วิธีรักษา เยียวยาใจ เมื่อรู้ว่าป่วยเป็นมะเร็ง จากความเชื่อของ นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ทูตต่อต้านมะเร็งระดับสากล เธอบอกว่ากำลังใจจากภายในคือยารักษาชั้นดี เพราะ ‘มะเร็งเป็นโรคกลัวความสุข’ ดีไซน์การใช้ชีวิตตัวเองให้เต็มที่ ทำในสิ่งที่อยากทำ
เป็นที่ทราบกันดีว่า มะเร็งถือเป็นโรคร้ายสำหรับคนทุกช่วงวัย จากรายงานสถิติปี 2566 โดยกระทรวงสาธารณสุขพบว่า แนวโน้มผู้ป่วยมะเร็งเพิ่มสูงขึ้นทุก ๆ ปี โดยปีที่ผ่านมามีผู้ป่วยรายใหม่กว่า 140,000 คน ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 80,000 คนต่อปี ซึ่งอัตราการเสียชีวิตอันดับหนึ่งคือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี ตามด้วยมะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งปากมดลูก ตามลำดับ
หยุดแนวคิดไม่ตรวจ เท่ากับไม่เจอ
สาเหตุการเป็นมะเร็งส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันจนกลายเป็นปัญหาเรื้อรังด้านสุขภาพ เช่นเดียวกับ นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา นักแสดง ซึ่งตรวจพบโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ และรักษามาเป็นระยะเวลากว่า 4 ปี นับตั้งแต่ช่วงโควิด-19 เป็นต้นมา
โดย นุ๊ก สุทธิดา เล่าว่า สาเหตุที่ทำให้ตนเองเป็นมะเร็งส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการใช้ชีวิตที่ไม่ค่อยใส่ใจตัวเอง ซึ่งหลายคนเป็นเช่นนั้น และหลายคนมักจะมีแนวคิดว่า ‘ไม่ตรวจ เท่ากับไม่เจอ’ นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดี ทุกคนต้องตรวจสุขภาพ หมั่นดูแลรักษาตัวเอง ตรวจพบโรคก็ต้องรักษา
พร้อมกับเล่าความรู้สึก และประสบการณ์ในการรักษากว่า 4 ปีที่ผ่านมา ทำการผ่าตัดนำมะเร็งบริเวณต่อมไทรอยด์ และมะเร็งในส่วนที่กระจายไปทางต่อมน้ำเหลืองอีกประมาณ 16 จุด ออกแล้ว
หลังจากนั้นจะเป็นการกลืนแร่หรือให้คีโม แต่การกลืนแร่ หมอที่รักษาหวังว่าจะทำให้มะเร็งเกือบหมดหรือหมดไป แต่ปรากฏว่ามะเร็งยังไม่หมด จึงต้องรักษาต่อด้วยการพบหมอตรวจเลือดทุก 3 เดือน และอัลตร้าซาวด์ ทุก 6 เดือน เพื่อติดตามอาการของโรค
จนกระทั่ง ‘นุ๊ก สุทธิดา’ ได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับนวัตกรรมการรักษามะเร็งที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เน้นการรักษาแบบการกินอาหาร และมองว่ามะเร็งคือโรคชนิดหนึ่งรักษาได้ ซึ่งค่อนข้างตรงกับจริตความชอบ จึงรู้สึกว่าแนวทางนี้เป็นแนวทางที่ดี อยากให้ทำการรักษาจริงจัง จึงตัดสินใจบินไปปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่แสตมฟอร์ด กว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน
“ความตั้งใจไปจีน เพราะจะไปฉีดแร่ เป็นการรักษาโรคมะเร็งประเภทหนึ่งของรังสีรักษา ตอนแรกก็คิดว่าเอาออกใกล้หมดแล้ว แต่เมื่อหมอจีนตรวจอย่างละเอียดกลับพบว่าก้อนมะเร็งใหญ่กว่าที่คิดไว้ และพบถึง 3 ก้อน คุณหมอแนะนำว่าไม่ควรฉีดแร่ ทำให้เหลือแนวทางการรักษาเพียง 2 ทางคือ ผ่าตัด และฉีดเซลล์ต้นกำเนิด”
เซลล์ต้นกำเนิด นวัตกรรมรักษาจากจีน
แต่ในไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับ
นุ๊ก สุทธิดา กล่าวว่า การฉีดเซลล์ต้นกำเนิดเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะช่วยทำให้เซลล์โดยรวมแข็งแรงและไม่กลาย ไม่ขยายใหญ่ขึ้น เหมือนเป็นการชะลอการโตของเซลล์ร้าย อีกทั้งยังเป็นการช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันตก เพราะคนเป็นมะเร็งจะเผชิญภาวะนี้ค่อนข้างมาก เช่น ตัวเองที่เมื่อไรก็ตามที่นอนน้อย ระบบประสาทจะรวน จะได้กลิ่นควันตลอดเวลา ออกแนวไสยศาสตร์ หรือตาบวม หัวปูด เป็นต้น
สำหรับการฉีดเซลล์ต้นกำเนิด มีบางประเทศที่อนุญาตให้ฉีดตามกฎหมาย แต่ที่ไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับการรักษาแบบนี้
“สำหรับคนที่ป่วยหมอจะบอกว่า ฉีดปีละครั้งก็ได้ แต่ถ้าคนที่ปกติหมายถึงว่าเซลล์เขาอาจจะสมบูรณ์ ร่างกายแข็งแรงกว่า อาจจะ 2 ปีต่อครั้ง บางคนคิดว่าฉีดแล้วโอเคแล้วก็ไม่ฉีดอีกก็ได้ หมอบอกว่าฉีดเสร็จสามารถนั่งพัก 1 ชั่วโมงและเดินได้เลย”
วัฒนธรรมการรักษาระหว่างหมอไทยกับหมอจีน
นุ๊ก สุทธิดา เล่าว่า จากประสบการณ์การรักษาที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าวัฒนธรรมหมอไทยกับหมอจีนไม่เหมือนกัน หมอไทยจะเป็นแนวพูดให้กำลังใจ พูดอ้อมค้อม ไม่ค่อยพูดให้รายละเอียดที่ชัดมาก ทำให้ผู้ป่วยไม่ค่อยรู้รายละเอียดลึก แต่ที่จีนจะให้เวลาปรึกษานานมาก และพูดคุยนาน ตรวจละเอียด และพูดชัดเจน ซึ่งก็มีข้อดีแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ป่วยอยากได้ยินแบบไหน แบบพูดตรง หรือแบบให้กำลังใจ
ดีไซน์ชีวิตตัวเองที่เหลือ ‘มะเร็งกลัวความสุข’
“นุ๊กอยากจะบอกทุกคนว่าไม่ว่าจะป่วยหนักแค่ไหนมันมีโอกาสเป็นปกติได้ หลายคนทักเราว่า ทำไมดูไม่กลัวมะเร็งเลย เพราะทุกคนกลัวกันหมด ตอนตรวจพบก็มีวูบบ้าง แต่ไม่แปลกที่คนจะกลัวโรคร้าย ให้มองว่าเป็นเรื่องปกติ ก็มีสิทธิ์ที่จะกลัว แต่เราก็มีสิทธิ์ที่จะดีไซน์ชีวิตที่เหลืออยู่ได้ ดีไซน์วิธีการรักษาของเราไปในรูปแบบที่เราต้องการ โดยเฉพาะโรคมะเร็งค่อนข้างจะกลัวความสุข ฉะนั้นเราก็ต้องทำให้จิตใจของเรามีความสุข”
กำลังใจเป็นเรื่องสำคัญ โดยกำลังใจจากภายในตัวเองสำคัญสุด ‘นุ๊ก สุทธิดา’ มองเช่นนั้น
“ไม่ว่าทุกอย่างจะเป็นอย่างไร อยู่ที่เรามอง ถ้าเราคิดกับมันยังไง มันก็จะมีค่ากับเราอย่างนั้น อย่างที่สองคือกำลังใจจากรอบข้าง เป็นกำลังใจรอง ถ้าเราป่วย แล้วเราไม่ให้กำลังใจตัวเอง ไม่พยายามต่อสู้ด้วยตัวเองจากภายในต่อให้มีคนรอบข้างเป็น 100 คนก็ช่วยอะไรเราไม่ได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องสู้ไปพร้อมกับการมีกำลังใจจากคนรอบข้าง”
ได้รับแต่งตั้งเป็นทูตต่อต้านมะเร็งระดับสากล
ทั้งนี้จากมุมมองการใช้ชวิตของนุ๊ก สุทธิดา จึงสอดคล้องกับบทบาท ‘ทูตต่อต้านมะเร็งระดับสากล’ ที่สมาคมมะเร็งบ๋ออ้ายมอบให้ โดยเธอบอกว่า รู้สึกว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ร่วมงานในครั้งนี้ ในการให้กำลังใจผู้ป่วยมะเร็งด้วยกัน เพื่อส่งพลังใจถึงกัน
“ไม่ใช่แค่เราเป็นฝ่ายให้ ตัวเราเองก็เป็นฝ่ายได้รับเหมือนกัน เวลาที่เราได้ไปพูดคุยกับผู้ป่วยด้วยกัน”
เริ่มเคาท์ดาวน์ตัวเอง
นุุ๊ก สุทธิดา ยังบอกว่า ทุกคนรู้ว่าในที่สุดต้องตาย แต่จะไม่มีใครรู้สึกถึงคำพูดนี้ได้ดี เท่าคนคนที่เห็นความตายอยู่ตรงปลายจมูก “เราผ่านการรอฟังผลแล้วเหงื่อแตกทุกรูขุมขน” จนสุดท้ายทำใจได้ว่าไม่ใช่แค่เราคนเดียว ชีวิตทุกคนเกิดมาก็ต้องเคาท์ดาวน์ทันที
ทำความรู้จัก เซลล์ต้นกำเนิดคืออะไร?
เซลล์ต้นกำเนิด หรืออีกชื่อทางการแพทย์คือ ‘สเต็มเซลล์’ เป็นเซลล์ที่มีคุณสมบัติในการแบ่งตัวเพื่อเพิ่มจำนวนตัวเองได้ (self-renew) และสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเอง (differentiate) ให้กลายเป็นเซลล์อื่นที่ทำหน้าที่หลากหลายได้
ในร่างกายของเรามีเซลล์ต้นกำเนิดอยู่ภายในไขกระดูกและเนื้อเยื่ออื่นต่างๆ เช่น เซลล์ไขมัน สมอง และกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถนำมาเพาะเลี้ยงเป็นเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อใช้งานได้ ซึ่งปัจจุบันมีการศึกษาทดลองอย่างกว้างขวาง แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากความยากในการเลี้ยงเซลล์ต้นกำเนิดให้มีชีวิตรอดนั้นจำเป็นต้องอาศัย สภาพแวดล้อมที่มีลักษณะเฉพาะ และต้องดูแลอย่างเข้มงวดทุกกระบวนการ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของสิทธิมนุษยชน และจริยธรรมทางการวิจัยมากำกับควบคุมอีกด้วย
ขณะที่การใช้เซลล์ต้นกำเนิดเข้าไปซ่อมแซมการทำงานของอวัยวะโดยการฉีดเข้าไปในอวัยวะนั้นโดยตรง หรือฉีดเข้าไปในกระแสเลือด โดยหวังจะให้เซลล์ต้นกำเนิดที่ฉีดเข้าไปนั้นเปลี่ยนเป็นเซลล์ที่ต้องการ เพื่อทำหน้าที่ซ่อมแซมเซลล์ที่มีปัญหาต่อไป ซึ่งปัจจุบันการรักษาด้วยแนวนี้ ยังไม่ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย