‘BLC’ หรือ บมจ. บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค รับปัจจัยบวกจากนโยบายกระทรวงสาธารณสุข เพิ่มรายการยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพรรวม 106 รายการ เร่งพัฒนานวัตกรรมสมุนไพร ด้วยเทคโนโลยีมาตรฐานเดียวกับยาแผนปัจจุบัน
ประเทศไทยเมืองเกษตรกรรม ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ นับเป็นโอกาสในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio – Economy) หรือเศรษฐกิจบนฐานเกษตรนวัตกรรม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร ด้วยต้นทุนที่แข่งขันได้ ทว่าที่ผ่านมาปัญหาสำคัญอยู่ที่ ‘การวิจัยและพัฒนา’ นวัตกรรม เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายนั้น
โดยพืชผลทางการเกษตรไทยที่โดดเด่น คือ ‘สมุนไพรไทย’ ที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชน พยายามจะนำนวัตกรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยเฉพาะ การผลิตเป็นยาสมุนไพร รักษาผู้คนเทียบเคียงกับยาแผนปัจจุบัน ลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศ ด้วยราคายาที่จับต้องได้ ทำให้ผู้คนเข้าถึงยา ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมในที่สุด
สธ.เพิ่มยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ
ด้านสมุนไพรรวม 106 รายการ
ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศเพิ่มรายการยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพรรวม 106 รายการ เพิ่มการเข้าถึงยานวัตกรรมสมุนไพร จึงนับว่ามีส่วนเคลื่อนการเติบโตอุตสาหกรรมยาของไทยให้ยั่งยืน ส่งผลดีต่อผู้ประกอบธุรกิจยาสมุนไพรและธุรกิจที่เกี่ยวข้องในไทย รวมถึงการเข้าถึงยาของคนไทย
เภสัชกร สุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC ผู้ผลิตและจำหน่ายยาแผนปัจจุบัน ยาสมุนไพร เปิดเผยว่า การที่กระทรวงสาธารณสุขเพิ่มรายการยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพรรวม 106 รายการ โดยยาดังกล่าว สามารถเบิกจ่ายจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แบบ Fee Schedule พร้อมปรับระบบบริการผู้ป่วยนอก (OPD) ให้เอื้อต่อการสั่งจ่ายยาของแพทย์ ถือเป็นการส่งเสริมการใช้ยาจากสมุนไพร 32 รายการ ใน 10 กลุ่มอาการของโรคที่พบบ่อย
ได้แก่ กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและปวดข้อ, ไข้หวัด/โควิด-19, ท้องอืด ท้องเฟ้อ, ท้องผูก/ริดสีดวงทวารหนัก, วิงเวียน/คลื่นไส้ อาเจียน, ชาจากอัมพฤกษ์-อัมพาต, ผิวหนัง/แผล, นอนไม่หลับ, ท้องเสีย (ไม่ติดเชื้อ), เบื่ออาหาร
เร่งพัฒนานวัตกรรมสมุนไพร
มาตรฐานเดียวกับยาแผนปัจจุบัน
จากนโยบายดังกล่าว ทำให้บริษัทฯได้รับปัจจัยบวกในกกรดำเนินธุรกิจยา ที่มุ่งลดการนำเข้ายา สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เร่งพัฒนานวัตกรรมสมุนไพร ด้วยเทคโนโลยีผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานเดียวกับยาแผนปัจจุบัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพสูงสุด
“บริษัทฯ ได้พัฒนานวัตกรรมสมุนไพร เพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ และสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสมุนไพรจากไพล พริก กระชายดำ ว่านหางจระเข้ และใบบัวบก ด้วยกระบวนการผลิตมาตรฐานเดียวกันกับยาแผนปัจจุบัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้นำผลิตภัณฑ์สมุนไพรนวัตกรรมจากไพล เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร ทำให้ใช้สวัสดิการประกันสุขภาพของรัฐบาลเบิกจ่ายได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงยาของผู้ป่วย และสนับสนุนยอดขายให้เติบโตขึ้น” เภสัชกร สุวิทย์ กล่าว
มูลค่าการใช้ยาในสถานบริการสาธารณสุขรัฐปีงบฯ67
พบมาจากยาสมุนไพร 1,560 ล้านบาท สัดส่วนเพียง 2.21%
ทั้งนี้ จากรายงานภาพรวมมูลค่าการใช้ยาในสถานบริการสาธารณสุขของรัฐในปีงบประมาณ 2567 มีมูลค่ารวม 70,542 ล้านบาท เป็นยาแผนปัจจุบัน 68,983 ล้านบาท คิดเป็น 97.79 % และยาจากสมุนไพร 1,560 ล้านบาท คิดเป็น 2.21 % โดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการใช้ยาจากสมุนไพรเป็น 1,500 ล้านบาท ภายในปี 2568 และเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้านบาท ในปี 2569
“BLC มั่นใจว่าการเพิ่มรายการยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงยาจากสมุนไพรที่มีคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และผลักดันให้ยาจากสมุนไพรไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล” เภสัชกร สุวิทย์ กล่าว