จีนค้าน ‘ทรัมป์’ ลงนามคำสั่งลุยทำ ‘เหมืองแร่ใต้ทะเลลึก’ ละเมิดกฎหมาย ทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเล

จีนค้าน ‘ทรัมป์’ ลงนามคำสั่งลุยทำ ‘เหมืองแร่ใต้ทะเลลึก’ ละเมิดกฎหมาย ทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเล

ไม่แคร์สิ่งแวดล้อม! ทรัมป์ ลงนามคำสั่งยกระดับการทำเหมืองแร่ใต้น้ำลึก ชี้ช่วยเพิ่ม GDP ประเทศได้ 300,000 ล้านดอลลาร์ใน 10 ปี สร้างงาน 100,000 ตำแหน่ง จีนตอบโต้ “ละเมิด” กฎหมายระหว่างประเทศ ทำระบบนิเวศใต้ทะเลพัง สัตว์ทะเลเสี่ยงสูญพันธุ์

 

 

เมื่อวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกคำสั่งเปิดทางให้สหรัฐสามารถทำเหมืองใต้ทะเลลึกเพื่อถ่วงดุลอำนาจของจีนในการเป็นผู้นำห่วงโซ่อุปทานของแร่ธาตุสำคัญ เพื่อพยายามเพิ่มการเข้าถึงแร่ธาตุที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ เทคโนโลยีสีเขียว และการดูแลสุขภาพของชาวอเมริกา

 

โดยคำสั่งดังกล่าวลงนามเป็นการส่วนตัว โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งการขุดแร่ธาตุที่สำคัญทั้งในน่านน้ำสหรัฐฯ และนานาชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่กว้างขึ้นเพื่อต่อต้านการมีอิทธิพลของจีนในการจัดหาทรัพยากรเหล่านี้ทั่วโลก

 

                                                                 Cr. ภาพ : cmlnluo.law.blog

 

จีน ซัด ทรัมป์ ละเมิดกฎหมาย ทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเล

 

นายกัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า การที่สหรัฐอนุมัติการทำเหมืองใต้ทะเลลึก (deep-sea mining) ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

 

“การอนุมัติของสหรัฐ เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นอันตรายต่อผลประโยชน์โดยรวมของประชาคมโลก” 

กัว เจียคุน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าว ตามที่ BBC รายงาน

 

คำสั่งดังกล่าวจะทำให้สหรัฐสามารถเร่งรัดกระบวนการพิจารณาและออกใบอนุญาตเพื่อค้นหาแร่สำคัญต่าง ๆ เช่น นิเกิล ทองแดง และแร่ธาตุหายากจากพื้นทะเลของสหรัฐและน่านน้ำสากล

“สหรัฐมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติที่สำคัญในการรักษาความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ในทะเลลึกและแหล่งแร่ธาตุที่พื้นทะเล” ทรัมป์กล่าว

 

 

ช่วยเพิ่ม GDP  300,000 ล้าน สร้างงาน 100,000 คน

 

การประเมินระบุว่าพื้นมหาสมุทรมีโลหะเหล่านี้มูลค่าระหว่าง 8 ล้านล้านถึง 16 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในน่านน้ำสหรัฐอเมริกาเพียงแห่งเดียว โดยใต้ท้องทะเลลึกมีหินรูปร่างคล้ายมันฝรั่งนับพันล้านตัน ซึ่งเรียกว่าก้อนโลหะหลายแบบซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุสำคัญ เช่น โคบอลต์และแร่ธาตุหายาก อาจมีการสกัดแร่ที่มีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์ได้กว่า 1,000 ล้านเมตริกตัน ซึ่งอาจเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ได้ถึง 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายใน 10 ปี และสร้างงานได้ 100,000 ตำแหน่ง ตามที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลระบุ

 

“สหรัฐฯ มีผลประโยชน์หลักด้านความมั่นคงแห่งชาติและเศรษฐกิจในการรักษาความเป็นผู้นำในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใต้ท้องทะเลลึกและทรัพยากรแร่ใต้ท้องทะเล” ทรัมป์ระบุในคำสั่ง

 

คำสั่งดังกล่าวเรียกร้องให้เร่งดำเนินการออกใบอนุญาตภายใต้พระราชบัญญัติทรัพยากรแร่แข็งใต้ท้องทะเลลึก พ.ศ. 2523 และกำหนดกระบวนการออกใบอนุญาตตามแนวไหล่ทวีปชั้นนอกของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ คำสั่งดังกล่าวยังผลักดันให้มีการพิจารณาคำร้องขอการทำเหมืองในน่านน้ำสากลอย่างรวดเร็วขึ้น ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้เกิดการกดดันจากชุมชนโลก

 

“เราต้องการให้สหรัฐฯ ก้าวไปข้างหน้าเหนือจีนในพื้นที่ทรัพยากรใต้ท้องมหาสมุทร บนพื้นมหาสมุทร” เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวกับBBC

 

                                                                                   Cr. ภาพ : www.miningreview.com

 

กระทบระบบนิเวศใต้ทะเล เพิ่มอัตราเสี่ยงสัตว์ทะเลสูญพันธุ์

 

กลุ่มสิ่งแวดล้อม วิจารณ์การทำเหมืองใต้ท้องทะเล โดยเตือนว่า อาจสร้างความเสียหายอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ต่อระบบนิเวศทางทะเลอันเปราะบางที่ยังไม่เป็นที่เข้าใจดีและได้รับผลกระทบจากมลพิษ การลากอวนอุตสาหกรรม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอยู่แล้ว

 

โดยพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติและศูนย์สมุทรศาสตร์แห่งชาติพิจารณาถึงผลกระทบในระยะยาวของการทำเหมืองในทะเลลึกจากการทดสอบที่ดำเนินการในช่วงทศวรรษ 1970

 

สรุปได้ว่า สัตว์ที่อาศัยอยู่ในตะกอนบางชนิดสามารถกลับมาตั้งรกรากในพื้นที่เดิมและฟื้นตัวจากการทดสอบได้ แต่สัตว์ขนาดใหญ่กว่านั้นดูเหมือนจะไม่กลับมาอีก

 

นักวิทยาศาสตร์สรุปว่าสาเหตุอาจเป็นเพราะไม่มีก้อนแร่เหลือให้พวกมันอาศัยอยู่ ก้อนแร่โพลีเมทัลลิกที่พบต้องใช้เวลาหลายล้านปีจึงจะก่อตัวขึ้น ดังนั้นจึงไม่สามารถทดแทนได้ง่าย

 

                                                                           Cr. ภาพ : https://miningdigital.com/

 

บริษัทเหมืองแร่ แย้ง! แทบไม่กระทบสิ่งแวดล้อมเลย

 

บริษัทเหมืองแร่แห่งหนึ่งชื่อว่า The Metals Company (TMC) กำลังหารือกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อขอใบอนุญาต

ก่อนหน้านี้ Gerard Barron ซีอีโอของบริษัท TMC เคยกล่าวไว้ว่า เขาหวังที่จะเริ่มดำเนินการขุดได้ภายในสิ้นปีนี้

 

เขาโต้แย้งข้อเรียกร้องด้านสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกับผู้อื่นในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ และโต้แย้งว่าโซนใต้ท้องทะเลซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 3,000 ถึง 6,000 เมตร มีความเข้มข้นของสิ่งมีชีวิตต่ำมาก

 

“ที่นี่ไม่มีพืชเลย และถ้าเราวัดปริมาณสัตว์ในรูปของชีวมวล จะพบว่ามีประมาณ 10 กรัมต่อตารางเมตร เมื่อเทียบกับชีวมวลมากกว่า 30 กิโลกรัมที่โลกกำลังเร่งสกัดนิกเกิล ซึ่งก็คือป่าฝนบริเวณเส้นศูนย์สูตรของเรา” เขากล่าวกับ BBC ก่อนหน้านี้

 

อ้างอิง

https://www.bbc.com/news/articles/cx2v37z333lo

https://www.mining.com/china-criticizes-trumps-executive-order-promoting-deep-sea-mining/#google_vignette

 

บทความอื่น ที่น่าสนใจ

เจาะลึก! 4 มหาอำนาจ เปิดศึกแย่งชิงทรัพยากร “แร่หายาก” (Rare Earth) หัวใจสำคัญของเทคโนโลยีสีเขียว