ท็อปส์ เดินหน้ายกระดับแผนความยั่งยืน เปิดแคมเปญรณรงค์ “Food Hero, Taste not Waste” ชวนคนไทยเป็นฮีโร่ ลด Food Waste ด้วยการเปลี่ยนมุมมองใหม่ในการซื้อสินค้าใกล้หมดอายุ แต่ยังคุณภาพดี ในราคามีส่วนลด ตั้งเป้าลดปริมาณขยะอาหาร 30% ภายในปี 2573
‘ขยะอาหาร’ (Food Waste) เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โลกร้อน เนื่องจากอาหารเหล่านี้เมื่อกลายเป็นขยะ เกิดการย่อยสลายจะเกิดก๊าซมีเทน หนึ่งในก๊าซเรือนกระจกตัวการทำให้โลกร้อน
ขณะที่ปัญหาขยะอาหาร ยังเป็นปัญหาท้าทายโลกจากปริมาณขยะมหาศาล ตามรายงานจาก Food Waste Index 2024 ของ UNEP (United Nation Environment Programme – โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ) พบว่า ในปี 2565 ทั่วโลกมีขยะอาหารสูงถึง 1.05 พันล้านตัน ในจำนวนนี้มีแหล่งกำเนิดมาจากการบริโภค กว่า 60% และสัดส่วน 12% จากกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน สัดส่วน 8-10% เมื่อเทียบกับกิจกรรมอื่นๆที่ทำให้โลกร้อนของทั้งโลก
ในขณะที่ประเทศไทยยังคงเผชิญกับปริมาณขยะอาหารที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งมีปริมาณถึง 9.68 ล้านตันต่อปี
ดังนั้นการช่วยกันลดขยะอาหาร กันคนละไม้ละมือ ด้วยการบริโภคอาหารให้หมด ตักแต่พอดีความต้องการบริโภค ไม่เหลือทิ้ง รวมถึงการซื้อสินค้าอาหารที่ใกล้หมดอายุแต่คุณภาพดี จึงเป็นเรื่องง่ายๆที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมลดโลกร้อนได้
นอกจากการตระหนักของผู้บริโภคแล้ว ในส่วนของธุรกิจค้าปลีก ยังมีส่วนลดขยะอาหารได้เช่นกัน ด้วยการบริหารจัดการสต็อกสินค้าอาหารให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า โดยจำเป็นต้องเก็บข้อมูลลูกค้าเชิงลึกถึงความต้องการดังกล่าว เพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินการ เนื่องจากขยะอาหารยังมาในรูปของอาหารหมดอายุ หรือใกล้หมดอายุแต่ยังมีคุณภาพดี ที่ต้องเร่งระบายออกจากสต็อกก่อนจะกลายเป็นขยะอาหาร ทำให้โลกร้อน
–ผู้บริโภคเป็นฮีโร่ ซื้อสินค้าใกล้หมดอายุ ในราคาถูกลง
ทั้งนี้เพื่อร่วมกันลดขยะอาหาร ไปพร้อมกับการบริหารจัดการต้นทุนจาก อาหารใกล้หมดอายุ “ท็อปส์’ หนึ่งในผู้นำเชนซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทย ภายใต้เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทลำ กรุ๊ป ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ได้จัดแคมเปญรณรงค์ “Food Hero, Taste not Waste” ชวนผู้บริโภคเป็นฮีโร่ ร่วมลด Food Waste ด้วยการเปลี่ยนมุมมองใหม่ในการซื้อสินค้า ที่ใกล้หมดอายุ แต่ยังคงคุณภาพดี ในราคาลดพิเศษ เพื่อลดการเหลือทิ้งสินค้าใกล้หมดอายุโดยเปล่าประโยชน์
-ตั้งเป้าลดขยะอาหาร 30% ภายในปี 2573
สเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า ท็อปส์ ได้ดำเนินธุรกิจสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติภายใต้เจตนารมณ์ Green & Sustainable Retail & Wholesale ของเซ็นทรัล รีเทล ด้วยคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน จึงได้เดินหน้าในแคมเปญดังกล่าว เพื่อรณรงค์และสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคเป็นเสมือนฮีโร่ที่ร่วมกันหันมาตระหนักและเห็นคุณค่าของอาหาร รวมถึงมุมมองที่มีต่อสินค้าลดราคาป้ายเหลือง หรือสินค้าที่ใกล้หมดอายุ ว่าเป็นสินค้าที่ยังคงคุณภาพและมีรสชาติที่ดี สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัยเหมือนสินค้าปกติ
“การที่ทุกคนช่วยกันซื้อสินค้าลดราคาป้ายเหลือง นอกจากจะได้สินค้าที่ราคาถูกกว่าปกติ คุณภาพดีแล้ว ยังเท่ากับได้ช่วยลด Food Waste เราจึงเปรียบคนเหล่านี้ว่าเสมือนเป็น Food Hero อันเป็นที่มาของชื่อแคมเปญนี้ โดยวางเป้าหมายให้แคมเปญดังกล่าวได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดขยะปริมาณอาหารลง 30% ภายในปี 2573”
-ลดราคาอาหารและวัตถุดิบใกล้หมดอายุ
โดยแคมเปญดังกล่าว วางเป้าหมายลดปริมาณอาหารส่วนเกินจากการจำหน่าย ด้วยการลดราคาสินค้าอาหารและวัตถุดิบสูงสุด 30-50% ที่ใกล้หมดอายุแต่ยังคงสภาพและรสชาติที่ดี ได้แก่ เบเกอรี่ เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์จากนม ผักและผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารสำเร็จรูป ขนม เป็นต้น วางจำหน่ายอยู่ในโซนสินค้าโดยเฉพาะ โดยเมื่อซื้อสินค้าที่ “ติดสติกเกอร์ ลดราคาป้ายเหลือง” สมาชิก The1 รับคะแนนสะสมพิเศษ X2 ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2567
นอกจากนี้ เพื่อสร้างการรับรู้และส่งต่อแนวคิดของการเป็น Food Hero ในวงกว้าง ท็อปส์จึงนำอินไซต์ของผู้บริโภคที่มีต่อซื้อการสินค้าป้ายเหลือง มาสร้างเป็นโฆษณาออนไลน์ชุด “Tops Food Hero” ความยาว 1.55 นาที นำเสนอเรื่องราวของคู่สามีภรรยาที่กำลังจะตัดสินใจเลือกซื้อสตอเบอร์รี่ที่กำลังจะหมดอายุ พร้อมสอดแทรกข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสินค้าลดราคา เพื่อส่งต่อและถ่ายทอดมุมมองใหม่ที่มีต่อสินค้า และสร้างแรงบันดาลใจในการเป็น Food Hero ให้กับผู้ชมดังกล่าว
-มุ่งลดการปล่อยการก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
ทั้งนี้แคมเปญ “Food Hero, Taste not Waste” ยังเป็นหนึ่งในแผนงาน 12 Journeys to Net Zero เพื่อเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายใต้โครงการ Small Act Together ซึ่งเป็นกลยุทธ์การขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนของท็อปส์ รวมถึงสอดคล้องกับกลยุทธ์ “ReNEW” ของเซ็นทรัล รีเทล ที่มุ่งสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงสะท้อนปรัชญาในการดำเนินธุรกิจ “CRC Care”
“ท็อปส์ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจพร้อมสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ซึ่งการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวเราไม่สามารถดำเนินการได้เพียงลำพังแต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากพันธมิตรในทุกภาคส่วน โดยเราเชื่อในพลังฮีโร่ที่อยู่ในตัวของลูกค้าทุกคนว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่ช่วยกอบกู้โลกใบนี้จากสถานการณ์ขยะอาหารล้นโลกที่กำลังเผชิญ เพื่อส่งต่อโลกที่น่าอยู่ขึ้นและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนในเจเนอเรชันถัดไป” นายสเตฟาน คูม กล่าวทิ้งท้าย