CPAC เปิดตัว “CPAC EV Mixer Truck” รถโม่พลังงานไฟฟ้าคันแรกของภาคเหนือ ลดคาร์บอนไดออกไซด์และฝุ่น PM 2.5 สู่การก่อสร้างที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในยุคที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นความท้าทายสำคัญของโลก อุตสาหกรรมก่อสร้างก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลต่อวิกฤตโลกร้อนและปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นภัยใกล้ตัวในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ล่าสุด CPAC ได้นำร่องการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้วยการเปิดตัว รถโม่พลังงานไฟฟ้า “CPAC EV Mixer Truck” ในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นต้นแบบการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Logistics) และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า รถโม่รุ่นใหม่นี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิล แต่ยังลดมลภาวะทางอากาศและเสียงในชุมชนเมือง ตอบโจทย์ทั้งด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในพื้นที่ใช้งาน โดยการลงทุนในนวัตกรรมสีเขียวเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาในปัจจุบัน แต่ยังวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับความยั่งยืนในระยะยาวของอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยอีกด้วย
รถโม่พลังงานไฟฟ้าคันแรกของภาคเหนือ
CPAC สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมก่อสร้าง เปิดตัว “CPAC EV Mixer Truck” รถโม่พลังงานไฟฟ้าคันแรกของภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ตอกย้ำวิสัยทัศน์ The 1st Mover Low Carbon Concrete Business เพื่อการก่อสร้างที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยรถโม่พลังงานไฟฟ้าหนึ่งคันสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้ถึง 212,736 กิโลกรัมต่อปี หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 22,400 ต้น พร้อมทั้งช่วยลดวิกฤตฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นปัญหาใหญ่ในพื้นที่
ถิรวัฒน์ พูนกาญจนะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด (CPAC) เผยว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการก่อสร้างในภาคเหนือ แต่ต้องเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว การนำรถโม่พลังงานไฟฟ้าเข้ามาใช้งานจึงไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสอดคล้องกับแนวทาง Inclusive Green Growth ที่เน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
นอกจากการลดคาร์บอนไดออกไซด์ รถโม่พลังงานไฟฟ้านี้ยังช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิงได้ถึง 50% หรือประมาณ 237,600 บาทต่อปีต่อคัน ด้วยระบบขับเคลื่อนที่เงียบและออกแบบมาให้รองรับทั้งการขนส่งในเขตเมืองและพื้นที่เนินเขาในภาคเหนือ CPAC ยังตั้งเป้าที่จะขยายการใช้รถโม่พลังงานไฟฟ้าไปยังจังหวัดอื่น ๆ เช่น เชียงราย ชลบุรี และภูเก็ตภายในปี 2025-2026 เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยสู่ความยั่งยืนในระยะยาว
“นับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งในตลอดระยะเวลาการทำงานที่บริษัทฯ จะต้องหาวิธีการดำเนินงานที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดโดยมุ่งเน้นการก่อสร้างสีเขียว ตามแนวทาง Inclusive Green Growth ซึ่งรถโม่พลังงานไฟฟ้า CPAC EV Mixer Truck ถือเป็นแรงกระตุ้นในการส่งเสริมอุตสาหกรรมก่อสร้างอย่างยั่งยืนอีกทางหนึ่งนอกจากนี้ยังช่วยประหยัดต้นทุนเชื้อเพลิงได้ประมาณ 50% เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันดีเซล หรือประมาณ 237,600 บาท/คัน/ปี (คำนวณจากฐานค่าน้ำมัน 33 บาท/ลิตร) ซึ่งรถโม่พลังงานไฟฟ้านี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการขนส่งคอนกรีตทั้งในเขตเมืองและภูมิประเทศที่มีเนินเขาของภาคเหนือ ด้วยระบบขับเคลื่อนที่เงียบช่วยลดผลกระทบต่อชุมชนที่หนาแน่น รวมถึงมีระบบจัดการพลังงานที่เหมาะสมสำหรับการขนส่งในระยะทางไกล”
แผนขยายการใช้รถโม่พลังงานไฟฟ้า
CPAC ตั้งเป้าขยายการใช้งาน “CPAC EV Mixer Truck” ไปยังหัวเมืองสำคัญ เช่น เชียงราย ชลบุรี และภูเก็ต ภายในปี 2025-2026 พร้อมเพิ่มสัดส่วนรถโม่พลังงานไฟฟ้าเพื่อทดแทนรถโม่ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปแบบเดิม อีกทั้งยังพัฒนารถโม่ขนาดเล็กที่เหมาะสำหรับพื้นที่ชุมชน เพื่อลดทั้งมลภาวะทางอากาศและเสียง เสริมประสิทธิภาพการขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ความร่วมมือสู่เป้าหมายลดคาร์บอน
ความร่วมมือระหว่างองค์กรต่าง ๆ มุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ผ่านการใช้เทคโนโลยีการขนส่งสีเขียวและการเลือกสินค้าคาร์บอนต่ำ นโยบายเหล่านี้ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเปิดโอกาสให้คู่ธุรกิจ เช่น เจ้าของโครงการและผู้รับเหมา ได้รับสิทธิพิเศษจากสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) และเตรียมพร้อมรับมือกับการจัดเก็บภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) ที่จะส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและผลักดันประเทศไทยสู่ Carbon Neutrality ภายในปี 2050 อีกด้วย