“Wildlife Bonds” การปฏิวัติการลงทุนยั่งยืนเพื่อสัตว์ป่าแอฟริกา พร้อมผลตอบแทน 1,500 ล้านดอลลาร์

“Wildlife Bonds” การปฏิวัติการลงทุนยั่งยืนเพื่อสัตว์ป่าแอฟริกา พร้อมผลตอบแทน 1,500 ล้านดอลลาร์

การลงทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ Wildlife Conservation Bonds (WCB) หรือ พันธบัตรอนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังเปลี่ยนแปลงกติกาของโลกการเงินอย่างไม่เคยมีมาก่อน Global Environment Facility (GEF) องค์กรระดมทุนสิ่งแวดล้อมที่เก่าแก่ที่สุดของโลก ได้ประกาศแผนการขยาย Wildlife Bonds ให้ครอบคลุมทั้ง 54 ประเทศในแอฟริกา พร้อมเป้าหมายระดมเงินลงทุนรวม 1,500 ล้านดอลลาร์

Wildlife Bonds คืออะไร? ทำความเข้าใจกลไกการลงทุนเพื่อธรรมชาติ

นิยามและหลักการทำงาน

Wildlife Bonds เป็นรูปแบบของ Green Finance ที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่า โดยมีลักษณะเฉพาะคือ:

  • ไม่จ่ายดอกเบี้ยแบบดั้งเดิม แต่จ่ายผลตอบแทนตามผลสำเร็จด้านการอนุรักษ์
  • วัดผลจากข้อมูลจริง เช่น จำนวนประชากรสัตว์ป่า การลดลงของการลักลอบล่า
  • ผู้ลงทุนได้รับทั้งผลตอบแทนทางการเงินและผลกระทบเชิงสังคม

ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ: Rhino Bond 2022

Rhino Bond ที่ออกในปี 2022 มูลค่า 150 ล้านดอลลาร์ เป็นต้นแบบที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า Wildlife Bonds ทำงานได้จริง โดย:

  • ระยะเวลา 5 ปี
  • เป้าหมายเพิ่มจำนวนแรดดำในแอฟริกาใต้
  • ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับอัตราการเกิดและการรอดชีวิตของแรด

 

แผนขยายสู่ทั้งแอฟริกา: เป้าหมาย 54 ประเทศ

ขอบเขตโครงการ

Fred Boltz หัวหน้าโปรแกรมของ GEF ได้ยืนยันแผนการขยาย Wildlife Bonds ให้ครอบคลุม:

  • ทุกประเทศในแอฟริกา (54 ประเทศ)
  • เงินลงทุนเริ่มต้น 150 ล้านดอลลาร์ จาก GEF
  • เป้าหมายระดมเงินทุนรวม 1,500 ล้านดอลลาร์
  • ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปีข้างหน้า เริ่มปี 2025

สัตว์ป่าเป้าหมาย

โครงการจะมุ่งเน้นการอนุรักษ์:

  • ช้างแอฟริกา (African Elephants)
  • แรดดำและแรดขาว (Black and White Rhinoceros)
  • ลิงชิมแปนซี (Chimpanzees)
  • สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์อื่นๆ ในแอฟริกา

ผลกระทบต่อ ESG และการลงทุนยั่งยืน

การเชื่อมโยงกับ Sustainable Development Goals (SDGs)

Wildlife Bonds สนับสนุน SDGs หลายเป้าหมาย:

  • Goal 14 & 15: ความหลากหลายทางชีวภาพ
  • Goal 8: การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
  • Goal 17: ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา

นวัตกรรมด้าน Green Finance

โครงการนี้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า:

  • Biodiversity = Business Opportunity
  • ธรรมชาติสามารถสร้างผลตอบแทนที่วัดผลได้
  • Impact Investing สามารถขยายไปสู่ภาคส่วนที่ไม่เคยมีมาก่อน

ความท้าทายและโอกาสของ Wildlife Bonds

ความท้าทาย

  1. การวัดผล: ความยากในการวัด”ผลสำเร็จ”ของการอนุรักษ์
  2. ความเสี่ยง: ปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้
  3. ระยะเวลา: ผลการอนุรักษ์ต้องใช้เวลานานกว่าการลงทุนทั่วไป

โอกาส

  1. ตลาดใหม่: เปิดโอกาสลงทุนในภาคส่วนที่ไม่เคยมีมาก่อน
  2. ผลกระทบแบบทวีคูณ: สร้างประโยชน์ทั้งทางการเงินและสิ่งแวดล้อม
  3. ต้นแบบโลก: สามารถขยายไปยังทวีปอื่น ๆ

 

บทบาทของ World Bank และการรับประกัน AAA

Wildlife Bonds ได้รับการสนับสนุนจาก World Bank ซึ่งให้การรับประกัน AAA rating ทำให้:

  • ลดความเสี่ยงสำหรับผู้ลงทุน
  • เพิ่มความน่าเชื่อถือของตราสาร
  • ดึงดูดเงินทุนจากผู้ลงทุนสถาบันรายใหญ่

อนาคตของการลงทุนเพื่อธรรมชาติ

เทรนด์การเติบโต

ตลาด Finance for Nature กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว:

  • ความต้องการการลงทุนที่มีผลกระทบเพิ่มขึ้น
  • กฎระเบียบESG Disclosureเข้มงวดมากขึ้น
  • ผู้ลงทุนมีความตื่นตัวด้านความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

การขยายไปยังภูมิภาคอื่น

หลังจากแอฟริกา คาดว่า Wildlife Bonds จะขยายไปสู่:

  • เอเชียตะวันออกเฉียงใต้: เสือ ช้างเอเชีย
  • อเมริกาใต้: จากัวร์ มดแปลงยักษ์
  • ขั้วโลกเหนือ: หมีขาว วาฬ

สรุป: จุดเปลี่ยนของโลกการเงิน

Wildlife Bonds แสดงให้เห็นว่าตลาดทุนโลกพร้อมที่จะ**”ลงทุนกับธรรมชาติ”อย่างจริงจัง การขยายโครงการไปทั่วแอฟริกาถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ**ที่จะเปิดประตูสู่รูปแบบการลงทุนใหม่ที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน

เมื่อเงินทุน 1,500 ล้านดอลลาร์เริ่มหมุนเวียนเพื่อช้าง แรด และสัตว์ป่าแอฟริกา เราจะได้เห็นว่าการเงินเพื่อธรรมชาติจะเปลี่ยนแปลงโลกได้มากแค่ไหน

 

 

📖 อ่านเพิ่มเติม:
Reuters – Wildlife Bonds เพื่อสัตว์ป่าแอฟริกา

 

📖 อ่านข่าวอื่น ๆ เพิ่มเติม: