Unlock Authentic Leadership Potential ค้นพบวิธีปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของคุณในฐานะผู้นำ ด้วยการเชื่อมโยงความจริงใจและความสร้างสรรค์ สร้างแรงบันดาลใจให้ทีมและองค์กรก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
โดย อาจารย์กฤษณ์ รุยาพร
Co-Founder IDGs Asia Pacific Innovation Center -Leadership Hub Thailand CEO University of Happiness
ผู้แต่งหนังสือขายดี :
ศาสตร์ผู้นำสู่ความยั่งยืน, เหนือกว่ากำไร,
Well-Being Leader, DNA Of Leadership Happiness
Unlock Authentic Leadership Potential in becoming Creator
การที่ผู้นำไม่สามารถปลดล็อกศักยภาพความเป็นผู้นำที่แท้จริง ออกมาได้ อาจมีสาเหตุหลายประการ ซึ่งเกิดจากทั้งปัจจัยภายในตัวผู้นำเองและจากสภาพแวดล้อมที่พวกเขาทำงานอยู่ นี่คือบางสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้นำไม่สามารถเปิดศักยภาพความเป็นผู้นำที่แท้จริงได้:
1. ความกลัวต่อความล้มเหลวหรือการถูกตัดสิน
ความกลัวนี้ทำให้ผู้นำไม่สามารถแสดงความเป็นตัวเองได้เต็มที่ พวกเขาอาจรู้สึกว่าต้อง “ใส่หน้ากาก” หรือปฏิบัติตามวิธีการที่เป็นที่ยอมรับแทนการทำตามความเชื่อที่แท้จริง
- ขาดความมั่นใจในตัวเอง
ผู้นำที่ขาดความมั่นใจในตัวเองอาจไม่กล้าที่จะยืนหยัดในค่านิยมหรือวิสัยทัศน์ของตนเอง หรือไม่มั่นใจว่าการแสดงออกในแบบที่เป็นตัวเองจะประสบความสำเร็จ การขาดความมั่นใจทำให้ผู้นำไม่สามารถเปิดเผยความเป็นตัวเองอย่างเต็มที่ และทำให้การตัดสินใจหรือการนำเสนอวิสัยทัศน์ไม่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมได้อย่างแท้จริง
- การขาดการสนับสนุนจากผู้บริหารหรือองค์กร
ถ้าผู้นำไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง หรือสภาพแวดล้อมภายในองค์กรไม่สนับสนุนการแสดงออกอย่างเปิดเผยและจริงใจ ผู้นำก็จะยากที่จะกล้าแสดงออกอย่างแท้จริง องค์กรที่มีวัฒนธรรมการทำงานที่เน้นความปลอดภัยจากการทำตามกฎระเบียบหรือการทำตามแบบแผนที่ยอมรับกันทั่วไปอาจไม่เปิดโอกาสให้ผู้นำได้แสดงความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ผู้นำไม่สามารถแสดงศักยภาพที่แท้จริงออกมาได้
- การถูกจำกัดด้วยบทบาทและค่านิยมทางสังคม
บางครั้งผู้นำอาจถูกจำกัดด้วยบทบาทหรือสภาพแวดล้อมทางสังคมที่คาดหวังให้พวกเขาทำตามแบบแผนที่ได้รับการยอมรับจากสังคม หรือการคาดหวังจากพนักงานหรือผู้ร่วมงาน ความกดดันจากการรักษาภาพลักษณ์ที่คุ้นเคย หรือการต้องทำตามความคาดหวังที่ไม่สอดคล้องกับค่านิยมส่วนตัว อาจทำให้ผู้นำไม่สามารถแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่
- การขาดการสะท้อนหรือการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ผู้นำบางคนอาจไม่ได้รับโอกาสในการสะท้อนความคิดหรือพัฒนาตนเองผ่านการเรียนรู้จากประสบการณ์หรือจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น พวกเขาอาจถูกล้อมกรอบจากการทำงานที่เน้นผลลัพธ์ระยะสั้น การไม่เปิดโอกาสให้ตัวเองเติบโตและเรียนรู้จากประสบการณ์ทำให้ผู้นำไม่สามารถปรับตัวหรือพัฒนาศักยภาพของตนเองได้ และไม่สามารถค้นพบวิธีที่ดีที่สุดในการเป็นผู้นำที่แท้จริงได้
- การขาดความชัดเจนในวิสัยทัศน์และเป้าหมาย
ผู้นำที่ไม่สามารถปลดล็อกศักยภาพตัวเองได้อาจไม่มีวิสัยทัศน์หรือเป้าหมายที่ชัดเจนในการนำทางองค์กร หรือไม่ได้รับการช่วยเหลือในการกำหนดทิศทางที่เหมาะสม การขาดวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนจะทำให้ผู้นำไม่สามารถสร้างความมั่นใจในตัวเองและในทีมได้ และอาจทำให้ทีมไม่มีความชัดเจนในทิศทางขององค์กรหรือการทำงานร่วมกัน
- การมองข้ามความสำคัญของความเป็นมนุษย์ในความเป็นผู้นำ
ผู้นำบางคนอาจให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ทางธุรกิจหรือผลการดำเนินงานมากเกินไป และลืมไปว่าความเป็นมนุษย์ (Humanity) และการเชื่อมโยงกับผู้คนในทีมคือกุญแจสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริง การมองข้ามการใส่ใจในด้านมนุษย์ทำให้ผู้นำไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมได้อย่างแท้จริง
- การพยายามควบคุมทุกอย่าง
ผู้นำบางคนอาจรู้สึกว่าต้องควบคุมทุกด้านของการทำงานเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาตามที่คาดหวัง ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกเครียดและไม่สามารถเปิดเผยหรือเชื่อมต่อกับทีมได้อย่างแท้จริง การไม่สามารถมอบอำนาจให้ทีมได้ทำงานหรือแสดงออกอย่างอิสระจะทำให้ผู้นำไม่สามารถเชื่อมโยงกับทีมอย่างแท้จริง และไม่สามารถนำทีมไปสู่การสร้างสรรค์หรือการพัฒนาได้อย่างเต็มที่
การเป็น Authentic Leader หรือผู้นำที่มีความจริงใจและมีความเป็นตัวของตัวเองในทุกสถานการณ์นั้นเป็นสิ่งสำคัญในการสร้าง “Becoming a Creator” หรือการเป็นผู้สร้างสรรค์ในสมัยนี้ เนื่องจากการสร้างสรรค์ (Creation) ไม่ได้หมายถึงแค่การพัฒนานวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แต่ยังรวมไปถึงการสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงวัฒนธรรม การสร้างความสัมพันธ์ และการพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีในทีมและองค์กร
การ Unlock Authentic Leadership Potential เพื่อเป็น Creator นั้นสามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนที่สำคัญได้ดังนี้:
- รู้จักตัวเองและมีความมั่นคงในค่านิยมส่วนบุคคล
คำถามที่ต้องถาม: คุณเป็นใคร? คุณเชื่ออะไร? ค่านิยมที่สำคัญที่สุดของคุณคืออะไร?
การทำงานกับตัวเอง: เพื่อเป็นผู้นำที่มีความจริงใจ คุณต้องรู้จักตัวเองอย่างลึกซึ้ง ความเชื่อ, ค่านิยม, และจุดแข็งที่ทำให้คุณแตกต่างจากผู้อื่น การทำงานในด้านนี้ช่วยให้คุณสามารถสร้างความมั่นคงและแนวทางที่ชัดเจนในบทบาทของผู้นำได้
การพัฒนา: สร้างความสัมพันธ์ที่ดีจากการที่คุณเป็นตัวของตัวเอง บางครั้งสิ่งที่คุณนำเสนอออกมาอาจไม่ถูกใจทุกคน แต่นั่นคือสิ่งที่ทำให้คุณเป็นผู้นำที่มีความจริงใจและไม่ขอหลีกเลี่ยงจากหลักการของตัวเอง
- เชื่อมโยงภาวะผู้นำกับการสร้างสรรค์ (Creativity)
ความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำกับการสร้างสรรค์: ผู้นำที่เป็นผู้สร้างสรรค์ (Creator) ไม่ได้มองแค่การจัดการงานอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ต้องสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมในทุก ๆ ด้าน พวกเขาต้องสามารถกระตุ้นให้ผู้คนคิดใหม่ ทำใหม่ และมีแนวทางในการทำงานที่ไม่จำกัด
การสนับสนุนการสร้างสรรค์ในทีม: ผู้นำที่ดีต้องทำให้คนในทีมรู้สึกปลอดภัยในการทดลองสิ่งใหม่ ๆ โดยไม่ต้องกลัวความล้มเหลว นอกจากนี้ยังต้องให้โอกาสให้ทีมได้แสดงความคิดสร้างสรรค์และให้พื้นที่ในการพัฒนา
ตัวอย่าง: ผู้นำที่มีความสร้างสรรค์จะใช้วิธีการเชิงรุกในการหาทางแก้ปัญหาหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยไม่ยึดติดกับวิธีเดิมๆ แต่จะหาหนทางใหม่ๆ อยู่เสมอ
- สร้างความไว้วางใจจากการเป็นตัวอย่าง
การสร้างไว้วางใจ: การเป็นผู้นำที่มีความจริงใจ (Authentic) คือการแสดงออกถึงความโปร่งใสและซื่อสัตย์ในทุกการกระทำของคุณ การแสดงความเปิดเผยและยอมรับข้อบกพร่องเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจในทีม
ตัวอย่างที่เป็นแรงบันดาลใจ: หากผู้นำสามารถแสดงให้เห็นถึงการเรียนรู้จากความผิดพลาด และมีความกล้าที่จะยอมรับในสิ่งที่ไม่สมบูรณ์ ทีมก็จะรู้สึกสบายใจและพร้อมที่จะสนับสนุนการสร้างสรรค์ของผู้นำ
การสร้างบรรยากาศที่สร้างสรรค์: ผู้นำต้องเชื่อมั่นในความสามารถของทีมและให้โอกาสให้สมาชิกในทีมได้แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างสรรค์และการคิดอย่างเปิดกว้าง
- การใช้ภาวะผู้นำเพื่อสร้างวิสัยทัศน์และแรงบันดาลใจ
การสร้างวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน: ผู้นำที่แท้จริงจะมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และสามารถสื่อสารให้ทีมเข้าใจถึงทิศทางและเป้าหมายร่วมกัน การสร้างวิสัยทัศน์ที่ดีทำให้ทีมมีทิศทางที่ชัดเจนในการทำงานและรู้ว่าพวกเขากำลังทำสิ่งที่สำคัญ
การสร้างแรงบันดาลใจ: ผู้นำต้องสามารถกระตุ้นทีมให้ไปในทิศทางเดียวกัน และสร้างแรงบันดาลใจให้ทีมมีความกระตือรือร้นในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ พวกเขาต้องทำให้ทุกคนรู้สึกว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นมีความหมายและสำคัญ
ตัวอย่าง: การสร้างวิสัยทัศน์ที่ดึงดูดใจและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง เช่น การมุ่งไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสังคมในทางบวก
- การเป็นผู้นำที่มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัว
ความยืดหยุ่น: ผู้นำที่มีความจริงใจและเป็นผู้สร้างสรรค์ต้องสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ และมีความยืดหยุ่นในการแก้ปัญหาหรือวิธีการใหม่ ๆ ผู้นำที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงและไม่ยึดติดกับวิธีการเดิม ๆ จะสามารถนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้
การเรียนรู้จากความล้มเหลว: ผู้นำที่แท้จริงต้องไม่กลัวที่จะล้มเหลว และใช้ความล้มเหลวเป็นบทเรียนในการปรับปรุงและพัฒนาต่อไป สิ่งนี้สร้างแรงบันดาลใจให้ทีมเห็นว่าความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้และเติบโต
- การสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้และการพัฒนา
การเรียนรู้ต่อเนื่อง: ผู้นำที่มีความจริงใจและเป็นผู้สร้างสรรค์จะต้องมีความใฝ่รู้ และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพื่อที่จะสามารถนำพาทีมไปสู่ความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงหรือการสร้างสรรค์
การส่งเสริมการเรียนรู้ในทีม: การส่งเสริมให้ทีมเรียนรู้และพัฒนาไปพร้อม ๆ กับการทำงานในโครงการต่าง ๆ สามารถช่วยให้ทีมได้แสดงออกถึงศักยภาพในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่มีประโยชน์
On Becoming a Creator
การ Unlock Authentic Leadership Potential คือการเปิดโอกาสให้ตัวเองและผู้อื่นได้แสดงออกถึงความสามารถที่แท้จริงในสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการเรียนรู้และการทดลอง ผู้นำที่สามารถนำวิสัยทัศน์ที่สร้างสรรค์มาใช้ และสามารถสร้างบรรยากาศที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้ จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในองค์กรและสังคมที่ยั่งยืนและมีความหมาย
การ Unlock Authentic Leadership Potential เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลา การทบทวนตัวเอง และการปรับตัวในทุกสถานการณ์อย่างมีสติ การเป็นผู้นำที่แท้จริงไม่ใช่การปฏิบัติตามกรอบหรือคาดหวังจากภายนอก แต่คือการแสดงออกถึงความเป็นตัวเองและการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นจากความเป็นธรรมชาติและความเชื่อมั่นในค่านิยมที่แท้จริง.
