โรงแรมไทยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการก้าวสู่ความยั่งยืน สะท้อนจากจำนวนโรงแรมที่ได้รับมาตรฐานความยั่งยืนในระดับสากลทั้งหมดในปี 2567 อยู่ที่ราว 100 แห่ง จำเป็นต้องเร่งเข้าสู่ความยั่งยืนเพื่อรักษาตลาด EU เพื่อรักษามูลค่าตลาดกว่า 350 พันล้านบาทต่อปี
การประกาศใช้ข้อกำหนดใหม่ของสหภาพยุโรป (EU) ในช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา ทั้ง Corporate Sustainability Reporting Directive (CSRD) ว่าด้วยการรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม และ Corporate Sustainability Due Diligence Directive (CSDDD) ว่าด้วยการสอบทานด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดให้ผู้บริโภคในยุโรปและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงรายงานด้านความยั่งยืนของบริษัทหรือองค์กรในยุโรปรวมถึงบริษัทต่างชาติที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานได้ภายในปี 2569 นั้นจะส่งผลกระทบต่อโรงแรมไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โรงแรมไทยกับประเด็นด้านความยั่งยืน
โรงแรมไทยกำลังถูกผลักดันให้ยั่งยืนยิ่งขึ้นเพื่อรับกติการักษ์โลกของ EU ภายในปี 2569 เนื่องจากโรงแรมและที่พักของไทยกว่า 2 หมื่นแห่งขายห้องพักบน Booking.com ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติเนเธอร์แลนด์รวมถึง Agoda ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้การบริหารของบริษัทแม่เดียวกัน (Booking Holdings) ที่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด CSRD และ CSDDD โดยทาง Booking.com และ Agoda ได้ขานรับข้อกำหนดของ EU พร้อมส่งเสริมโรงแรมทั่วโลกที่ขายห้องพักบนแพลตฟอร์มให้ได้รับการรับรองมาตรฐานความยั่งยืนในระดับสากล อย่างเช่น Greenkey, Green Globe, Travelife, EarthCheck, GSTC และรวมถึง Green Hotel Plus ของไทยที่ได้รับ GSTC-Recognized Standard
นอกจากนี้ ข้อกำหนดดังกล่าวยังรวมไปถึงบริษัททัวร์ในยุโรปที่ขายแพ็กเกจท่องเที่ยวไทยด้วย ทั้งนี้จากข้อมูลโครงการสำรวจเพื่อการวิเคราะห์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศในไตรมาส 3 ปี 2567 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พบว่า 56% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยนิยมจองโรงแรมและที่พักผ่าน OTAs และ 35% ของนักท่องเที่ยวยุโรปจองโรงแรมและที่พักผ่านบริษัททัวร์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ได้ว่าข้อกำหนดใหม่นี้จะส่งผลกระทบกับธุรกิจโรงแรมไทยที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต่ำกว่า 35 ล้านคนในแต่ละปี โดยราว 20% เป็นนักท่องเที่ยวจากยุโรป
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวมาประเทศไทยที่ 37.5 ล้านคน ดังนั้นนักท่องเที่ยวจากสหภาพยุโรปจะมีจำนวนประมาณ 7.5 ล้านคนต่อปี ซึ่งนักท่องเที่ยวจากยุโรปนั้นมักจะใช้จ่ายสูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ โดยเฉพาะในด้านที่พัก, การท่องเที่ยว, และการใช้บริการต่าง ๆ โดยข้อมูลกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (ข้อมูลเบื้องต้น ณ 23 เมษายน 2567) ระบุว่าในปี 2566 นักท่องเที่ยวต่างชาติใช้จ่ายเฉลี่ยวันละ 4,077 บาท และค่าใช้จ่ายในปี 2567 จะมีสัดส่วนสูงขึ้น 22.5% และเข้าใกล้ระดับก่อนโควิดที่ 29.2% ได้ในระยะถัดไป และประเมินว่าตลาดยุโรปมีเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยวสู่ประเทศไทยไม่น้อยกว่า 350 พันล้านบาทต่อปี
ขณะที่โรงแรมไทยในภาพรวมยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นบนเส้นทางของความยั่งยืน จากการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของธุรกิจโรงแรมทั่วโลกของ The Department for Environment, Food & Rural Affairs (DEFRA) ของสหราชอาณาจักร พบว่า ในปี 2566 โรงแรมไทยยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณที่ค่อนข้างสูงที่ 43.4 kgCO2e per occupied room เมื่อเทียบกับเมืองท่องเที่ยวสำคัญของโลกอย่างญี่ปุ่น สิงคโปร์ อิตาลี และฝรั่งเศส
โรงแรมไทยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการก้าวสู่ความยั่งยืน
โรงแรมไทยในภาพรวมยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการก้าวสู่ความยั่งยืน สะท้อนจากจำนวนโรงแรมที่ได้รับมาตรฐานด้านความยั่งยืนในระดับสากลทั้งหมดในปี 2567 อยู่ที่ราว 100 แห่งหรือมีสัดส่วนไม่ถึง 1% ของโรงแรมและที่พักในไทยทั้งหมด อีกทั้งยังกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และภูเก็ต โดยกว่า 60% เป็นโรงแรมเชนทั้งในเครือเชนต่างประเทศและเชนไทย ซึ่งเส้นทางสู่ความยั่งยืนของโรงแรมไทยยังมีข้อจำกัดอยู่หลายประการทั้ง 1) ธุรกิจโรงแรมส่วนใหญ่ยังขาดความเข้าใจถึงประโยชน์ในระยะยาวของการเป็นโรงแรมยั่งยืน 2) ความพร้อมในด้านเงินทุน บุคลากร ที่ปรึกษา และการเก็บข้อมูลด้านความยั่งยืนอย่างเป็นระบบเนื่องจากธุรกิจโรงแรมเพิ่งฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 ได้ไม่นาน และ 3) แรงกระตุ้นที่จะผลักดันให้ธุรกิจโรงแรมเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนทั้งจากนโยบายภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจากเทรนด์ของนักท่องเที่ยว
ก้าวสำคัญ (3T) ที่จะช่วยให้โรงแรมยั่งยืนเกิดขึ้นได้จริง
Target : การกำหนดเป้าหมายสู่ความยั่งยืนภายใต้กรอบเวลาและแผนงานที่ชัดเจน รวมถึงกำหนดตัวชี้วัดเพื่อประเมินผลการดำเนินงาน ซึ่งธุรกิจโรงแรมอาจกำหนดเป้าหมายระยะสั้นควบคู่ไปกับเป้าหมายระยะยาว
Teamwork : การสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวทางการดำเนินงานด้านความยั่งยืนให้แก่พนักงาน Supplier ไปจนถึงผู้เข้าพัก ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมให้มีส่วนร่วมในการก้าวสู่ความยั่งยืนร่วมกันด้วย
Transform : ธุรกิจโรงแรมอาจเริ่มต้นจากการปรับลดการใช้พลังงานและทรัพยากร รวมถึงการเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง แล้วจึงวางแผนเพิ่มการลงทุนในพลังงานทดแทนหรือปรับปรุงอาคารเขียวเมื่อมีความพร้อม
การก้าวข้ามข้อจำกัดและการเสริมความแข็งแกร่งด้านความยั่งยืนต้องอาศัยการสนับสนุนจากภาครัฐ
การยกระดับเป้าหมายความยั่งยืนไทย ด้วยการผลักดันให้ความยั่งยืนเป็นเรื่องโจทย์ด่วนไม่ใช่เป็นเพียงทางเลือกของธุรกิจผ่านการออกข้อกำหนด/มาตรการการบังคับใช้เพื่อกระตุ้นให้ภาคธุรกิจเห็นความสำคัญในการก้าวสู่ความยั่งยืนอย่างจริงจัง รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมด้านความยั่งยืนให้กับสังคม
การพิจารณาจัดตั้งกองทุนความยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับการดำเนินการด้านความยั่งยืนเพื่อให้ธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะโรงแรมขนาดกลาง-เล็ก ซึ่งอาจครอบคลุมไปถึงการสนับสนุนเงินทุนในการยื่นขอรับใบรับรองมาตรฐานความยั่งยืนระดับสากล
การออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนด้านความยั่งยืน อย่างเช่นการออกสิทธิพิเศษทางภาษีสำหรับการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน การฝึกอบรมบุคลากร หรือการขอใบรับรองมาตรฐานในระดับสากลเพื่อกระตุ้นให้โรงแรมไทยหันมาลงทุนด้านความยั่งยืนมากขึ้น
ความท้าทายและโอกาสโรวแรมไทยก้าวสู่ความยั่งยืน
- การสนับสนุนจากผู้บริโภคและตลาด: การรับรู้และความตระหนักของนักท่องเที่ยวต่อความยั่งยืนกำลังเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากยุโรปที่มีความคาดหวังในเรื่องการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากที่พักของพวกเขา ดังนั้น โรงแรมไทยอาจจะต้องเน้นการสื่อสารและทำการตลาดที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามด้านความยั่งยืน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญกับปัจจัยนี้
- การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน: การสร้างมาตรฐานและกรอบการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ, อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน จะช่วยให้การเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การพัฒนาระบบการรับรองความยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมถึงการจัดทำแนวทางและเครื่องมือที่ช่วยให้โรงแรมสามารถประเมินและปรับปรุงการดำเนินการด้านความยั่งยืนได้อย่างมีระบบ
- การศึกษาและฝึกอบรมด้านความยั่งยืน: โรงแรมไทยควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องของการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการส่งเสริมความยั่งยืน เพื่อให้มีความรู้และทักษะในการดำเนินงานอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมุ่งมั่นในการปรับปรุงแนวทางการดำเนินธุรกิจและการประเมินผลอย่างมีประสิทธิภาพ
- เทคโนโลยีและนวัตกรรม: การนำเทคโนโลยีที่ช่วยในการประหยัดพลังงาน, ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการทรัพยากร เช่น ระบบพลังงานทดแทน หรือเทคโนโลยีการจัดการน้ำและขยะ สามารถเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยให้โรงแรมไทยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความยั่งยืนในระยะยาว
- การส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน: นอกจากการพัฒนาโรงแรมให้ยั่งยืนแล้ว ควรมีการส่งเสริมแนวทางการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนในภาพรวม โดยการร่วมมือกับธุรกิจท่องเที่ยวและชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวที่ไม่เพียงแต่ให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ แต่ยังคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมและพัฒนาชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
การเสริมประเด็นเหล่านี้จะช่วยให้โรงแรมไทยสามารถเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
https://www.scbeic.com/th/detail/product/green-hotel-170125https://www.bot.or.th/content/dam/bot/documents/th/our-roles/monetary-policy/mpc-publication/monetary-policy-report/mpr-box/MPR_2567_Q2_BOX1.pdf