล้อม

 

 

 

  1. บทลงโทษที่รุนแรง – ไม่คุ้มค่ากับการเสี่ยง
  • ปกปิดหรือให้ข้อมูลเท็จ ปรับสูงสุด 5 ล้านบาท
  • ปล่อยก๊าซเกินโควตา ปรับ 3 เท่าของราคาสิทธิการปล่อยก๊าซ
  • หลีกเลี่ยงภาษีคาร์บอน จำคุกสูงสุด 3 ปี ปรับไม่เกิน 400,000 บาท
  • ไม่ชำระภาษีคาร์บอน – ปรับสูงสุด 5 ล้านบาท หรือ สามเท่าของผลประโยชน์
  • ละเลยการเสียภาษีคาร์บอน – จำคุกสูงสุด 3 ปี ปรับไม่เกิน 400,000 บาท
  • ไม่ขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิต – ปรับ 10,000–100,000 บาท และปรับรายวันสูงสุด 1,000 บาท

 

 

4 กลยุทธ์รับมือสำหรับธุรกิจไทย

  1. เริ่มวัดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ตั้งแต่วันนี้ – รู้จุดอ่อนเพื่อวางแผนพัฒนา
  2. ใช้ประโยชน์จากกองทุนภูมิอากาศ – ลดต้นทุนการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี
  3. วางแผนรับมือภาษีคาร์บอน – เปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาดก่อนถูกบังคับ
  4. พัฒนาแผนความยั่งยืนองค์กร – สร้างภาพลักษณ์และความได้เปรียบในการแข่งขัน

 

การปรับตัวเป็นเรื่องท้าทาย แต่ไม่จำเป็นต้องเผชิญโดยลำพัง! คาร์บอนไวซ์เข้าใจความซับซ้อนของการเปลี่ยนผ่าน เราพัฒนาแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ธุรกิจ

  • ลดต้นทุนการจัดทำรายงาน
  • ประหยัดเวลาในกระบวนการทำงาน
  • เพิ่มความสะดวกในการเปิดเผยข้อมูลด้านคาร์บอน

 

พ.ร.บ. โลกร้อน ไม่ใช่แค่ความท้าทาย แต่เป็นโอกาสที่จะยกระดับธุรกิจของคุณสู่อนาคตที่ยั่งยืน เตรียมพร้อมตั้งแต่วันนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป!

 

อ้างอิง

https://www.thaiclimatejusticeforall.com/?p=4203&ref=blog.carbonwize.io

 

https://law.go.th/listeningDetail?survey_id=NDU5OURHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ%3D&ref=blog.carbonwize.io

 

https://blog.carbonwize.io/climate-law/

 

บทความอื่น ที่น่าสนใจ

 

‘กองทุนภูมิอากาศ’ พ.ร.บ.ลดโลกร้อน โอกาสทองธุรกิจไทย ปรับตัวสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ รุกตลาดโลก