ส.อ.ท. เผย10 เดือน ยอดขายรถยนต์สันดาปภายใน ลดลง 36.65% เทียบเดือนเดียวกันปีที่แล้ว สวนทางรถยนต์ไฮบริด

ส.อ.ท. เผย10 เดือน ยอดขายรถยนต์สันดาปภายใน ลดลง 36.65% เทียบเดือนเดียวกันปีที่แล้ว สวนทางรถยนต์ไฮบริด

กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. เผยยอดขายรถยนต์ 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.2567) รถยนต์สันดาปภายใน ยอดขายลดลง 36.65% เทียบเดือนเดียวกันปีที่แล้ว สวนทางรถยนต์ไฮบริด HEV กระแสดี ยอดขายเพิ่มขึ้น 39.56%

 

 

ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวเปราะบาง ทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ส่งผลกระทบต่อยอดผลิตและยอดขายรถยนต์ในเดือนตุลาคม 2567  

โดยยอดผลิตรถยนต์อยู่ที่ 118,842 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 สัดส่วน 25.13 %  ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศอยู่ที่ 37,691 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2567 สัดส่วน 36.08% ต่ำสุดในรอบ 54 เดือน 

ล่าสุดสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้ปรับประมาณการณ์ยอดผลิตรถยนต์ในปี 2567 ลงอีกครั้ง โดยปรับยอดผลิตรถยนต์ลดลง 200,000 คัน (จาก 1,700,000 คันเป็น 1,500,000 คัน)  ในจำนวนนี้ ประกอบด้วยการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ลดลง 100,000 คัน (จาก 550,000 คัน เป็น 450,000 คัน) และการผลิตเพื่อส่งออกลดลง 100,000 คัน (จาก 1,150,000 คัน เป็น 1,050,000 คัน) 

ตัวเลขการผลิต ยอดขายรถยนต์ในประเทศ นอกจากจะสะท้อนการปัญหาเศรษฐกิจในประเทศแล้ว เริ่มเห็นสัญญาณ ‘การเปลี่ยนผ่านของยอดขายรถยนต์’ จากเชื้อเพลิงฟอสซิล (เครื่องยนต์สันดาปภายใน -ICE) ไปเป็นเชื้อเพลิงผสม (Hybrid) ในช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.) ของปี 2567 

โดยพบว่า รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าจ่ายไฟโดยแบตเตอรี่เพื่อขับเคลื่อนรถยนต์ (HEV-Hybrid Eletric Vehicle)  มียอดขายในช่วง 10 เดือนอยู่ที่ 97,048 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 39.56% เมื่อเทียบกับยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 129,440 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว สัดส่วน 36.65 % 

ขณะที่ยอดขายเฉพาะเดือนต.ค. 2567 ในส่วนของรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทำงานร่วมกับเครื่องยนต์สันดาปภายใน (PHEV – Plug in Hybrid Electric Vehicle) 227 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 187.34% ขณะที่รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 11,562 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 27.80 %

 

 

 

 

-ภาพรวมยอดขายรถยนต์ในประเทศ ต.ค. ต่ำสุดรอบ 54 เดือน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์  ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนตุลาคม 2567 ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 37,691 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2567 สัดส่วน 36.08% ต่ำสุดในรอบ 54 เดือนนับตั้งแต่ยกเลิกล๊อคดาวน์จากการระบาดโรคหวัด 19 เดือนพฤษภาคม 2563 

 

 

-แบงก์เข้มปล่อยสินเชื่อรถยนต์ ฉุดยอดขายลดฮวบ

โดยยอดขายรถยนต์ที่ลดลงดังกล่าว สาเหตุหลักเกิดจากการเข้มงวดในการให้กู้ซื้อรถยนต์ของสถาบันการเงินเป็นหลัก ส่งผลให้จำนวนบัญชีผู้กู้ซื้อรถยนต์ในไตรมาสสามมี 6,365,571 บัญชีลดลงจากไตรมาสสอง 75,377 บัญชีเท่ากับ 1.2% และลดลงจากไตรมาสสามปี 2566 จำนวน 199,655 บัญชีหรือเท่ากับ  3.0 % 

 

 

-หนี้รถยนต์ไตรมาส 3 ลดลงจากไตรมาส 2 สัดส่วน 2.8% 

จำนวนเงินหนี้รถยนต์ไตรมาสสาม 2,465,204 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสสอง  2.8% และลดลง 5.8 % จากไตรมาสสามปี 2566 รถบรรทุกลดลงจากเศรษฐกิจของประเทศที่ยังอ่อนแอเติบโตในอัตราต่ำและหนี้ครัวเรือนสูง ดัชนีภาคอุตสาหกรรมขยายตัวต่ำที่ 0.1 % ในไตรมาสสาม 

โดยรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 21,814 คัน เท่ากับ 57.67 % ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 33.21 % แบ่งเป็น 

 

 

 

 

-รถยนต์สันดาปยอดขายต.ค. ลดลง 27.80%

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 11,562 คัน เท่ากับ 30.68% ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 27.80 %

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า ประเภทแบตเตอรี่ (BEV – Battery Electric Vehicle)  3,717 คัน เท่ากับ 9.86 % ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 49.73 %

 

 

 

 

-‘ปลั๊กอินไฮบริด’ ยอดขาย ต.ค. 227 คัน 

เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 187.34%

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทำงานร่วมกับเครื่องยนต์สันดาปภายใน (PHEV – Plug in Hybrid Electric Vehicle) 227 คัน เท่ากับ 0.60 % ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 187.34%

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าจ่ายไฟโดยแบตเตอรี่เพื่อขับเคลื่อนรถยนต์ (HEV-Hybrid Eletric Vehicle) 6,308 คัน เท่ากับ 16.74% ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 31.23 %

 

 

-ยอดขายรถกะบะ ต.ค. ลดลง 41.65% 

จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว

รถกระบะมีจำนวน 10,896 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 41.65% รถ PPV มีจำนวน 2,451 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว43.33% รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 1,270 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 33.02% และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,260 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 10.57 %

 

 

-ยอดขายมอเตอร์ไซด์ ต.ค. กระเตื้องจากก.ย. 18.86%

ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 140,113 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2567  สัดส่วน 18.86 % และเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2566 สัดส่วน 3.80%

 

 

-10 เดือน ยอดขายรถยนต์ลดลง 26.24%

ทั้งนี้หากประเมินตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 (10เดือน) พบว่า รถยนต์มียอดขาย 476,350 คัน ลดลงจากปี 2566 ในระยะเวลาเดียวกัน 26.24 % แยกเป็น

-รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 284,304 คันเท่ากับ 59.84 % ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 12.22 % ประกอบด้วย

 

 

รถยนต์สันดาปภายใน  10 เดือน

ยอดขายลดลง 36.65% เทียบเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 129,440 คัน เท่ากับ 27.17 % ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว สัดส่วน 36.65 %

รถยนต์นั่งแหละรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 55,936 คัน เท่ากับ 11.74% ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ 0.33 %

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 1,880 คัน เท่ากับ 0.39 % ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 8.17 %

 

 

 

 

-10 เดือนยอดขายรถ HEV อยู่ที่ 97,048 คัน

เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 39.56%

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 97,048 คัน เท่ากับ 20.37 % ของยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 39.56%

 

 

-10 เดือนยอดขายรถกระบะ ลดลง 39.54%

จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว 

รถกระบะมีจำนวน 137,456 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 39.54% รถ PPV มีจำนวน     29,395 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 42.98 % รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 13,582 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 38.83 % และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 11,613 คัน ลดลงจากเดือนช่วงกันในปีที่แล้ว  10.87 %

 

 

-10 เดือนมอเตอร์ไซด์ ยอดขายลดลง 10.09%

ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,421,824 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 สัดส่วน 10.09 % แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ ICE จำนวน 1,421,624 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกัน 10.04 % รถจักรยานยนต์ BEV จำนวน 200 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกัน 9.09 %

 

-ยอดผลิตรถยนต์เพื่อขายในประเทศ ต.ค.ลดฮวบ 51.70%
ฉุดยอดผลิตรถยนต์ภาพรวม ต.ค. ลดลง 25.13% 
ด้านจำนวนการผลิตรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนต.ค. 2567 พบว่า มีทั้งสิ้น 118,842 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 สัดส่วน 25.13 % และลดลงจากเดือนกันยายน 2567 สัดส่วน 2.81% เพราะผลิตเพื่อส่งออกลดลง 7.00% และผลิตเพื่อขายในประเทศลดลง 51.70 %

 

-10 เดือนผลิตรถยนต์ลดลง 19.28%
โดยจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 (10 เดือน) มีจำนวนทั้งสิ้น 1,246,868 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 สัดส่วน  19.28 %  แบ่งเป็น 

 

-ลดเป้าผลิตรถยนต์ปี 2567 ลง 2 แสนคัน แบ่งเป็น
ยอดผลิตขายในประเทศ 1 แสนคัน ยอดผลิตส่งออก 1 แสนคัน
จากสถานการณ์ยอดผลิตรถยนต์ในเดือนต.ค.2567 ที่ปรับตัวลดลง ทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ต้องประมาณการการผลิตรถยนต์ของสมาชิกกลุ่มฯ ในปี พ.ศ. 2567 ใหม่ โดย ปรับเป้าผลิตรถยนต์ปี 2567 จาก 1,700,000 คันเป็น 1,500,000 คัน ลดลง 200,000 คัน โดยปรับการผลิตขายในประเทศลดลงจาก 550,000 คันเป็น 450,000 คัน และการผลิตเพื่อส่งออกลดลงจาก 1,150,000 คัน เป็น 1,050,000 คัน