5 โซลูชัน ปรับธุรกิจสู่ความยั่งยืน ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ สอดรับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ

5 โซลูชัน ปรับธุรกิจสู่ความยั่งยืน ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ สอดรับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ

5 โซลูชันที่ช่วยธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ข้อกำหนด พลังงานสะอาด จากระบบพลังงานแสงอาทิตย์ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า และการจัดการน้ำ ที่กลายเป็นโซลูชันสำคัญในระยะยาวสำหรับธุรกิจคู่โลก 

 

 

ธุรกิจในปัจจุบันจำเป็นต้องปรับตัวด้านความยั่งยืนเนื่องจากความกดดันจากปัญหาสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงขึ้น เช่น ภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิต หลายองค์กรระดับโลก เช่น UN เรียกร้องให้ลดคาร์บอนและปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้ภาคธุรกิจต้องพิจารณาแนวทางที่ยั่งยืนเพื่อรักษาสมดุลระหว่างผลกำไรและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ยิ่งไปกว่านั้น มาตรการและกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น เป้าหมายใช้พลังงานหมุนเวียน 100%  

CBAM มาตรการภาษีคาร์บอนสำหรับสินค้านำเข้าในสหภาพยุโรป และพรบ.โลกร้อน กฎหมายใหม่ของไทยที่กำลังจะบังคับใช้  เป็นฉนวนผลักดันให้ธุรกิจต้องเร่งหาทางออกผ่านโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนและลดผลกระทบเชิงลบ 

 

 

 

 

-บทบาทใหม่ สร้างอนาคตประเทศไทยด้วยนิคมอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี 

จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า WHA Group วางเป้าหมายทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่การเป็น “Tech & Sustainable Company” โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในนิคมอุตสาหกรรมกว่า 12 แห่งในไทย และอีกหลายโครงการในเวียดนาม การดำเนินงานครอบคลุมตั้งแต่พลังงานสะอาด การพัฒนาระบบโลจิสติกส์สีเขียว ไปจนถึงการเปิดตัว โมบิลลิกส์ บริการกรีนโลจิสติกส์ครบวงจรที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม WHA Group ยังมีบทบาทสำคัญในการดึงดูดการลงทุน โดยสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 1.6 ล้านล้านบาท พร้อมสร้างงานกว่า 400,000 ตำแหน่ง  

“นิคมอุตสาหกรรมยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการผลิต แม้โลกจะก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล แต่ทุกธุรกิจยังต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการผลิตที่มีประสิทธิภาพ” จรีพร กล่าวพร้อมเน้นย้ำถึงบทบาทของนิคมอุตสาหกรรมในฐานะโครงสร้างสำคัญของเศรษฐกิจไทย  

 

 

 

 

-เปิดบ้านสร้างโอกาส สู่อนาคตแห่งความยั่งยืน

ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานกรรมการ WHA Group กล่าวในพิธีเปิดงาน Open House ว่าโลกกำลังอยู่ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ท่ามกลางความท้าทายจากโควิด-19 ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการปฏิวัติดิจิทัลที่นำโดย AI สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงสร้างความไม่แน่นอน แต่ยังพลิกโฉมธุรกิจและวิถีชีวิต WHA ตระหนักถึงกระแสดังกล่าวและปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงาน จากการมุ่งเน้นผลกำไร มาเป็นการสร้างความยั่งยืนและคุณค่าให้กับสังคม

ในงาน Open House ครั้งนี้ WHA มุ่งส่งเสริมความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ โดยแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ พร้อมแสดงความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน  

งานจัดแสดงจาก WHA Group เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงาน สำรวจ ค้นหา และ สร้างอนาคตอย่างยั่งยืน ผ่านนิทรรศการ 5 โซนหลักที่นำเสนอวิสัยทัศน์และการดำเนินธุรกิจที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนและเทคโนโลยี 

 

 

 

 

-เปลี่ยนผ่านเพื่อคุณค่า จากกำไรสู่ความยั่งยืน 

ดร.สมคิด ย้ำว่า เป้าหมายใหม่ของ WHA ไม่ได้อยู่ที่ผลประโยชน์ระยะสั้น แต่เป็นการสร้างระบบนิเวศธุรกิจที่ส่งเสริมการพัฒนาชุมชนและสังคมในระยะยาว พร้อมเดินหน้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ งานนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ทุกฝ่ายจะได้ร่วมกันกำหนดทิศทางใหม่ เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนร่วมกัน  ผ่าน 5 โซลูชันเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืน ได้แก่

  1. Solar Power  

กานให้บริการติดตั้งและบำรุงรักษาโซลาร์พลังงานแสงอาทิตย์ครบวงจร ทั้งบนหลังคาและพื้นที่ว่าง เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงานอย่างยั่งยืน  

  1. EV Charging Station

โซลูชันสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับองค์กร โดย WHAUP เป็นผู้ลงทุนให้ทั้งหมด รองรับการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  

  1. Renewable Energy Certificate (REC) 

บริการออกใบรับรองพลังงานหมุนเวียน ช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการใช้พลังงานสะอาดและตอบโจทย์มาตรฐานระดับสากล  

  1. Constructed Wetlands  

ระบบบำบัดน้ำเสียด้วยพืชธรรมชาติ ช่วยกรองและกำจัดของเสีย ลดการใช้งบประมาณและทรัพยากรในการบำบัด  

  1. Reverse Osmosis  

ระบบหมุนเวียนน้ำใช้แล้วให้กลับมาใช้งานใหม่ ลดการใช้น้ำจากธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ  

 

 

 

 

– ชูธงนิคมอุตสาหกรรมยั่งยืน ตอบโจทย์สิ่งแวดล้อมและชุมชน

เน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน พร้อมตั้งเป้าสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 ผ่านการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน (Circular Economy) และการลดการใช้ทรัพยากรในกระบวนการผลิต

การนำโซลูชันเหล่านี้มาใช้ ไม่ได้เป็นเพียงการปรับตัวตามกระแส แต่เป็นการลงทุนที่ลดต้นทุนในระยะยาว เช่น การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ช่วยลดค่าไฟฟ้า การใช้ระบบ Reverse Osmosis เพื่อนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ ช่วยลดค่าใช้จ่ายและทรัพยากร  

เมื่อธุรกิจสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและบริหารทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้กับองค์กรแล้ว ยังช่วยสนับสนุนชุมชนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สร้างสมดุลให้กับโลกในระยะยาว  

 

 

-พัฒนาระบบนิเวศธุรกิจ พร้อมดันไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนระดับโลก  

นอกจากการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานในประเทศแล้ว WHA Group ยังสนับสนุนโครงการพลังงานหมุนเวียนและดิจิทัลโซลูชัน เช่น การร่วมมือกับ Google ในการสร้าง Data Center และ Cloud Services ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อยกระดับไทยให้เป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาค จรีพรย้ำว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจ พร้อมทั้งผลักดันให้ประเทศไทยเป็น “The World’s Best Investment Destination” สำหรับนักลงทุนทั่วโลก