PM2.5 กับเสียงสะท้อนจากโลกออนไลน์ ปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของคนไทย

PM2.5 กับเสียงสะท้อนจากโลกออนไลน์ ปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของคนไทย

 

ฝุ่น PM2.5 กลายเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของคนไทย โดยเฉพาะช่วงต้นปีที่ค่าฝุ่นมักเกินมาตรฐาน ส่งผลต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิต บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด จึงสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้โซเชียลมีเดียผ่านเครื่องมือ DXT360 เพื่อวิเคราะห์มุมมองและกระแสสังคมต่อปัญหานี้

 

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเดือนมกราคม ปัญหาฝุ่น PM2.5 กลายเป็นเรื่องที่คนไทยต้องเผชิญทุกปี ค่าฝุ่นที่สูงเกินมาตรฐานส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นโรคทางเดินหายใจ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และข้อจำกัดในการใช้ชีวิตกลางแจ้ง จึงไม่แปลกที่ประเด็นนี้ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง ทั้งในแง่ผลกระทบและมาตรการที่รัฐและเอกชนควรดำเนินการ

บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้โซเชียลมีเดียเกี่ยวกับปัญหาฝุ่น PM2.5 ระหว่างวันที่ 1-31 มกราคม 2568 โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล DXT360 ที่ติดตามข้อมูลจากทั้งโซเชียลมีเดียและสื่อดั้งเดิม ผลสำรวจชี้ว่าคนส่วนใหญ่ต้องการเห็นมาตรการที่เป็นรูปธรรมและได้ผลจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

 

 

โดยรัฐบาลเป็นหน่วยงานที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด (35%) ประชาชนต้องการให้ดำเนินมาตรการแก้ปัญหามลพิษอย่างจริงจัง รวมถึงการจัดสรรงบประมาณให้เหมาะสม ส่วนหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม (25%) ถูกพูดถึงในประเด็นการแจ้งเตือนค่าฝุ่น แต่กลับขาดมาตรการเชิงรุกในการจัดการต้นตอของมลพิษ

หน่วยงานด้านขนส่ง (15%) อย่างกระทรวงคมนาคมและ ขสมก. ถูกพูดถึงในแง่ของโครงการเดินทางฟรี ที่แม้จะช่วยลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว แต่ยังมีข้อจำกัดด้านเส้นทางและการให้บริการ รถเมล์พลังงานเชื้อเพลิงยังคงถูกใช้เป็นหลัก ทำให้ไม่ได้ลดมลพิษเท่าที่ควร ขณะที่กรุงเทพฯ และหน่วยงานท้องถิ่น (10%) ถูกพูดถึงในแง่การดำเนินมาตรการที่ประชาชนมองว่าเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ส่วนหน่วยงานด้านสาธารณสุข (7%) ถูกเรียกร้องให้เพิ่มข้อมูลแนวทางป้องกันสุขภาพผ่านช่องทางต่างๆ ให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

 

 

มาตรการรัฐตอบโจทย์จริงไหม?

  • รถไฟฟ้า-รถเมล์ฟรี: ชาวเน็ตบอกว่าใช้งบเยอะ แต่ช่วยแก้ปัญหาได้แค่ปลายเหตุ แถมยังเข้าถึงยากในบางพื้นที่
  • เรียนออนไลน์: เด็กเรียนลำบาก พ่อแม่ต้องรับภาระเพิ่ม โรงเรียนบางแห่งยังไม่พร้อม อุปกรณ์และอินเทอร์เน็ตก็เป็นปัญหา
  • Work From Home: ทำได้แค่บางอาชีพ บางบริษัทไม่อนุญาตเพราะไม่มีข้อบังคับชัดเจน

ในส่วนของมาตรการที่ถูกพูดถึงในโซเชียล เช่น การให้บริการรถไฟฟ้าและรถโดยสารสาธารณะฟรี แม้จะช่วยลดปัญหาฝุ่นในระยะสั้น แต่ประชาชนมองว่ายังไม่ใช่การแก้ไขที่ต้นเหตุและอาจใช้งบประมาณสูงเกินไป ขณะที่มาตรการเรียนออนไลน์ แม้ช่วยลดความเสี่ยงของเด็กนักเรียน แต่ก็สร้างภาระให้ผู้ปกครอง และส่งผลต่อคุณภาพการศึกษา ส่วน Work From Home เป็นแนวทางที่ดีแต่ไม่สามารถใช้ได้กับทุกอาชีพ อีกทั้งไม่ใช่ข้อบังคับ ทำให้บางองค์กรไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่

 

ฝุ่นทำร้ายเรามากกว่าที่คิด

ผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ไม่ได้จำกัดแค่ด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและสังคมด้วย ประชาชนต้องเผชิญกับค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการซื้อหน้ากากและเครื่องฟอกอากาศ รวมถึงการสูญเสียรายได้จากการลาป่วย บางคนต้องเปลี่ยนพฤติกรรม หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง และปรับไลฟ์สไตล์เพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ ด้านสิ่งแวดล้อม ฝุ่นควันทำให้ทัศนวิสัยแย่ลง กระทบต่อระบบนิเวศ และเป็นปัญหาที่สะสมต่อเนื่อง

 

ถอดบทเรียนปักกิ่ง-โซล มาใช้กับไทยได้ไหม?

มีการพูดถึงแนวทางการแก้ปัญหาฝุ่นจากต่างประเทศ โดยเฉพาะปักกิ่งและโซล ที่ใช้มาตรการเข้มงวด เช่น การจำกัดรถยนต์ส่วนตัวและการสั่งปิดโรงงานที่ปล่อยมลพิษสูง ประชาชนบางส่วนมองว่าไทยสามารถนำแนวทางเหล่านี้มาปรับใช้ได้หากมีการบังคับใช้กฎหมายที่จริงจังและต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บางกลุ่มมองว่ายังเป็นไปได้ยากเพราะมีข้อจำกัดหลายด้าน ทั้งเรื่องผลกระทบต่อภาคธุรกิจและประชาชนที่ยังขาดทางเลือกอื่น

 

ไอเท็มยอดฮิตรับมือฝุ่น

  • เครื่องฟอกอากาศ: คนแห่ซื้อจนสินค้าขาดตลาด บางคนบ่นว่าราคาแพงเกินไป
  • หน้ากากอนามัย: รุ่น KF94 และ N95 มาแรงสุด เพราะกันฝุ่นได้ดี แต่ราคาก็พุ่งสูงตามความต้องการ
  • ความกังวล: คนอยากให้ภาครัฐคุมราคาสินค้าป้องกันฝุ่นให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

ในช่วงที่ฝุ่น PM2.5 หนักขึ้น “เครื่องฟอกอากาศ” กลายเป็นไอเท็มที่ถูกพูดถึงมากบนโซเชียล ทั้งในแง่ของราคาที่มีตั้งแต่ถูกไปถึงแพง ประโยชน์ในการช่วยกรองอากาศ และคำแนะนำในการเลือกซื้อ เช่น แบรนด์ไหนคุ้มค่า ใช้งานอย่างไรให้ได้ผลสูงสุด อีกหนึ่งสิ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันคือหน้ากากกันฝุ่น โดยเฉพาะรุ่น KF94 และ N95 ที่กันฝุ่นได้มีประสิทธิภาพ แต่ปัญหาคือราคาของอุปกรณ์ป้องกันเหล่านี้มักพุ่งสูงขึ้นในช่วงวิกฤติ ทำให้ประชาชนบางส่วนเข้าถึงได้ยาก จึงเกิดเสียงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาควบคุมราคาและดูแลให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอุปกรณ์เหล่านี้ได้ง่ายขึ้น

 

โดยสรุป ปัญหาฝุ่น PM2.5 ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ประชาชนต้องการมาตรการที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืนมากกว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การลดต้นตอของมลพิษเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการช่วยเหลือประชาชนให้สามารถป้องกันตัวเองจากฝุ่นได้อย่างทั่วถึง หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันจริงจัง เราอาจเห็นอากาศที่สะอาดขึ้นในอนาคต

 

ที่มาภาพ : ดาต้าเซ็ต