‘ท่องเที่ยวไทย’ ยั่งยืนได้ยุคโลกเดือด ผู้มาเยือน-ชุมชน-โรงแรม เกื้อกูลกัน

‘ท่องเที่ยวไทย’ ยั่งยืนได้ยุคโลกเดือด ผู้มาเยือน-ชุมชน-โรงแรม เกื้อกูลกัน

ท่องเที่ยวไทยปรับตัวสอดคล้องกับแนวคิดความยั่งยืนของโลก ที่พักในไทยก้าวเป็นผู้นำได้ สิ่งสำคัญ ต้องร่วมมือกับชุมชน ส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน เพิ่มประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับนักท่องเที่ยว เชื่อมโยงเข้ากับชุมชน แหล่งทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น  ปลุกเสน่ห์ สร้างจุดขาย เส้นทางกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

 

 

เมื่อเราเดินทางไปยังสถานที่ใหม่ การเลือกที่พักกลายเป็นส่วนสำคัญของการท่องเที่ยว แต่การใช้เวลาหนึ่งคืนในโรงแรมก็หมายถึงการใช้ทรัพยากร ตั้งแต่ สบู่ ยาสีฟัน ไปจนถึงผ้าเช็ดตัวผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนที่เราใช้เพียงคืนสองคืน ก็ต้องซักล้าง  

ด้วยเหตุนี้ โรงแรมที่มองเผินๆว่าไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงต้องกลับมาทบทวนแนวทางการดำเนินงานใหม่ และร่วมมือกันสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อผลักดันโลกไปสู่ความยั่งยืนในระยะยาว

โรงแรมจึงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืน โดยสามารถบริหารจัดการทรัพยากร รวมถึงการจัดการขยะอย่างมีระบบ นอกจากนี้ โรงแรมยังสามารถสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นได้ผ่านการใช้วัตถุดิบจากเกษตรกรในพื้นที่และการจ้างงานจากชุมชน การให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติและวัฒนธรรม 

สุดท้าย โรงแรมจะกลายเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้เป็นไปอย่างยั่งยืนและสร้างผลกระทบเชิงบวก

 

 

การท่องเที่ยวไทยร่วมสร้างผลกระทบเชิงบวกด้วยความยั่งยืน

ผศ.ดร. จุฑามาศ วิศาลสิงห์ ประธานกรรมการบริหาร Perfect Link Consulting Group ที่ปรึกษาการจัดการแบบยั่งยืน เปิดเผยว่า ในยุคที่การท่องเที่ยวมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย การสร้างผลกระทบเชิงบวกในทุก ๆ ด้านจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมไม่ว่าจะเป็นใครหรือในรูปแบบใด “ความยั่งยืนคือหัวใจสำคัญของการท่องเที่ยวไทย” เธอ กล่าว 

โดย Perfect Link Consulting มีการจัดตั้ง “Social Labs” ซึ่งเป็นกระบวนการนำผู้เข้าร่วมจากภาคส่วนต่างๆ มาทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีความยั่งยืนต่อหลากธุรกิจ รวมถึงธุรกิจโรงแรม

จุฑามาศ ระบุว่า การจัดการอย่างยั่งยืนต้องคิดเชิงระบบ โดยเริ่มจาก

 

  1. มองทั้งระบบ การทำงานด้านความยั่งยืนต้องมีมุมมองที่กว้างขวางและเป็นองค์รวม
  2. เชื่อมโยงบทบาท ต้องเข้าใจว่าบทบาทของเราจะเชื่อมโยงกับใครบ้าง และสร้างความร่วมมือกับคู่ค้า ระบบการตลาด เพื่อให้ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้
  3. การวัดผล หากไม่สามารถวัดผลได้ ก็จะไม่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. ไม่เป็นอุปสรรค ไม่ว่าธุรกิจจะเล็กหรือใหญ่ ก็สามารถมองหาทางออกและร่วมกันพัฒนาความยั่งยืนได้

 

“แนวทางเหล่านี้ องค์กรต่าง ๆ ควรตรวจสอบว่าตนเองมีความคิดเช่นนี้อยู่หรือไม่ เพราะการจัดการที่ยั่งยืนไม่ใช่สิ่งที่แยกออกไปจากการท่องเที่ยวทั่วไป แต่เป็นการบริหารธุรกิจที่ต้องนำไปปฏิบัติในทุกระดับ การเข้าใจระบบห่วงโซ่และการทำงานแบบยั่งยืนจึงเป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจต้องให้ความสำคัญ”

 

 

ก้าวสู่ความยั่งยืนในโลกที่เปลี่ยนแปลง

จุฑามาศ ยังบอกว่า โลกได้ทำการบ้านเกี่ยวกับการจัดการที่ยั่งยืนมานานกว่า 50-60 ปี โดยเริ่มมีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปี 2511ซึ่งเป็นยุคของเบบี้บูมเมอร์ ที่ทำให้ประชากรโลกเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และในปี 2530 แนวคิดการจัดการที่ยั่งยืนได้รับการยอมรับในฐานะวาระระดับโลก โดยเรียกว่า ‘Agenda 2001’ ซึ่งกำหนดให้ทุกประเทศต้องวางแผนอนาคตในทุก 100 ปี

ปัจจุบันเหลือเวลาเพียง 6 ปีในการดำเนินการให้ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals-SDGs)  หากยังคงเริ่มต้นช้า อาจไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่ต้องการ ประเทศไทยเองได้เดินทางมาไกลตั้งแต่ปี 2593-2503 โดยเชื่อว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะเป็นอุตสาหกรรมที่ไม่ปล่อยคาร์บอนฯได้ เนื่องจากไม่มีโรงงานผลิต แต่เมื่อถึงปี 2513 พบว่าโรงแรมและการท่องเที่ยวเริ่มก่อให้เกิดมลพิษมากมายจากการใช้ทรัพยากร

จนในปี 2523 แนวคิดการท่องเที่ยวจำนวนมากไม่เป็นที่ยอมรับอีกต่อไป และเริ่มมองหาทางเลือกใหม่ เช่น การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และการท่องเที่ยวเชิงชุมชน โดยมุ่งหวังลดผลกระทบด้านลบ และเพิ่มผลกระทบเชิงบวกให้ได้มากที่สุด

ปัจจุบันประเทศไทยกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา พ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ซึ่งจะส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศสามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) สุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ. 2065 หรือ พ.ศ. 2608 โดยคาดว่ากฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2567 การปรับตัวและเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้จึงถือเป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับประเทศไทยเพื่อรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศในอนาคต

 

ที่พักสวนป่าดอยหลวง จังหวัดเชียงใหม่

 

เส้นทางสู่อนาคตที่ต้องตระหนัก

ดังนั้นทุกประเภทของธุรกิจการท่องเที่ยว รวมถึงโรงแรม ฟาร์ม และโฮมสเตย์ จะต้องมุ่งสู่การจัดการแบบยั่งยืน เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ในการนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ และสร้างผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพในระยะยาว ได้แก่ 

  1. ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้: ธุรกิจต้องมีกระบวนการปรับตัว เช่น การออกแบบโครงสร้างโรงแรมให้สามารถรับมือกับปัญหาสภาพอากาศ เช่น น้ำท่วม
  2. มาตรการที่จำเป็น: ต้องมีแผนปฏิบัติการเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการติดตามตรวจสอบคู่ธุรกิจ
  3. โปร่งใสในการสื่อสาร: การสื่อสารข้อมูลอย่างชัดเจนและโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญ
  4. การดูแลพนักงาน: ต้องให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนและดูแลพนักงาน
  5. ต่อต้านการทุจริต: ต้องมีมาตรการเพื่อต่อต้านการคอร์รัปชัน

 

โรงแรมแชงกรีลาเชียงใหม่เตรียมรับมือน้ำท่วม

 

ความร่วมมือเพื่ออนาคตที่ดีกว่า

จุฑามาศ ระบุว่า การท่องเที่ยวยั่งยืนไม่เพียงแต่เป็นแนวทางในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสและความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน ที่จะสามารถฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวและพัฒนาเมืองที่สร้างสรรค์และยั่งยืน เพื่อให้ประเทศไทยกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลในอนาคต

ขอบคุณภาพจาก Creative Citizen

 

ขอบคุณภาพจาก Creative Citizen

 

ด้าน ผศ.ดร.แก้วตา ม่วงเกษม อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการท่องเที่ยวและบริการจากมหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวแบบยั่งยืนเป็นแนวทางที่ต้องวางแผนร่วมกัน โดยมีการทำงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหน่วยงานภาครัฐในระดับจังหวัด เพื่อสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย

หลักการสำคัญของการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนคือการลดผลกระทบเชิงลบและเพิ่มผลกระทบเชิงบวกในด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม โดยประเทศไทยมีเป้าหมายในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืน และหวังว่าจะติดอันดับ TOP 100 แหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนทั่วโลก ซึ่งในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ส่งแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการยอมรับจำนวน 6 แห่งเข้าสู่การประกวด โดยความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงเทศบาลเล็ก ๆ เช่นจากอุทัยธานี

“เราเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงในด้านการท่องเที่ยวควรเป็นไปแบบองค์รวม โดยเน้นการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่ที่เสื่อมโทรม รวมถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างยั่งยืน ตัวอย่างเช่น การรักษาพื้นที่สีเขียวที่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า การตัดสินใจที่รอบคอบเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะส่งผลต่อความอยู่รอดของสัตว์และระบบนิเวศ”

การสนับสนุนการศึกษาในด้านการท่องเที่ยวก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในการสร้างความรู้และการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ในปี พ.ศ. 2570 เป้าหมายของเราคือการมีเมืองและชุมชนที่สร้างสรรค์และมีวัฒนธรรมที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลไม่น้อยกว่า 15 แห่ง เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืนและสร้างสรรค์ต่อไป

 

 

แนวทางโปรโมทการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน

ผศ.ดร.แก้วตา ยกตัวอย่างการท่องเที่ยวต้องผลักดันให้นักท่องเที่ยวเห็นและถูกชูขึ้นเป็นอันดับต้น ๆ จากการโปรโมทด้วย เช่น เว็บไซต์การท่องเที่ยวของสวิตเซอร์แลนด์นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับความยั่งยืนในการเดินทาง อาหาร และแหล่งท่องเที่ยว โดยไม่เพียงแต่โปรโมทโรงแรม แต่ยังให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้พลังงานน้ำและการเดินทางด้วยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ขั้นตอนการเดินทาง เช่น การลงจากเครื่องบินจนถึงที่พักที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ และชูจุดเด่นของสิ่งแวดล้อมและอากาศในช่วงฤดูกาลต่าง ๆ

 

 

ชณัฐ วุฒิวิกัยการ Content Creator จากช่อง KongGreenGreen เสริมตัวอย่าง หมู่บ้าน Kamikatsu ที่อยู่ห่างจากโอซาก้าประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านการจัดการขยะ โดยสามารถรีไซเคิลได้ถึง 80% จากก่อนหน้านี้ ชาวบ้านพึ่งพาการฝังกลบและการเผาขยะ จนกระทั่งเกิดปัญหาขยะล้นเมือง จึงคิดค้นศูนย์แยกขยะแบบละเอียดเพื่อส่งขยะไปรีไซเคิล ซึ่งทำให้หมู่บ้านนี้กลายเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ผู้สูงวัยในชุมชนก็มีรายได้จากการท่องเที่ยว ทำให้ทุกคนในชุมชนได้รับประโยชน์จากการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

กลยุทธ์จากแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค

พรธิชา วงศ์ยานนาวา ผู้จัดการด้านความยั่งยืนของโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค เน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและการลดขยะ โดยมีแนวคิดว่าขยะสามารถกลับมาเป็นทรัพยากรได้หากเรามีการจัดการที่ถูกต้อง ตัวอย่างกลยุทธ์ที่โรงแรมดำเนินการ ได้แก่

  1. การอบรมพนักงาน เพื่อสร้างชุมชนที่ดีขึ้น
  2. การจัดการขยะอาหาร ทั้งจากการปนเปื้อนและเศษอาหารที่เหลือ
  3. การเพิ่มพื้นที่สีเขียว และความร่วมมือกับเขตคลองเตยในการทำปุ๋ยหมัก
  4. การทำแคมเปญ เพื่อกระตุ้นให้พนักงานมีส่วนร่วมในการลดขยะอาหาร

 

วิชการ ปลอดกระโทก CEO แพลตฟอร์ม Wake Up Waste ยังกล่าวถึงการรีไซเคิลวัสดุขยะ เช่น ขวดน้ำ PET เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง การลดการใช้ทรัพยากรอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่สะดวก แต่จำเป็นต้องหาความพอดีในการจัดการ เช่น การไม่เปลี่ยนผ้าเช็ดตัวบ่อยหรือการปรับแรงดันน้ำ และการให้ความรู้แก่พนักงานสามารถช่วยสร้างรายได้จากการขายขยะรีไซเคิล